รูปภาพหน้าปกโดย www.pixabay.com สวัสดีคุณผู้อ่านทุกท่าน หากคุณมีความฝัน มีเป้าหมายหรือจุดมุ่งหมายอะไรบางอย่างในชีวิตที่ต้องการทำให้ให้สำเร็จหรือก้าวไปให้ถึง แต่ไม่ว่าพยายามมากแค่ไหนก็ไปไม่ถึงจุดมุ่งหมายนั้นเสียที เหมือนมีอะไรบางอย่างที่กำลังฉุดรั้งเราอยู่โดยที่ตัวเราเองอาจไม่เคยรู้มาก่อนเลยด้วยซ้ำไป หากคุณกำลังประสบปัญหาเหล่านี้อยู่ละก็ ในวันนี้ทางผู้เขียนได้นำแนวคิดของบุคคลผู้ที่ประสบความสำเร็จในระดับโลก 10 อย่างมาแชร์ให้กับทางผู้อ่านทุกท่านได้ศึกษา โดยผู้เขียนเชื่อว่าแนวคิดเหล่านี้จะช่วยเปิดมุมมองใหม่ ๆ ในหลาย ๆ มุมที่ท่านอาจไม่เคยคิดมาก่อน และแนวคิดเหล่านี้จะเป็นกระจกอีกบานที่ช่วยสะท้อนพฤติกรรมของตัวท่านเองและช่วยให้ท่านผู้อ่านมุ่งไปสู่เป้าหมายความสำเร็จที่คาดหวังไว้ได้ง่ายขึ้นอย่างแน่นอนครับรูปภาพโดย www.pixabay.com4 แนวคิดของคนรวย ที่ช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในชีวิตง่ายขึ้น1. "ทำไม่ได้" vs "จะทำยังไงให้ได้" : มีคนที่มีฐานะยากจน 2 คนไปขอคำแนะนำจากเศรษฐีคนหนึ่ง พวกเขาทั้งคู่มีเป้าหมายเดียวกันคืออยากมีเงิน 1 ล้าน ภายในเวลา 1 ปี เลยเข้าไปถามเศรษฐีว่าต้องทำอย่างไร เศรษฐีตอบกลับมาสั้น ๆ ว่า "ง่ายนิดเดียวก็หาเงินให้ได้เก็บให้ได้ประมาณเดือนละ 1 แสนสิ ใน 1 ปีเจ้าก็จะมีเงินล้านแล้ว " เมื่อได้ฟังคำตอบจากเศรษฐี คนจนคนแรกคิดว่า "เราทำไม่ได้หรอก เดือนละ 1 แสน" และล้มเลิกความตั้งใจและใช้ชีวิตอย่างคนจนต่อไป แต่คนจนคนที่ 2 แม้จะตื่นเต้นไปบ้างแต่สิ่งที่เขาคิดในหัวคือ "เดือนละ 1 แสน ฉันจะทำยังไงให้ได้" เขาตัดสินใจกลับมาหาเศรษฐีอีกครั้งเพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม เศรษฐีจึงแนะนำให้ไปช่วยขายสินค้าที่ตนพึ่งนำมาจากต่างถิ่น การขายสินค้าในปีแรกเป็นไปอย่างยากลำบากแต่คนจนคนที่ 2 ก็ไม่ย่อท้อฝ่าฟันอุปสรรคเก็บเงินใช้หนี้ ค่าเสื้อผ้า และที่พักอาศัยแก่เศรษฐีจนหมด พอเข้าปีที่ 2 เมื่อหนี้สินหมดไปเขาก็กลายเป็น มือขวาที่รู้ใจของมหาเศรษฐีและมีรายได้เดือนละหลายแสน ทีนี้คุณลองมองดูเป้าหมายของตัวเองแล้วคิดไปให้ถูกทางนะครับ อยากมีบ้าน อยากมีรถ อยากมีเงินเก็บและอื่น ๆ ว่า ฉันทำไม่ได้ หรือ ฉันจะทำยังไงให้ได้รูปภาพโดย www.pixabay.com2. เลือกงานที่มีศักยภาพในการพาคุณไปถึงเป้าหมายได้จริง ๆ : เคยได้ยินคำพูดว่า "ขยันผิดที่ กี่ปี่ก็ไม่โต" ไหมครับ คุณตั้งเป้าหมายไว้ว่าในปีนี้ฉันจะมีเงินเก็บ 1 ล้านบาท แต่คุณยังนั่งทำงานประจำเงินเดือน 15,000 บาท พอเลิกงานมาทำงานเสริมขับ Grab ได้อีกเดือนละ 5,000 บาท รวมเป็นเดือนละ 20,000 เฉลี่ย 1 ปีคุณก็จะมีรายได้แค่ 240,000 รวมโบนัสจากที่ทำงานนิดหน่อยก็ตกประมาณ 400,000 กลม ๆ สวย ๆ นี่ยังไม่ได้หักค่ากิน ค่าอยู่ ค่าภาษีนะ ทำงานขยันแทบตายปีนึงได้เงิน 400,000 บาท แล้วตั้งเป้าหมายไว้ว่าปีนี้จะมีเงิน 1 ล้าน คุณเริ่มเห็นอะไรหรือยังครับ นี่ไงเหตุผลที่ว่าทำไมทำงานมาหลายปีแล้วถึงไปไม่ถึงเป้าหมายสักที ลองเปลี่ยนโครงสร้างกันดูหน่อยเลิกงานเสริมจากขับ Grab เปลี่ยนเป็นขายของออนไลน์กำไรเดือนละ 100,000 บาทดูมั้ย แน่ละว่ามันไม่ได้ทำกันง่าย ๆ แต่มันทำได้ถ้าคุณพยายามพอ คำถามคือคุณอยากได้จริง ๆ มั้ยละเดือนละ 1 แสนบาท ถ้าอยากได้จริง ๆ แล้วพยายามมากพอมันก็ได้ครับ ทีนี้เงินเก็บปีละ 