นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ต้อนรับ ลิเวอร์พูล ศึกพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 27 สิงหาคม เป็นแมตช์หนึ่งอันน่าตื่นเต้นช่วงสุดสัปดาห์นี้ "เดอะ แม็กพายส์" สร้างความประทับใจแก่กองเชียร์ ฤดูกาลที่แล้ว ซิวโควตา ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ครั้งแรกรอบ 20 ปี แต่เสียท่าแก่ ทีมของ เจอร์เกน คล็อปป์ ทั้งเหย้า-เยือน อย่างไรก็ตาม ถิ่นเซนต์ เจมส์ ปาร์ก เปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาล ภายใต้การคุมทีมของ เอ็ดดี ฮาว จากทีมที่ดิ้นรนเพื่ออยู่รอดบนลีกสูงสุด สู่การลุ้นติดพื้นที่สโมสรยุโรป ขณะที่สาวก "เดอะ ค็อป" ยังต้องรอดูผลการสร้างทีมใหม่ ซึ่ง "เดอะ เรดส์" ยังมีหลายสิ่งต้องพิสูจน์ความเคลื่อนไหว โจลินตัน คาดว่าจะผ่านความฟิต หลังบาดเจ็บจากเกมแพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี 0-1 วันเสาร์ที่ผ่านมา (19 ส.ค.) ขณะที่ ลูอิส ฮอลล์ กองหลังป้ายแดง มีสิทธิ์ถูกใส่ชื่อ ถึงแม้ยังถูกสนิมจับ และ 3 นักเตะ โจ วิลล็อค, เอมิล คราฟธ์, ฆาเบียร์ มานควิโญ ยังไม่พร้อม ด้าน "หงส์แดง" ชนะการอุทธรณ์ใบแดง สัปดาห์ที่แล้ว ทำให้ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ มิดฟิลด์อาร์เจนไตน์ กลับมาลงสนาม แต่ตำแหน่งการยืนยังต้องลุ้นว่าจะรับบทเบอร์ 6 (ตัวรับ) เหมือน 2 นัดแรก หรือขยับมาเป็นเบอร์ 8 (รุก-รับ) คู่กับ โดมินิก โซบอสซ์ไล หรือไม่ ขึ้นอยู่กับ คล็อปป์ กล้าส่ง วาตารุ เอ็นโด ลงเล่นตัวจริงไหม หลังย้ายจาก วีเอฟบี สตุตการ์ต ครบ 1 สัปดาห์ คล็อปป์ ยืนยันว่า เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ฟูลแบ็ก มีอาการบาดเจ็บ จะลงเล่นได้ แต่ อิบราฮิมา โคนาเต กองหลังชาวฝรั่งเศส ยังต้องลุ้นความฟิต หลังบาดเจ็บกล้ามเนื้อ ขณะที่ ติอาโก อัลคานทารา กับ เคอร์ติส โจนส์ อาจไม่มีชื่อสถิติเฮด-ทู-เฮด นับตั้งแต่พ่าย นิวคาสเซิลฯ เดือนธันวาคม 2015 เจอร์เกน คล็อปป์ ยังไม่เคยปราชัยตลอดการพบกัน 13 เกมเฉพาะ พรีเมียร์ ลีก โดย "เดอะ เรดส์" หมายมั่นปั้นมือเก็บชัยชนะ 3 ครั้งติดต่อกัน ที่เซนต์ เจมส์ ปาร์ก ครั้งแรก นิวคาสเซิลฯ และ ลิเวอร์พูล พบกันมา 52 ครั้ง เฉพาะ พรีเมียร์ ลีก ปรากฏว่า ลิเวอร์พูล ชนะ 32 ครั้ง, นิวคาสเซิล ชนะ 9 ครั้ง และเสมอกัน 11 ครั้ง หากนับเฉพาะที่เซนต์ เจมส์ ปาร์ก ทุกรายการ ลิเวอร์พูล ยังเหนือกว่า ชนะ 11 ครั้ง แพ้ 9 ครั้ง และเสมอ 6 ครั้งทำนายผล นิวคาสเซิลฯ เป็นทีมตั้งรับเหนียวแน่น โดยเสียประตูน้อยสุดของลีก 33 ลูก ฤดูกาล 2022/23 เท่ากับ แมนเชสเตอร์ ซิตี แชมป์เก่า เกมรุกประสิทธิภาพอาจยังเป็นรอง ลิเวอร์พูล อยู่พอสมควร แต่ก็มีทีเด็ดจากลูกตั้งเตะ อันเป็นเอกลักษณ์ของ เอ็ดดี ฮาว มาตั้งแต่สมัยคุม บอร์นมัธ เกมรับ ลิเวอร์พูล น่าเป็นห่วงเช่นเดิม แม้กระทั่งช่วงพีก พวกเขามักจะเปิดโอกาสจะแจ้งแก่คู่ต่อสู้อย่างน้อย 3-4 ครั้ง ขึ้นอยู่กับความเฉียบขาด ตามวิธีการเล่นแบบดันแนวรับขึ้นสูง และตำแหน่งฟูลแบ็ก ยังคงเป็นบาดแผลที่ถูกเล่นงานอยู่บ่อยๆ จนเสียประตู แดนหน้า ลิเวอร์พูล ยังฝากความหวังได้เสมอ แต่ถ้าเสียประตูก่อน นั่นหมายความว่า พวกเขาจะตกที่นั่งลำบากทันที เนื่องจาก นิวคาสเซิลฯ มีตัวรุกด้านข้างฝีเท้าฉกาจพอตัวอย่าง แอนโธนี กอร์ดอน, ฮาร์วีย์ บาร์นส หรือ มิเกล อัลไมรอน ยิ่งพยายามดันขึ้นสูงเพื่อเพรสซิง หรือทวงประตูคืน ย่อมมีสิทธิ์เสียประตูเพิ่ม สรุปแล้วเกมนี้ นิวคาสเซิลฯ น่าจะมีอย่างน้อย 1 แต้ม ภาพปก instagram Newcastleภาพที่ 1 instagram Liverpoolภาพที่ 2 instagram Liverpool ภาพที่ 3 instagram Liverpool ภาพที่ 4 instagram Liverpool ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !