ศึกฟุตบอล ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก เปิดศึกสายเลือดตัวแทนจากอังกฤษ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ลุ้นคว้าดับเบิลแชมป์กับ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ณ สังเวียนอิชตาดีอูดูดราเกา รังเหย้าของปอร์โต้ ไม่ว่าชัยชนะจบตรงฝั่งไหน ประวัติศาสตร์บทใหม่ต้องเกิดขึ้น! เพราะแมนซิตี้ยังไม่เคยได้ถ้วยอันปรารถนาสูงสุดนี้มาก่อนเลย ส่วนโธมัส ทูเคิล ที่เคยกวาดแชมป์มานับไม่ถ้วน “แต่ถ้วยระดับทวีปเค้าไม่เคยสัมผัส” ความสำเร็จระดับยุโรปคือเป้าหมายสูงสุดของกุนซือชาวเยอรมันรายนี้ และถือเป็นการย้ำแค้นหลังเคยทำแมนซิตี้อกหักมาแล้วในถ้วยเอฟเอคัพ น่าสนใจเหลือเกินครับว่ามันจะจบอย่างไร เราจะไปดูความพร้อมของทั้งคู่ พร้อมแล้วไปติดตามบทวิเคราะห์กันเลยครับ เริ่มกันที่เรือใบสีฟ้าแชมป์พรีเมียร์ลีก รอบรองชนะเลิศผ่านปารีส แซงต์-แชร์กแมง ด้วยสกอร์รวม 4-1 สภาพความพร้อมสมบูรณ์ถึงขีดสุดไม่มีตัวเจ็บเลย สามารถเลือกผู้เล่นลงสนามได้ตามใจชอบ มีเพียงประเด็นให้พูดถึงในตำแหน่งกองหน้าเท่านั้น ว่าเป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะเลือกใคร? และการจัดทีมในช่วงหลังของเป๊บ นอกจากกองหน้าแท้ ๆ ยังลองพยายามสับเปลี่ยนผู้เล่นอย่างเดอบรอยน์ , โฟเด้น , เฟร์ราน ตอร์เรส หรือแม้แต่แบร์นาร์โด้ ซิลวา หมุนเวียนกันรับบทศูนย์หน้า หมือนกับว่าเค้าเองเตรียมแผนมาเพื่อเล่นกับเชลซีเกมนี้โดยเฉพาะ ความพ่ายแพ้ทั้ง 2 ครั้งใช้ กาเบรียล เฆซุส เล่นหน้าเป้า เชื่อว่า “เค้าจะไม่ทำอะไรแบบเดิม” มีโอกาสได้เห็นผู้เล่นอย่าง เควิน เดอ บรอยน์ ขึ้นสูงค้ำแนวรุก แบบเดียวกับที่ใช้ได้ผลกับปารีสฯ รอบรองชนะเลิศ ส่วนตำแหน่งอื่นคาดว่าคงไม่มีรายการพลิกโผให้เห็น เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มาในระบบการเล่น 4-3-3 ผู้รักษาประตูเอแดร์สัน คู่แนวรับรูเบน ดิอาส กับจอห์น สโตนส์ แบ็กซ้ายซินเชนโก้ แบ็กขวาไคล์ วอล์คเกอร์ ขยับมาแผงมิดฟิลด์อิลคาย กุนโดกัน , โรดรี้ , แบร์นาร์โด้ ซิลวา แนวรุกราฮีม สเตอร์ลิง , ริยาร์ด มาห์เรซ และเควิน เดอ บรอยน์ สิงห์บลูเชลซี รอบตัดเชือกโค่นเรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่จากสเปนมาได้ด้วยสกอร์รวม 3-1 โธมัส ทูเคิล ต้องลุ้นความฟิตของ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ และนายทวาร เอดูอาร์ เมนดี้ ที่รายหลังเจ็บจนต้องถูกเปลี่ยนตัวออกในเกมส่งท้ายพรีเมียร์ลีกกับแอสตัน วิลล่า แต่ทั้งคู่สามารถกลับลงซ้อมได้แล้วแนวโน้มคงไม่มีปัญหาอะไร จะได้เห็นกลับมาเป็นกำลังหลักในนัดชิง เกมนี้คาดว่าทูเคิลยังคงไว้ใจ ฮาคิม ซิเย็ค หลังเป็นผู้กระทุ้งใส่เรือใบสีฟ้าได้ทั้ง 2 นัด ประสานงานแนวรุกร่วมกับเมสัน เมาท์ และติโม แวร์เนอร์ โดยมีเอ็นโกโล่ ก็องเต้ ประจำการตัดเกม ที่น่าจะได้เห็นเค้าอยู่ทั่วสนามเหมือนเช่นเคย โธมัส ทูเคิล จัดทัพในระบบ 3-4-2-1 ผู้รักษาประตูเอดูอาร์ เมนดี้ แผงแนวรับอันโตนิโอ รูดิเกอร์ , ติอาโก้ ซิลวา , เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ขึ้นมาที่มิดฟิลด์/วิงแบ็ก เบน ชิลเวลล์ , เอ็นโกโล่ ก็องเต้ , จอร์จินโญ่ และรีซ เจมส์ แนวรุกฮาคิม ซิเย็ค , เมสัน เมาท์ หน้าเป้าติโม แวร์เนอร์ บทวิเคราะห์ : แม้ว่าเชลซีจะสามารถพิชิตแมนซิตี้มาได้ 2 ครั้ง แต่หากลงลึกไปในรายละเอียดมองว่า “ไม่ใช่ชุดที่ดีที่สุดของเป๊บ” โดยเฉพาะเกมที่ 2 เห็นได้ชัดว่าแมนซิตี้มาแบบไม่ต้องการเปิดไพ่ ไม่สามารถเอามาตรฐานมาตัดสินในนัดชิง เรือใบสีฟ้าจะยกระดับมาตรฐานสูงขึ้นจากการพ่ายแพ้ที่ผ่านมา สกอร์ที่คาด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2 – 0 เชลซี ปิดกล่องได้ใน 90 นาทีไม่มียืดเยื้อ การแข่งขันจะมีขึ้นในคืนวันเสาร์ที่ 29 พฤษภาคม 2564 เวลา 02.00 น. ถ่ายทอดสดทาง UEFA.tv >>คลิก<< โธมัส ทูเคิล จะมีทีเด็ดคว่ำแมนซิตี้ได้อีกครั้งหรือไม่ อย่าพลาดชมครับ.. ภาพประกอบโดย / ภาพปก ChampionsLeague Official 1,2,3 Chelsea / พื้นหลัง ภาพปก-ภาพที่ 1 / พื้นหลัง Pixabay : OpenClipart-Vectors / (PNG) Premierleague Official Manchester City , Chelsea ช่องดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ และกีฬาชั้นนำทั่วโลก >> คลิกที่นี่ ดูบอลพรีเมียร์ลีกฟรี ทุกสัปดาห์ ผ่านทาง ID Station >> คลิกที่นี่ ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดทุกแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี!