คนส่วนใหญ่ (รวมทั้งตัวผู้เขียนเองด้วย) เชื่อว่า การพัก เท่ากับ การทำให้ร่างกายหยุดทำงาน เพราะฉะนั้นก็เลย พักผ่อน ด้วยการนอนนาน ๆ ไปเที่ยวชมธรรมชาติ แต่เคยรู้สึกสงสัยหรือไม่ว่าเพราะอะไร ถึงแม้เราจะนอนหลับพักผ่อน 7 ถึง 8 ชั่วโมง ก็ยังตื่นมาด้วยความรู้สึกเหนื่อยล้า ไม่สดชื่นเอาเสียเลย เพราะว่ามันก็จะมีความเหนื่อยบางประเภทที่ไม่สามารถใช้วิธีเหล่านี้ช่วยได้ นั่นก็คือ “ความเหนื่อยของสมอง” สาเหตุก็เพราะสมองของเราทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เว้นแม้แต่ตอนที่เรากำลังนอนหลับ การทำงานของสมองที่ไม่เคยหยุดพักนี่แหละ ที่เป็นตัวการทำให้เกิดความเหนื่อยล้า ความเสื่อมสภาพ และทำให้เราเกิดโรคภัยไข้เจ็บได้โดยไม่รู้ตัวหนังสือเรื่อง “ ศาสตร์ของสมองที่รู้จักหยุดพัก “ เห็นชื่อหนังสือก็รู้สึกว่าน่าสนใจ เมื่อลองอ่านเนื้อหา ก็พบว่าเป็นการนำเอา วิธีพักสมอง ที่อ้างอิงข้อมูลตามหลักวิทยาศาสตร์ มีงานวิจัยรองรับ สามารถค้นกลับไปอ่านได้ เอามาอธิบายผ่านเรื่องราวตัวละครที่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องราวต่าง ๆ ที่ทำให้สมองทำงานหนักตลอดเวลา ด้วยวิธีการอธิบายแบบง่าย ๆ และสามารถทำได้จริง โดยผู้เขียนซึ่งเป็นจิตแพทย์ชาวญี่ปุ่นที่มีประสบการณ์ทำงานวิจัยทางด้านสมองมานานความรู้สึกหลังอ่านหนังสือเล่มนี้อธิบายถึงสมองส่วนที่เป็นต้นเหตุในการเกิดความเหนื่อยล้า เรียกว่า DMN ( Default Mode Network) สมองส่วนเครือข่ายอัตโนมัติที่จะทำงานเมื่อมีการพักผ่อน โดยจะพูดหลายรอบมากว่า DMN จะกินพลังงานมากขึ้น เวลาสมองไม่ได้ตั้งใจคิดอะไรเป็นพิเศษ เช่น เหม่อลอย คิดฟุ้งซ่าน ความคิดฟุ้งซ่านจะแทรกซึมเข้ามาเวลาที่ ร่างกายเรามีการ “ขยับอัตโนมัติ” เช่นตอน กิน เดิน แปรงฟัน สมองก็จะบังคับร่างกายทำทุกอย่างไปพลาง หาอะไรคิดไปพลาง การทำอะไรหลาย ๆ อย่างทำให้เกิดการเสียสมาธิ ซึ่งภาวะเช่นนี้ ทำให้กินพลังงานสมองถึง 60-70% เลยทีเดียวจะว่าไป ก็คือ การนั่งสมาธิ ซึ่งเป็นศาสตร์ของโลกตะวันออก ที่ฝั่งโลกตะวันตกสนใจและพยายามหาหลักฐาน งานวิจัยมารองรับว่าได้ประโยชน์จริง ในขณะที่ชาวโลกตะวันออกนิยมใช้ยาแผนปัจจุบัน หรือยาสมัยใหม่มารักษาอาการผิดปกติเกี่ยวกับสมอง คนตะวันตกกลับเลือกวิธีปฏิบัติทางจิตวิญญาณ และหลีกเลี่ยงการใช้ยาที่ทำให้เกิดอาการข้างเคียงต่อร่างกายวิธีที่หนังสือเล่มนี้บอกกับผู้อ่านในการทำให้สมองหยุดพัก เรียกว่า “การจดจ่อ” ซึ่งเมื่อลองอ่าน ลองทำตาม มันก็คือการทำสมาธิ การมีสติในทุกขั้นตอนที่เรากำลังทำ หรือคือ การรู้ปัจจุบันขณะ ตามหลักศาสนาพุทธนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็น การจดจ่อในขณะที่เรากำลังทานอาหาร รับรู้รสชาติอาหาร การเดินอย่างมีสติในทุกย่างก้าว โดยใช้การนับเลขมาเป็นคล้ายสมอเรือทำให้เกิดการคอยดึงสติไม่ให้หลุดออกจากการจดจ่อสิ่งที่ตอนอ่านแล้วรู้สึกว่าเห็นด้วย ก็คือ การยอมรับกับตัวเองว่าเรากำลังคิดฟุ้งซ่าน และเลิกตัดสินว่ามันดีหรือไม่ดี แต่ให้หัดมอง “ความคิดฟุ้งซ่าน” ที่ผุดขึ้นมาเหมือนเรากำลังมองเรื่องของคนอื่น คนเราชอบคิดว่าความคิดฟุ้งซ่านเป็นเรื่องของตัวเองแล้วมีอารมณ์ร่วมไปกับมัน แต่จริง ๆ แล้วเราควรเปรียบตัวเองเหมือนภาชนะ มีอาจจะมีความคิดฟุ้งซ่านปนเข้ามาบ้าง แต่ไม่หลอมรวมเข้าไปกับตัวเรา หรือเวลาที่เรากำลังคิดลบกับคนอื่น ให้เราลดอคติด้วยการแผ่เมตตาแทนอีกเรื่องหนึ่งที่คิดว่าดี และควรฝึกก็คือ การจัดการกับความโกรธ คือ มันมีผลต่อเนื่องกับความเหนื่อยของสมองอย่างมาก ยิ่งเราโกรธ เรายิ่งรู้สึกเหนื่อย ซึ่งเทคนิคในการจัดการความโกรธในหนังสือเล่มนี้ก็น่าสนใจค่ะ เค้าเรียกว่า RAIN ขอเรียกว่าเป็นฝนแห่งการชะล้างความโกรธแล้วกันนะคะRecognize ให้เราตระหนักรู้ว่าตัวเองกำลังโกรธ คือ เท่าทันความรู้สึกของตัวเองAccept เมื่อตระหนักแล้วก็ควรยอมรับว่าตัวเองกำลังโกรธ ไม่ต้องปฏิเสธว่าไม่ได้รู้สึกอะไรInvestigate หลังจากนั้นให้สำรวจว่าเกิดอะไรขึ้นในร่างกายตอนที่กำลังโกรธNon-Identification ปล่อยวางไม่เอาความโกรธมาเป็นส่วนหนึ่งของตัวเองถ้าถามถึงความคุ้มค่าของหนังสือเล่มนี้ เราจะได้ประโยชน์หากเราได้ลองปฏิบัติค่ะ ยิ่งเราฝึกตัวเองบ่อย ๆ เราจะรู้สึกสงบ และลดความฟุ้งซ่านให้เกิดได้น้อยลง ส่วนตัวเริ่มจากการทำสมาธิในตอนก่อนนอนประมาณ 10 นาที วันแรก ๆ บอกเลยว่าสมาธิไม่เกิด ยังมีคิดไปเรื่อย แต่ก็ยอมรับและฝึกหัดต่อไป หัดแผ่เมตตา และฝึกรับมือกับความโกรธ ผลดีที่เห็นได้กับตัวเองก็คือ นั่งได้นานขึ้น หลับได้ดีขึ้น เมื่อมีอารมณ์โกรธ ก็รู้ว่าโกรธและหายโกรธได้เร็วขึ้น เลยคิดว่าจะทำต่อไปเรื่อย ๆ ค่ะใครสนใจลองหามาอ่านกันได้ค่ะหนังสือ : ศาสตร์ของสมองที่รู้จักหยุดพัก สนพ.: WE LEARNชื่อผู้แต่ง : อากิระ, คุงายะ , ผู้แปล : ช่อลดา เจียมวิจักษณ์ขอบคุณภาพจาก Charatoon ภาพ 1 , ภาพ 2 , ภาพ 3, ภาพ 4ภาพปก : SKY *STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี` คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565