กล่าวทักทายสวัสดีเพื่อน ๆ นักอ่านที่รักการเดินทางทุกท่านนะคะ วันนี้ดิฉันก็ได้มาแนะนำที่เที่ยวใกล้กรุงเทพมหานครอีกเช่นเคยนั่นก็คือ พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย แห่งแรกในประเทศไทย (THAI HUMAN IMAGERY MUSEUM) เนื่องจากช่วงนี้เข้าสู่เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2563 สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ในบ้านเราเริ่มมีการผ่อนผันมาตรการณ์ลงมาบ้างทำให้เริ่มเดินทางข้ามจังหวัดได้แล้ว อย่างไรก็ตามเรายังคงต้องสวมหน้ากากอนามัยและปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดและดูแลตนเองด้วยนะคะ พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทยถูกสร้างขึ้นมากว่า 30 ปีแล้ว บนเนื้อที่กว่า 46 ไร่ จัดตั้งอยู่ในจังหวัดนครปฐมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้จัดแสดงเกี่ยวกับหุ่นขี้ผึ้งเกี่ยวกับการเลิกทาส บุคคลสำคัญของโลก ชุดวรรณคดีไทย ชุดการละเล่นของไทย ชุดพระอริยสงฆ์ จากเดิมพิพิธภัณฑ์นี้มีหุ่นขี้ผึ้งรวม 37 รูป ปัจจุบันได้สร้างขึ้นเพิ่มอีก 99 รูปรวมเป็น 136 รูปในปัจจุบัน หุ่นขี้ผึ้งคือหุ่นที่ทำมาจากขี้ผึ้ง มักจะปั้นขึ้นมาเป็นรูปคนมองดูคล้ายคนจริง ๆ หรือนิยมปั้นบุคคลที่มีชื่อเสียง สำหรับที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ผิวเนื้อของหุ่นทั้งหลายถูกหล่อขึ้นมาจากไฟเบอร์กลาสหรือที่เรียกว่าใยแก้วลักษณะเหมือนคนจริง ๆ ทั้งผิวพรรณหรือแม้กระทั่งเส้นผมที่ปลูกขึ้นมาเส้นต่อเส้นอย่างประณีต พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งแห่งนี้เป็นอาคารสองชั้น เป็นผลงานการจัดสร้างของ คุณดวงแก้ว พิทยากรศิลป์และกลุ่มศิลปินไทย วัตถุประสงค์ในการจัดสร้างเพื่อส่งเสริม เผยแพร่ศิลปะวัฒนะธรรมและประเพณีของไทย ซึ่งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2525 เมื่อเข้าไปภายในด้านในอาคารจัดแสดงแล้วจะพบกับหุ่นปั้นแสดงชุดพระอริยสงฆ์ ถัดมาจากโซนแสดงพระอริยสงฆ์ก็คือห้องจัดแสดงพระบรมรูปอดีตพระมหากษัตริย์พระบรมราชจักรีวงศ์แต่ทั้งนี้ห้องบางห้องและบางโซนจะไม่สามารถถ่ายรูปได้นะคะเพราะตอนนี้ได้เปลี่ยนกฎใหม่ เจ้าของบทความเองก็ต้องเคารพกฎเช่นกัน เพื่อน ๆ คนไหนอยากชมบางโซนที่ห้ามถ่ายภาพแล้วล่ะก็ เชิญชวนมาเที่ยวกันเยอะ ๆ นะคะ มาเป็นกำลังใจให้พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทยแห่งนี้ได้คงอยู่สืบไปเพราะเนื่องจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ตอนนี้ทำให้ดูเงียบเหงาไปบ้าง ห้องจัดแสดงชุดการละเล่นไทยเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมนุษย์ ทำให้จิตใจเบิกบาน ปรากฏเป็นหลักฐานว่ามีมาแต่สมัยสุโขทัยแล้วสืบต่อเนื่องมาถึงยุคปัจจุบัน เด็ก ๆ สมัยใหม่อาจจะไม่คุ้นกันแล้วว่ามั้ยคะ? แต่ในสมัยเด็กของเจ้าของบทความยังทันเล่นอยู่เลย ตอนนี้อายุ 25 ปีแล้วก็แอบแก่แล้วเหมือนกันนะเรา การละเล่นผู้ใหญ่หัวล้านชนกันมีมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชจะปรากฏในวรรณคดีเรื่อง สมุทโฆษคำฉันท์ ได้พูดเกี่ยวกับการละเล่นหัวล้านชนกันในการเล่นเบิกโรงด้วย ห้องจัดชุดวรรณคดีไทยสุนทรภู่ท่านเป็นกวีที่มีความชำราญเรื่องการแต่งกลอนนิราศ เป็นที่นิยมสืบเนื่องมาจนทุกวันนี้ผลงานมีชื่อเสียงมากมายเช่นเรื่องพระอภัยมณี ซึ่งในปี พ.ศ. 2529 สุนทรภู่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นบุคคลสำคัญของโลกด้านงานวรรณกรรม ห้องจัดชุดหุ่นขี้ผึ้งห้องถัดไปเป็นการแสดงหุ่นขี้ผึ้งชุดการเลิกทาส การเลิกทาสเกิดขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวซึ่งเป็นพระราชกรณียกิจอันสำคัญยิ่ง เมื่อถึงปี พ.ศ. 2448 ก็ได้ออกพระราชบัญญัติเลิกทาสเรียกว่า พระราชบัญญัติทาส ร.ศ. 124 ซึ่งเด็กที่เกิดจากทาสก็จะไม่เป็นทาสอีกต่อไปและการซื้อขายทาสเป็นโทษทางอาญา ในส่วนของด้านนอกตัวอาคารบริเวณรอบ ๆ นั้นจะเป็นโซนสำหรับครอบครัวให้นั่งเล่น มีร้านขายของอยู่รอบบริเวณ มีจักรยานน้ำและมีเสื้อชูชีพสำหรับสวมใส่เพิ่มความปลอดภัยสำหรับผู้ที่มาเยี่ยมชมมาร่วมกิจกรรมปั่นจักรยานน้ำและยังมีร้านค้าของศูนย์ศิลปะชีพบางไทรจำหน่ายของที่ระลึกก่อนเดินทางกลับบ้านกันอีกด้วย ข้อปฏิบัติในการเข้าชมหุ่นขี้ผึ้ง 1. กรุณาอย่าจับต้องหุ่น 2. กรุณาอย่าขึ้นนั่งบนโต๊ะ ม้านั่ง ที่เป็นส่วนประกอบการแสดงหุ่น 3. ดูแลลูกหลานของท่านมิให้ทำความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับหุ่น 4.ห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้าภายในอาคาร 5. ห้ามสูบบุหรี่ 6. ข้อนี้สำคัญอย่างยิ่งกรุณางดถ่ายรูปในห้องที่มีเครื่องหมายห้ามถ่าย 7. ห้ามส่งเสียงดัง 8. ห้ามนำเครื่องดื่มหรืออาหารทุกชนิดเข้าไปภายในอาคาร 9. กรุณาปฏิบัติตามกฎระเบียบและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ เวลาทำการ เปิดให้เข้าชมทุกวัน วันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 09.00 - 17.30 น. วันเสาร์ - อาทิตย์ และ วันหยุดราชการ เวลา 08.30 - 18.00 น. ค่าธรรมเนียมเข้าชม ผู้ใหญ่ราคาท่านละ 80 บาท เด็กสูงไม่เกิน 130 ซม. ราคา 40 บาท นักเรียนในเครื่องแบบราคา 50 บาท สามเณรราคา 40 บาท ภิกษุ - แม่ชีราคา 50 บาท ชาวต่างชาติราคา 300 บาท เด็กชาวต่างชาติที่สูงไม่เกิน 130 ซม. ราคา 130 บาท ส่วนเรื่องการเดินทางนั้นก็ง่ายอีกเหมือนเคยนะคะใครที่เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวก็สะดวกใช้ถนนเส้นบรมราชชนนีอยู่ตรงกิโลเมตรที่ 31 ป้ายบอกทางเข้าใหญ่ไม่หลงแน่นอนหรือใครจะใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ ก็นั่งรถประจำทางสายกรุงเทพ-นครปฐมขึ้นที่สายใต้ใหม่ หรือขึ้นรถตู้ข้างโลตัสปิ่นเกล้า สายกรุงเทพ-นครปฐม มาลงหน้าพิพิธภัณฑ์ได้เลยค่ะ พิกัดที่ตั้ง 43/2 หมู่ 1 ถนนบรมราชชนนี กม.31 ตำบลขุนแก้ว อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม 73120 โทร 090-404-0304 , 094-350-1230 รูปภาพประกอบทั้งหมดโดยเจ้าของบทความ