คุณคิดว่าความสุขของคนเราสร้างจากอะไรได้บ้างครับ คนเรามักคิดว่าการที่ออกไปไขว้คว้าความสำเร็จ มีชื่อเสียง มีเงินทองมากมาย จะสามารถสร้างความสุขให้กับเราได้ แต่จากงานวิจัยที่ผมจะนำมาแบ่งปันในบทความนี้จะแสดงให้เห็นว่าความสุขสร้างได้จากภายในตัวเราเอง ไม่จำเป็นที่จะต้องเอาความสุขของเราไปผูกไว้กับสิ่งภายนอกที่ไม่มั่นคงและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การทดลองของศาสตราจารย์ริชาร์ด เดวิดสัน (Richard Davidson Ph.D) จากมหาวิทยาลัย Wisconsin ที่วิจัยเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงภายในสมองขณะที่คนเรามีความสุข ได้อธิบายว่าอารมณ์ด้านบวกกับอารมณ์ด้านลบของคนเราส่งผลโดยตรงต่อการทำงานของสมองส่วนหน้าหรือ Prefrontal cortex โดยการทดลองได้ทำการวัดคลื่นไฟฟ้าเข้มข้นที่สมองส่วนหน้าทั้งสองด้านและพบว่าเมื่อเรามีความสุข ร่าเริง กระตือรือร้น สมองส่วนหน้าด้านซ้ายจะทำงานมากกว่าด้านขวา แต่หากขณะที่เราเครียด กังวล หดหู่กับชีวิต หรือมีอาการซึมเศร้า สมองส่วนหน้าด้านขวาจะทำงานมากกว่า ในทางจิตวิทยาจะมีคำเรียกค่าฐานของความสุขว่า happiness set point หากอธิบายง่าย ๆ ก็คือคนเราจะมีปริมาณความสุขที่เป็นธรรมชาติของตัวเองอยู่ ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้คุณดีใจสุดขีดหรือเศร้าแบบดำดิ่งเพียงไม่นานปริมาณความสุขของคุณก็จะกลับมาใกล้เคียงกับค่า set point เดิมเสมอ โดย happiness set point สามารถหาได้จากการวัดค่าเฉลี่ยทางอารมณ์ทั้งบวกและลบ ซึ่งจากการทดลองของศาสตราจารย์ริชาร์ด ที่ได้ทำการทดสอบกับอาสาสมัคร 150 คน พบว่าคนส่วนใหญ่มี set point เยื้องไปทางซ้าย ซึ่งหมายความว่าอยู่ในซีกของความสุขเล็กน้อย ดังรูปที่แสดงด้านล่าง นั่นแสดงให้เห็นว่า แม้คุณจะเจอเรื่องราวที่มันแย่ขนาดไหนก็ตาม ความเศร้านี้จะอยู่กับคุณไม่นานและมันก็จะกลับมาสู่จุดเดิม แต่ในทางกลับกันแม้ว่าคุณจะพยายามทำงานหนักเพื่อหาเงินทองมากมาย ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 มีชีวิตคู่ที่สมบูรณ์แบบ หรือพยายามหาความสุขจากภายนอกเท่าไรก็ตาม ก็ไม่อาจเปลี่ยนระดับความสุขเดิมของคุณได้เลย แต่ถึงแม้ว่าเหตุการณ์ภายนอกจะไม่สามารถส่งผลต่อระดับความสุขเดิมของเราได้มากนัก แต่การเปลี่ยนแปลงจากภายในสามารถเปลี่ยนระดับความสุขของเราได้และข่าวดีคือสามารถที่จะฝึกฝนได้ด้วย ซึ่งวิธีฝึกฝนการสร้างความสุขที่ดีที่สุดก็คือ“การทำสมาธิ” จากการวิจัยได้ทดลองกับพระทิเบตที่ฝึกทำสมาธิมาอย่างยาวนาน พบว่าสมองส่วนหน้าด้านซ้ายของพระลามะจะทำงานมากกว่าด้านขวาอย่างเห็นได้ชัดเจน เป็นผลให้ค่า set point เยื้องไปทางด้านซ้ายอย่างมากจนแทบจะตกชาร์ตเลยทีเดียว แสดงให้เห็นว่าการทำสมาธิช่วยสร้างความสุขได้จริงและมีผลเปลี่ยนแปลงถึงโครงสร้างของสมองเลยทีเดียว* ซึ่งหากฝึกฝนบ่อย ๆ อย่างสม่ำเสมอก็จะทำให้สมองส่วนนั้นแข็งแรงขึ้นอีกด้วยเปรียบได้ดังนักกีฬาที่ฝึกซ้อมทุกวันอย่างสม่ำเสมอก็จะมีร่างกายที่แข็งแรง “หากเราฝึกฝนสิ่งใด สิ่งนั้นก็จะแข็งแกร่งขึ้น”*สามารถอ่านเพิ่มเติมได้จากบทความ “สมาธิกับวิทยาศาสตร์” ฉะนั้นความสุขที่ยั่งยืนไม่ได้มาจากการออกไปไขว่คว้าสิ่งต่าง ๆ เพื่อมาเติมเต็มแต่มาจากการสร้างขึ้นภายในตัวเรานั่นเอง การฝึกสมาธิจะสามารถช่วยเพิ่มระดับความสุขให้กับเราได้ และหากเราฝึกฝนบ่อย ๆ เราก็จะเป็นคนที่มั่นคงจากภายใน มีความสุขได้ง่ายขึ้นกับทุกเรื่องที่เข้ามาในชีวิต และสามารถรับมือกับความทุกข์ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย ซึ่งผลทางวิทยาศาสตร์ก็ประจักษ์ให้เห็นแล้วว่าการทำสมาธิมีผลดีอย่างไร จากนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้วว่าจะนำความรู้ที่ได้นี้ไปใช้หรือปล่อยผ่านไป :)อ้างอิงข้อมูลจากhttps://www.youtube.com/watch?v=7jTrznF0qeYhttps://www.youtube.com/watch?v=KhuTfSq4Ww0ขอบคุณภาพประกอบจาก pexels ภาพปก/ภาพที่1/ภาพที่4/ภาพที่5/ขอบคุณภาพประกอบจาก pixabay ภาพที่2/ภาพที่3/