สวัสดีเพื่อนๆทุกคนค่ะ มีเพื่อนๆคนไหนที่ใช้โทรศัพท์ไอโฟน แต่ไม่เคยเช็กสุขภาพของแบตเตอรี่เครื่องตัวเองบ้างคะ บางคนใช้มานานแต่ไม่เคยเช็ก มารู้อีกทีแบตก็เสื่อมจนต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่แล้ว วันนี้ผู้เขียนจึงได้นำวิธีง่ายๆในการเช็กสุขภาพแบตเตอรี่ของไอโฟน มาฝากเพื่อนๆกันค่ะ เป็นวิธีง่ายๆที่สามารถเช็กได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องเสียเวลาไปที่ร้าน แถมยังรู้ว่าแบตเตอรี่ที่ใช้งานอยู่ในระดับไหน แบตเตอรี่เสื่อมหรือไม่ ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่หรือยัง ถ้าเพื่อนๆอยากรู้แล้วว่ามีวิธีทำยังไง สามารถทำตามขั้นตอนข้างล่างนี้ได้เลยค่ะขั้นตอนการเช็กสุขภาพแบตเตอรี่ 1. เปิดไปที่หน้าแรกของโทรศัพท์ไอโฟน จากนั้นให้กดเข้าไปที่ ตั้งค่า หรือ Settings ตามภาพข้างล่างนะคะ2. เมื่อเข้ามาในหน้า Settings แล้วจะเห็นหลายเมนู ให้เลื่อนมาข้างล่าง หาคำว่า แบตเตอรี่ หรือ Battery แล้วกดเข้าไปตามภาพข้างล่างค่ะ3. เมื่อกดเข้ามาในหน้าแบตเตอรี่ จะขึ้นหน้าจอดังภาพข้างล่างนะคะ เป็นหน้าจอแสดงระดับของแบตเตอรี่ ณ ปัจจุบัน และกิจกรรมการใช้งานแบตเตอรี่ค่ะ จากนั้นให้เรากดเข้าไปที่ เมนู สุขภาพแบตเตอรี่ ค่ะ 4. เมื่อกดเข้ามาในหน้าสุขภาพของแบตเตอรี่ ก็จะขึ้นหน้าจอดังภาพข้างล่างนี้นะคะ หน้าจอนี้นะคะ จะแสดงผลให้เราทราบว่า แบตเตอรี่โทรศัพท์ของเราเสื่อมหรือยัง โดยมีวิธีการดู ดังนี้ค่ะช่องแรกจะเขียนรายละเอียดปริมาณความจุของแบตเตอรี่ ณ ปัจจุบัน เมื่อเทียบกับขณะที่เป็นแบตเตอรี่ใหม่ โดยแสดงเป็นจำนวนตัวเลขเปอร์เซ็นต์ ค่านี้เป็นค่าที่บ่งบอกว่า แบตเตอรี่ของเราเสื่อมหรือไม่ ซึ่งโทรศัพท์ไอโฟนเครื่องใหม่ ที่ยังไม่ได้ใช้งาน จะมีปริมาณความจุของแบตเตอรี่อยู่ที่ 100% และหลังจากที่เราใช้งานไปเรื่อยๆ จะทำให้ปริมาณความจุของแบตเตอรี่เราลดลง และปริมาณความจุที่ลดลงก็ส่งผลให้ชั่วโมงการใช้งานของแบตเตอรี่เราลดลงด้วย เมื่อลดลงเรื่อยๆก็ส่งผลตามมาคือ โทรศัพท์แบตหมดเร็ว หรือดับไปเอง หรือที่เราเรียกว่า แบตโทรศัพท์เสื่อม นั่นเองค่ะ ดังนั้นการเข้าเช็กสุขภาพของแบตเตอรี่เป็นสิ่งที่สำคัญมากที่จะช่วยป้องกันปัญหาแบตโทรศัพท์เสื่อมโดยที่เราไม่รู้ตัว แต่หลายคนคงมีคำถามว่า ปริมาณความจุแบตเตอรี่เท่าไหร่ถึงบ่งบอกว่าแบตเตอรี่เรากำลังเสื่อมหรือจำเป็นต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่แล้ว