“สมอง” สั่งคิด ..... “จิต” สั่งการจากคราวที่แล้วยังติดคุณผู้อ่าน ในบทความ เรื่อง “รู้วิธีสื่อสารกับสมอง ด้วยเทคนิค 6 ข้อ ภาษาสมอง” ยังจำกันได้ใช่ไหมคะ .. แต่ถ้าลืมไปแล้ว หรือยังไม่เคยอ่าน แวะตามไปอ่านย้อนหลังได้นะคะ (อ่านบทความ https://cities.trueid.net/post/38332 )แต่จะขอทวนเล็กๆ ถึง ภาษาสมอง 6 ข้อ ก็คือ สมอง มีภาษาเป็นรูปภาพ สมองเป็นนักคัดลอก หรือนัก COPY สมองไม่เข้าใจ คำว่า “ไม่” ภาษาของสมองมีเป็นชุดความทรงจำ สมองไม่ชอบภาวะกดดันให้ทำงาน และ สมองไม่แยกแยะข้อเท็จจริง ข้อนี้แหละค่ะ ที่ยังติดค้างคุณผู้อ่านไว้ เพราะว่า มันซับซ้อน จนต้องยกมาเขียนแยกเป็นอีกบทความค่ะสมองไม่แยกแยะ ข้อเท็จจริง ความถูกต้อง สมองไม่เข้าใจว่าอะไรถูกหรือผิด เพราะสมอง เป็นรูปธรรม เป็นกายภาพที่จับต้องได้ มันมีน้ำหนักเกือบๆ 1 กิโลกรัม และ ภายในสมอง มีระบบเซลล์ประสาท ระบบประจุไฟฟ้า นิวรอน สารเคมี อะไรอีกมากมายเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ถูกพิสูจน์แล้ว และมันสามารถพัฒนาได้ด้วยค่ะ แต่สมอง มีหน้าที่แค่รับและแปลสารเท่านั้น ไม่ได้มีหน้าที่ในการตีความหมาย ดังนั้นสมองจะไม่แยกแยะอะไร ไม่แยกแยะข้อเท็จจริง ไม่แยกแยะถูกผิด เพราะแบบนี้ สมองยังถูกหลอกได้ด้วยนะคะ มาถึงตรงนี้คุณผู้อ่านหลายท่านอาจคิดว่า ถ้าไม่ใช่สมอง แล้วอะไรที่ทำหน้าที่ตีความหมาย หรือ ตัดสิน อะไรผิดถูก … สิ่งนั้นคือ “จิต” ค่ะ ... นักวิทยาศาสตร์ระดับโลกมากมาย ที่พิสูจน์และยอมรับแล้วถึงเรื่อง จิต ที่เป็นส่วนนอกเหนือจาก ก้อนเนื้อสมอง ระดับบิดาของเรื่องนี้ ต้องยกให้ ซิกมันด์ ฟรอยด์ (Sigmund Freud) จิตแพทย์ชาวออสเตรีย เชื้อสายยิว กับทฤษฏี “จิตวิเคราะห์” ที่บอกว่าจิต มี 3 ระดับ คือ จิตสำนึกหรือจิตรู้สำนึก จิตกึ่งสำนึก และจิตไร้สำนึกหรือจิตใต้สำนึก ... จิตนี่ล่ะค่ะ ที่เป็นตัวรู้สึก ตัดสิน และตัวสั่งการ จากข้อมูลที่สมองแปลสารส่งให้ ....เช่น ตาของเราไปกระทบวัตถุสิ่งหนึ่ง หู ของเราได้ยินเสียง มือของเราไปคลำสัมผัส แล้วก็ส่งสัญญาณไปที่สมอง จากนั้นสมองก็แปลภาพนั้นออกมา จิตจะรับต่อสิ่งที่สมองแปลมาให้ ทำให้เราก็รู้สึก ชอบ ไม่ชอบ ใช่ ไม่ใช่ ผิด หรือ ถูก กลัว กังวล โกรธ เกลียด แล้วก็อะไรที่เป็นความรู้สึกอีกมากมาย ซึ่งสมองแค่ทำหน้าที่แปลสารที่รับเข้ามาด้วยระบบเซลล์ประสาทสัมผัสต่างๆ แล้วแปลเป็นสัญญาณภาพ จากนั้นจิตจะรับสารนั้นแล้วแสดงผลลัพธ์ นี่จึงทำให้คนเราแตกต่างกันค่ะด้วยความที่สมองและจิตต้องทำงานสอดคล้องสัมพันธ์กันตลอดเวลา จนเหมือนเป็นสิ่งเดียวกัน เราจึงเข้าใจว่าทั้งหมดเป็นสมองคิด เช่นครั้งที่แล้ว ยกตัวอย่างว่า เจ้าลูกกะตาของเราไปเห็นเป็นผู้ชายแต่งกายสกปรก ..... สมองทำหน้าที่แค่มีผู้ชาย รูปร่างเล็กๆ แต่งกายสกปรก เท่านั้นค่ะ ... จากนั้นจิตจะทำหน้าที่วิเคราะห์และตัดสินว่า ชายคนนั้นเป็นขอทาน เป็นโจร เป็นคนไม่ดี หรือเป็นคนน่าสงสาร ....แล้วจิตจึงสั่งการร่างกายให้แสดงออกมา ซึ่งแต่ละคน มองและคิดกับชายคนนี้แตกต่างกัน บางคนเห็นแล้วรังเกียจ ก็เดินหลีกหนีหรือแสดงอาการไม่ชอบ บางคนเห็นแล้วสงสาร ถึงขั้นอาจหยิบยื่นความช่วยเหลือเล็กๆน้อยๆ หรือ บางคนเห็นแล้วก็เฉยๆ จิตที่ทำงานร่วมกับสมอง เป็นเหมือนฟันเฟืองที่เกี่ยวกัน เราเลยคิดว่าสมองเป็นตัวคิดตัวตัดสิน เพราะมันเป็นรูปธรรมที่เห็นได้ชัดเจนกว่าตัวจิตที่เป็นนามธรรมค่ะ สิ่งที่เห็นชัดเจนว่า สมองกับจิต เป็นคนละส่วนกัน เช่นเมื่อเราแก่ชรา สมองที่เป็นก้อนเนื้อมีความเสื่อมสภาพลงไป อาจทำให้ความจำเลอะเลือนไปได้ จดจำอะไรไม่ค่อยได้ หรือหลงลืมอะไรไปบ่อยๆ....แต่มันกลับไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกที่อยู่ภายใจจิตใจของเราค่ะ คนเคยรักสัตว์ ก็ยังจะรักและเมตตาสัตว์ คนที่ชอบธรรมชาติ ก็ยังชอบที่จะได้สัมผัสกับธรรมชาติ มันทำให้เห็นได้ชัดค่ะว่า สมอง และ จิต มันทำงานร่วมกัน แต่มันก็เป็นคนละส่วนกัน อ่านบทความ รู้วิธีสื่อสารกับสมอง ด้วยเทคนิค 6 ข้อ ภาษาสมอง https://cities.trueid.net/post/38332