1 ล้านบาทก็ไม่มีปัญหาแล้ว หากงานที่คุณทำอยู่ในตอนนี้มันไม่มีศักยภาพในการพาคุณไปถึงเป้าหมาย ออกเถอะครับแล้วไปหางานที่พาคุณไปถึงเป้าหมายได้จริง ๆ ให้คุ้มค่ากับหยาดเหงื่อและความพยายามของคุณรูปภาพโดย www.pixabay.com3. คนรวยลงทุนกับตนเองก่อนเสมอ : ลงทุนกับตนเองในที่นี้คือการศึกษาหาความรู้ ไปเรียน ไปสัมนา เพื่อเอาความรู้ที่ได้ไปหาเงินและนำมาลงทุนต่อยอด ยิิ่งมีความรู้มากขึ้น ก็ยิ่งหาเงินได้มากขึ้นและหาได้ง่ายขึ้น น่าแปลกที่ความรู้เหล่านี้ทางผู้เขียนบอกได้เลยว่าหาไม่ได้จากในห้องเรียนแน่นอน ไม่มีโรงเรียนไหนเขาสอนกันเพราะ เป็นความรู้ที่ใช้ในการหาเงิน เรียนแล้วไม่ต้องเอาไปประยุกต์อะไรทั้งนั้น เอาไปปฎิบัติไปใช้หาเงินได้ทันที ไม่ใช่ความรู้วิชาพื้นฐานทั่วไปที่เรียนในห้องเรียนเพื่อไปสอบให้ได้ใบปริญญาเท่านั้น ความรู้ที่ได้จะอยู่คู่กับเราไปจนวันตายไม่มีใครเอาไปจากเราได้ ไม่เพียงแต่เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ เท่านั้นตัวอย่างอื่น ๆ เช่นหากคุณอยากเป็นนักว่ายน้ำระดับโลกแต่เลือกโยนเงินลงทุนไปกับอุปกรณ์กีฬาแพง ๆ ก่อนที่จะนำเงินไปเรียนกับโค้ชนักว่ายน้ำระดับโลกอนาคตก็ไม่รุ่งเช่นกัน คนจนมักลงทุนกับสิ่งของฟุ่มเฟือยก่อนเสมอ บ้านหรู ๆ รถสวย ๆ ราคาแพง ๆ ที่ต้องเป็นหนี้เป็นสินเพียงเพื่อให้ดูมีฐานะทั้ง ๆ ที่สิ่งที่ลงทุนซื้อไปไม่ได้ช่วยทำให้พวกเขามีรายได้ หรือมีแนวโน้มรายได้ที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตได้เลย หากวันนี้คุณอยากมีรายได้เพิ่มขึ้นแต่ทำไม่ได้นี่ละครับคำตอบ คุณยังมีความรู้เกี่ยวกับการหาเงินไม่พอครับรูปภาพโดย www.pixabay.com4. การทำงบการเงินและบริหารเงิน : คนรวยทุกคนทำงบการเงินของตนเอง เมื่อได้เงินมาเขาจะแบ่งออกเป็นสัดส่วน ๆ ตามวัตถุประสงค์ที่ใช้อย่างชัดเจน เช่น มีรายได้ 20,000 บาทต่อเดือน แบ่งออกเป็น 4 ส่วน คือ 1. ใช้จ่ายต่อเดือน 10,000 บาท 2. เงินเก็บ 5,000 บาท 3. เงินเก็บสำหรับกรณีฉุกเฉิน 3,000 บาท เช่น ภาษีสังคม,ค่าประกันสังคมและอื่น 4. เงินลงทุนในหุ้น 2,000 บาทต่อเดือน . การทำแบบนี้จะทำให้คุณสามารถควบคุมรายรับ รายจ่ายของตนเองได้ ทำให้มองเห็นวงจรชีวิตการเงินของตนเองว่ามีรายรับรายจ่ายเข้าออกเท่าไหร่ และต้องทำยังไงถึงจะประหยัดรายจ่ายหรือปรับโครงสร้างทางการเงินในชีวิตเราให้ดีขึ้นได้ โดยทั่วไปทำได้ง่าย ๆ 2 วิธีคือ การลดร่ายจ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป หรือ การหารายได้ให้มากกว่าเดิมรูปภาพโดย www.pixabay.com จริง ๆ แนวคิดดี ๆ แบบนี้มีอีกเป็นร้อยเป็นพันอย่าง แต่ที่ทางผู้เขียนขอคัดมานำเสนอให้ทุกท่านอ่านเพียง 4 อย่างในวันนี้ เพราะคาดว่าเป็นแนวคิดที่มีประโยชน์กับทางผู้อ่านทุกท่านในวันนี้มากที่สุด หากสนใจเพิ่มเติมสามารถไปหาอ่านเพิ่มเติมได้จากประวัติบุคคลที่ประสบความสำเร็จในด้านที่คุณต้องการได้ง่ายตาม Internet เลิกอคติและเปิดใจ ยอมรับแนวคิดใหม่ ๆ อยากรวย อยากประสบความสำเร็จ เราก็ต้องคิดแบบคนที่ประสบความสำเร็จและลงมือทำแบบคนที่ประสบความสำเร็จ หากยังใช้ชีวิตแบบเดิม ๆ คิดแบบเดิม ทำแบบเดิม ชีวิตเราก็จะไม่มีการพัฒนาหรือเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้นได้แต่อย่างใดเลย หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านทุกท่านนะครับ