วันนี้ผู้เขียนจึงมาให้คำตอบค่ะ ว่าปริมาณความจุของแบตเตอรี่ที่เสื่อม คือความจุที่มีตัวเลขต่ำกว่า 80% ลงไปค่ะ ซึ่งจำเป็นต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ แต่บางคนอาจมีคำถามว่า ถ้ายังไม่เปลี่ยนแบตจะสามารถใช้งานได้ปกติไหม คำตอบคือ ใช้งานได้ค่ะ แต่อาจจะมีอาการโทรศัพท์แบตหมดเร็ว ชาร์จแบตไม่ค่อยเข้า หรือมีอาการเครื่องดับไปเอง ซึ่งอาการเรานี้อาจทำให้เราหงุดหงิดได้ หรือใช้งานโทรศัพท์ไม่สะดวก ผู้เขียนจึงแนะนำว่า ควรเปลี่ยนแบตโทรศัพท์เมื่อมีปริมาณความจุที่ลดลงต่ำกว่า 80% ค่ะ เพื่อการใช้งานที่ดีขึ้นค่ะวิธีป้องกันหรือยืดอายุการใช้งานไม่ให้ไอโฟนเสื่อมเร็ว1. ไม่ควรเล่นหรือใช้งานไอโฟน จนแบตหมด เนื่องจากการชาร์จแบตต่ำกว่า 30% จะทำให้ตัวเครื่องร้อนแลัวส่งผลต่ออายุการใช้งานของแบตเตอรี่ได้2. อัพเดต ios ให้เป็นเวอร์ชั่นใหม่อยู่เสมอ เพื่อรับฟิวเจอร์ใหม่ๆ3. ไม่เล่นโทรศัพท์ในขณะที่ชาร์จแบตโทรศัพท์อยู่ เพราะอาจทำให้เกิดความร้อน ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพการใช้งานของแบตเตอรี่ลดลงได้4. ใช้อุปกรณ์การชาร์จแบตโทรศัพท์ที่ได้มาตรฐาน จะช่วยป้องกันผลเสียที่อาจเกิดขึ้นกับอุปกรณ์รวมทั้งตัวโทรศัพท์ด้วย5. เปิดใช่งานฟิวเจอร์ การชาร์จเพื่อถนอมแบตเตอรี่ ตามภาพข้างล่างนี้นะคะ จะช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ได้ค่ะเป็นยังไงบ้างคะกับวิธีการเช็กสุขภาพแบตเตอรี่ไอโฟน ว่าแบตไอโฟนของเราเสื่อมหรือไม่ นอกจากช่วยให้เราทราบสถานะแบตเตอรี่ปัจจุบันของเราแล้ว ยังทำให้เราทราบประสิทธิภาพการใช้งานของแบตเตอรี่ และสามารถรับมือกับปัญหาแบตเตอรี่เสื่อมได้ทุกเมื่อ ถึงแม้การเช็กดูสุขภาพของแบตเตอรี่ ไม่ได้ทำให้แบตเตอรี่ของเรากลับมามีประสิทธิภาพเต็มร้อยได้เหมือนเดิม แต่การเช็กแบตก็ช่วยให้เราอยากหาวิธีที่จะถนอมการใช้งานโทรศัพท์ ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานได้มากขึ้นนะคะ สำหรับเพื่อนๆคนไหน อยากทราบสุขภาพของแบตไอโฟนตัวเอง หรืออยากทราบว่าแบตไอโฟนเสื่อมหรือไม่ ก็สามารถทำตามขั้นตอนข้างบนได้นะคะ และเพื่อนคนไหน มีวิธีป้องกันหรือยืดอายุการใช้งานไม่ให้ไอโฟนเสื่อมเร็ว ก็สามารถคอมเม้นต์แลกเปลี่ยนกันได้เลยนะคะ ภาพประกอบหน้าปก โดย JohannesBluemel Photography จาก unsplashภาพประกอบ โดย ผู้เขียนเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !