งานประจำก็มี งานด่วนก็เข้า ทำยังไงถึงจะทันเวลา ใครเจอปัญหาเหล่านี้บ้าง...เช้าของวันทำงาน เปิดประตูออฟฟิศเข้าไปและนั่งประจำโต๊ะทำงานตัวเอง มองซ้ายแลขวา จัดลำดับงานประจำที่จะทำ เปิดคอมพิวเตอร์อย่างอารมณ์ดีและใจเย็น สักพักแชทเฟสจากเจ้าหน้าที่แผนกอื่นทักเข้ามาพร้อมส่งงานมาให้ ห้อยท้ายด้วยคำว่า ด่วนนะ!! เท่านั้นแหละ แทบอยากทุบโต๊ะแล้วเดินหนีไปเลย..สิ้นสุดการมโน ในความเป็นจริง คือ เราทำได้แค่พับงานประจำที่ตั้งใจไว้ เริ่มตั้งสติและเปิดดูงานด่วนชิ้นนั้น สักพักพี่ในแผนกเดียวกันเดินมาบอกว่า "พรุ่งนี้จะไปทำงานข้างนอก ทำหนังสือให้หน่อยนะ" โฟกัสที่คำว่า "พรุ่งนี้" อ่ะ เป็นเพื่อน ๆ จะเดือดไหมคะทีนี้ทั้งงานประจำที่ต้องทำทั้งงานด่วนจากนอกแผนกที่เข้ามาและงานด่วนจากแผนกเดียวกันก็มาอีกคุณค่ะ ฉันอยากแยกร่าง!!! นั้นคือ สิ่งที่มโนอีกครั้ง และต้องดับลงด้วยการเผชิญความจริง ตั้งสติและก้มหน้าทำต่อไป...คิดจะเดินสายพนักงานออฟฟิศมันต้องสตรอง!! งานด่วนต้องทำก่อนเสมอมาค่ะ เราจะบอกวิธีเตรียมพร้อมรับมือกับงานด่วนกันStep 1 เคลียร์งานประจำของเราให้เสร็จเป็นวัน ๆ ไปขอบคุณภาพจาก https://stocksnap.io/photo/EJTSLKISGOเราทุกคนล้วนมีหน้าที่ประจำของตัวเอง หากในวันนั้น ไม่มีงานด่วนใด ๆ แทรกเข้ามา ให้เพื่อน ๆ ตั้งใจเคลียร์งานของตัวให้จบ เตรียมพร้อมรับงานใหม่ในวันต่อไปStep 2 จัดตารางเวลาสำหรับงานด่วนและงานประจำขอบคุณภาพจาก https://www.pexels.com/th-th/photo/760710/ให้เวลาสำหรับงานประจำที่ต้องเคลียร์ในแต่ละวัน ก่อน หรือ หลังหมดเวลางาน อย่างน้อย 2 ชั่วโมง โดยเพื่อน ๆ อาจจะดึงเอางานด่วนขึ้นมาทำก่อนหากเกิดปัญหาจะได้มีเวลาในการเตรียมข้อมูลหรือแก้ไข และสุดท้ายอย่าลืมกลับไปจัดการกับงานประจำให้เรียบร้อย เพื่อไม่ให้หนักเกินไปสำหรับวันพรุ่งนี้Step 3 สร้างความเข้าใจกับคนในแผนกเดียวกันขอบคุณภาพจาก https://www.pexels.com/th-th/photo/1181435/นอกจากงานประจำ งานด่วนนอกแผนกแล้ว ปัญหาที่กวนใจที่สุด คือ คนในแผนกเดียวกัน ส่งงานมาให้ในเวลาที่จำกัด ดังนั้น เพื่อให้ง่ายต่อการทำงาน ลดความหงุดหงิดใจในการทำงาน เรียกง่าย ๆ ว่า เสียอารมณ์ นั้นแหละ เพื่อน ๆ ต้องสร้างความเข้าใจกับคนในแผนกเดียว เช่น ระยะเวลาสำหรับยื่นเอกสารล่วงหน้ากี่วัน กระบวนการทำงานเป็นแบบไหน เรามีหน้าที่รับผิดชอบอะไรบ้าง เพราะเราต้องเผื่อเวลาสำหรับงานด่วนที่เข้ามา รวมทั้งการแก้ปัญหาต่าง ๆ ระหว่างวันStep 4 ไม่ทันจริง ๆ ก็ให้วาจาทำงานขอบคุณภาพจาก https://www.pexels.com/th-th/photo/1181717/ข้อนี้ เราไม่ได้หมายถึง ให้เพื่อน ๆ อ้างไปเรื่อย ต่อรองไปเรื่อยนะ งานทุกอย่างย่อมต้องมีการใช้คำพูด ใช้การเจรจา งานทางด้านการตลาดยังใช้การเจรจาต่อรองเพื่อให้ได้ราคาที่ถูกกว่า เพื่อให้ลูกค้าซื้อผลิตภัณฑ์ของเรา ครู อาจารย์ ก็ใช้วาจา ใช้คำพูดในการถ่ายทอดให้นักเรียนเข้าใจและยอมรับ งานออฟฟิศ เมื่อไม่ทันจริง ๆ ก็ต้องพูดคุยรูปแบบเนื้องาน แนวทางที่เป็นไปได้เพื่อไม่ให้เสียงาน ผลจากการเจรจา เราอาจจะได้คนช่วยงานเพื่อให้ทันเวลา หรืออาจจะได้ข้อมูลสนับสนุนเพิ่มเติม หรือเราอาจจะได้รับการต่อเวลา ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับเพื่อน ๆ ด้วยนะ ต้องเต็มที่กับงานก่อน การเจรจาจะไม่ใช่เจรจาเพื่ออ้างนั้นนี่ แต่จริง ๆ แล้ว เพื่อน ๆ ไม่ได้ใส่ใจงาน ปล่อยปะละเลย แบบนี้ไม่ได้นะคะเพื่อน ๆ ลองทำดูนะ เป็นกำลังใจให้กับมนุษย์เงินเดือนทุกคนนะคะ ขอให้สนุกกับการทำงานค่ะ...^^ขอบคุณภาพหน้าปกจาก https://stocksnap.io/photo/XQBTIHMJPO