ตอนเด็กๆ สมัยผู้เขียนเรียนอยู่ชั้นประถมจะนั่งอยู่หน้าบ้าน รอรถโรงเรียนมารับ จะเห็นคนวิ่งผ่านหน้าบ้านเกือบทุกวันในเวลาเดิมๆ ก็เคยแอบสงสัยว่า ทำไมเขาถึงออกวิ่งแทบทุกวันได้แบบนี้ มันสนุกตรงไหนเวลาเรียนวิชาพลศึกษา เนื่องจากเป็นเด็กอ้วนพุงกลม เวลาที่ต้องวิ่งรอบสนามฟุตบอลจึงเป็นเรื่องที่ไม่ชอบมากๆ เพราะนอกจากจะไม่เห็นว่าการวิ่งมันสนุกตรงไหน ก็ยังวิ่งได้ช้าที่สุดในห้องอีกด้วยความที่ไม่ชอบเล่นกีฬา จึงห่างเหินการออกกำลังกายมาตั้งแต่เด็ก จนเข้าสู่ช่วงวัยผู้ใหญ่ ก็ยังคงรักษาพุงกลมๆ อยู่กับตัวอยู่เสมอ เรียกว่าตั้งแต่จำความได้ ก็มีพุงติดตัวมาตลอด ไม่เคยอยู่ห่างกัน น้ำหนักตัวอยู่ที่ระดับเลข 9 นำหน้า เข้าใกล้ร้อยกิโลกรัมจนกระทั่งได้มีการตรวจร่างกายประจำปี มีการอัลตราซาวด์ช่องท้อง หมอบอกว่ามีไขมันพอกที่ตับ ไขมันในเลือดก็สูง มันเสี่ยงต่อสารพัดโรค ความดันโลหิตสูงเอย ไขมันอุดตันในหลอดเลือดเอย ไหนจะเบาหวานอีก และด้วยตัวผู้เขียนพึ่งมีลูกเล็กๆ จึงเกิดความคิดว่าจะดูแลเขาให้ได้นานที่สุด จะมาตายง่ายๆไม่ได้ตั้งแต่วันนั้นจึงเริ่มออกวิ่ง และจริงจังกับการลดน้ำหนัก (ซึ่งในบทความต่อๆไป จะมาเล่าให้ฟังว่ามีเทคนิคในการลดน้ำหนักอย่างไร)หลังจากที่เปลี่ยนแปลงตัวเองหันมาวิ่งเป็นประจำได้ราวๆ สองปีจึงสรุปจากประสบการณ์ของตัวเองได้ว่า อะไรที่ทำให้เราอยากออกวิ่งได้ทุกวันสิ่งที่เป็นแรงดึงดูดให้มีความรู้สึกอยากออกไปวิ่งมีเป้าหมาย และการเห็นความเปลี่ยนแปลงที่จะไปสู่เป้าหมาย จะเป็นอะไรก็ได้ขึ้นอยู่กับตัวบุคคล เช่น อยากมีสุขภาพที่ดีขึ้นเพื่อดูแลคนที่รัก อยากมีร่างกายแข็งแรงไม่เหนื่อยง่ายเวลาขึ้นบันได ไขมันในเลือดลดลง น้ำหนักตัวลดลงความสุขที่เกิดขึ้นหลังจากการได้ออกกำลังกาย หรือที่เรียกว่า “Runner’s high” ซึ่งวันหลังจะมาเล่าเรื่องนี้ให้ฟังว่ามันคืออะไรเกิดสมาธิขณะวิ่ง หรือเรียกว่าเกิดสภาวะ “Flow state” ซึ่งเรื่องนี้ก็จะมาเล่าให้ฟังวันหลังว่ามันเป็นยังไงการได้ตื่นไปวิ่งในตอนเช้า อาจเป็นการหลอกจิตใจตนเองได้ว่า ในวันนี้ได้ทำเรื่องที่ยากที่สุดให้สำเร็จไปแล้ว ในการดำเนินชีวิตหรือการทำงานในวันนั้นๆ ทุกอย่างหลังจากนั้นจะดูง่ายขึ้นการได้มีความสุขกับสิ่งเล็กน้อยๆ รอบตัว เช่น เวลาวิ่งเหนื่อยๆ เหงื่อท่วมตัว มีลมเย็นๆพัดมา แต่นี้ก็มีความสุขและรู้สึกขอบคุณโลกใบนี้แล้วช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น โดยจะสังเกตได้ว่าจะเกิดการหลับลึกจะเกิดการฝันแทบทุกคืน และถึงต้องเช้า ตื่นมาก็ไม่รู้สึกง่วง ซึ่งจะส่งผลดีให้ระหว่างวันก็จะไม่รู้สึกง่วง โดยไม่จำเป็นต้องดื่มกาแฟเห็นข้อดีของการวิ่งแบบนี้แล้ว ถ้าร่างกายพร้อม ออกมาวิ่งกันเถอะครับCredit ภาพภาพที่ 1 Pixabay from Pexelsภาพที่ 2 Tembela Bohle from Pexelsภาพที่ 3 Leon Macapagal from Pexelsภาพที่ 4 และ ภาพปก Tembela Bohle from Pexelsอัปเดตสาระสุขภาพดี ๆ มีประโยชน์แบบนี้อีกมากมาย โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี !