การมีสุขภาพที่ดีนั้นนอกจากจะต้องมีสุขภาพจิตใจที่ดีแล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างคือต้องมีสุขภาพกายที่ดีด้วย แน่นอนว่าการออกกำลังกายคือสิ่งที่จะทำให้ร่างกายของเราแข็งแรง การออกกำลังกายที่ดูแล้วจะง่ายที่สุด แค่เพียงตัวเราคนเดียวก็สามารถทำได้ ก็คงจะเป็นการวิ่งจ็อกกิ้ง เพียงแค่มีรองเท้าวิ่งก็สามารถทำได้แล้ว จะไปวิ่งตามสวนสาธารณะหรือตามฟิตเนสก็แล้วแต่สะดวก จากการที่ตัวผมเองเป็นคนที่ไม่ชอบการออกกำลังกาย แต่ปัจจุบันผมสามารถวิ่งได้ไกลกว่า 10 กิโลเมตร จึงอยากนำประสบการณ์ที่มีมาแบ่งปันกันว่าผมเริ่มต้นอย่างไร 1.แรงบันดาลใจ อันดับแรกเราควรจะมีจุดประสงค์ในการออกกำลังกายก่อน แรงบันดาลใจจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากไร้ซึ่งแรงบันดาลใจแล้วมักจะทำได้ไม่นาน ยิ่งคนที่ออกมาวิ่งตามกระแสส่วนใหญ่มักทำได้ไม่เกินสองสัปดาห์ บางคนบอกอยากผอมอุส่าไปซื้อรองเท้าวิ่งมาราคาหลายพันบาท สุดท้ายทำได้ไม่นานก็ล้มเลิกความตั้งใจไป ลองหาแรงบันดาลใจดูอย่างเช่น อยากสวย อยากหล่อ อยากมีหุ่นดี อยากจีบสาว หรืออยากทำเพื่อคนที่เรารัก ส่วนตัวผมเองนั้นเริ่มออกกำลังกายเพราะเลิกกับแฟน เลยอยากจะหันมาทำให้ตัวเองดีขึ้นมา 2.ตั้งเป้าหมาย เริ่มแรกที่ผมหันมาออกกำลังกายนั้นผมเริ่มวิ่งได้เพียง 1 กิโลเอง เพราะเป็นคนไม่ชอบออกกำลังกายมาก่อนเลยเหนื่อยง่าย แต่ก็ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะต้องวิ่งให้ได้ไม่ต่ำกว่า 3 กิโล พอเริ่มวิ่งบ่อยๆก็เริ่มเหนื่อยช้าลง ก็ค่อยๆขยับจาก 1 กิโล เป็น 2 กิโล 3 กิโล จากนั้นผมเห็นเพื่อนคนนึงโพสในเฟส เขาวิ่งได้เป็น 10 กว่ากิโล ในใจเราตอนนั้นคิดเลยว่าเราไม่มีทางวิ่งได้แบบเขาหรอก เพราะคิดว่ามันเกินความสามารถเราเกินไป ผมก็เลยลองค่อยๆขยับจาก 3 กิโล เป็น 4 กิโล ค่อยๆเพิ่มระยะไปเรื่อยๆ วิ่งไปวิ่งมาก็ถึง 10 กิโลจนได้ ใช้ระยะเวลาเกือบๆปีเลยกว่าจะทำได้3.เก็บสถิติตัวเอง ในปัจจุบันนั้นมีแอพสำหรับออกกำลังกายอยู่มากมายหลายแอพ ซึ่งในแอพเหล่านี้มันจะบันทึกสถิติในการออกกำลังกายของเราในแต่ละวัน ซึ่งสถิติพวกนี้แหละที่ทำให้เราอยากจะทำลายสถิติของตัวเอง อย่างเช่นเดือนนี้เราวิ่งไปแล้ว 90 กิโล พอเดือนหน้าเราก็จะอยากวิ่งให้ได้มากกว่า 90 กิโล และอีกอย่างสถิติพวกนี้มันจะทำให้เรารู้สึกภูมิใจ ทำให้เรายิ่งอยากออกกำลังกายอยู่เรื่อยๆ ส่วนแอพที่ผมใช้นั้นคือแอพ samsung health เนื่องจากผมใช้โทรศัพท์ samsung เลยมีแอพติดเครื่องมาให้4.มีวินัย เรื่องวินัยเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะคำว่าวินัยมันจะมาพร้อมกับคำตรงข้ามคือขี้เกียด เมื่อไรที่ความขี้เกียดเข้ามาเป้าหมายในการออกกำลังกายก็จบ แต่หากเมื่อไรที่คุณเริ่มมีวินัยและเริ่มออกกำลังกายจนติดเป็นนิสัยจนกลายเป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้ว เมื่อนั้นคุณจะประสบความสำเร็จในการออกกำลังกาย การวิ่ง 10 กิโล ก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป 5.หุ่นเริ่มดี เมื่อไรที่คุณเริ่มออกกำลังกายเป็นประจำ คุณจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงในรูปร่างของตัวเอง ไขมันเริ่มลดลง เริ่มมีกล้าม เริ่มเห็นซิกแพค กางเกงที่เคยแน่นมันจะเริ่มหลวม เมื่อนั้นแหละคุณจะเริ่มอยากออกกำลังกายเรื่อยๆ เพราะเริ่มเห็นผลลัพธ์ และแน่นอนว่าคุณคงไม่อยากจะกลับไปหุ่นพังๆเหมือนเดิม ขอแค่อดทนให้ผ่านช่วง 1 เดือนแรกไปได้ก็พอ สำหรับนักวิ่งมือใหม่แล้วการวิ่งให้ถึง 10 กิโลนั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ถึงกับยากซะทีเดียว ขอแค่มีความอดทนและมีวินัย การวิ่งให้ถึง 10 กิโลก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย บางคนสามารถวิ่งไปจนถึงระดับมาราธอน 42 กิโล ขึ้นอยู่กับการฝึกฝน เพราะฉะนั้นแค่ 10 กิโลเชื่อว่าทุกคนย่อมทำได้ไม่ยาก นอกจากจะวิ่งแล้วควรออกกำลังกายด้วยการทำ Body Weight ควบคู่ไปด้วย เช่น ซิทอัพ หรือ วิดพื้น เพราะการทำ Body Weight นั้นไม่ต้องไปซื้ออุปกรณ์ใดๆให้สิ้นเปลือง และการทำ Body Weight นั้นจะช่วยเสริมกล้ามเนื้อในส่วนอื่นๆ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับใครที่กำลังเริ่มต้นออกกำลังกาย อย่าลืมนะครับสุขภาพสำคัญกว่าเงิน เพราะถ้าสุขภาพไม่ดีเราก็จะไม่มีแรงหาเงินนะครับ สุดท้ายนี้อยากจะขอแนะนำรองเท้าวิ่งที่ผมใช้วิ่งเป็นประจำนะครับ ราคาไม่แพงแถมทนทาน กันได้เลยเลยครับ https://intrend.trueid.net/post/233921 เครดิต : ภาพปก ภาพที่ 1 ภาพที่ 3 ภาพที่ 3 โดย เจ้าของบทความ ภาพที่ 4 โดย dsandzhiev จาก pixabayตกแต่งภาพปก www.canva.com อยากผอมหุ่นดี อยากมีซิกแพค หาอินสปายลดน้ำหนัก เข้าร่วมด่วนที่ฟิตแอนด์เฟิร์มคอมมูนิตี้