พืชหลายชนิดที่เห็นขึ้นอยู่ตามริมถนนหรือท้องไร่ท้องนานั้น บางชนิดอาจเป็นต้นไม้ที่มีสรรพคุณทางยาสามารถรักษาโรคได้หลายอาการ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเราจะไม่ค่อยรู้จักลักษณะของพืชสมุนไพรเท่าไรนัก เมื่อได้พบหรือได้เห็นขึ้นอยู่ทั่วไปก็มักคิดว่าเป็นต้นไม้หรือต้นหญ้าธรรมดา ทำให้ไม่เห็นคุณค่าของมัน ผู้เขียนจึงมีความตั้งใจเป็นอย่างยิ่งในการนำข้อมูลลักษณะและสรรพคุณของสมุนไพรชนิดต่าง ๆ มาเผยแพร่ เป็นความรู้ให้กับผู้ที่สนใจทั่วไป อันหวังว่าจะเป็นแนวทางในการศึกษาเพิ่มเติม และรู้จักพืชสมุนไพรแต่ละชนิดมากขึ้น ซึ่งในบทความนี้ผู้เขียนได้นำข้อมูลของพืชสมุนไพรหนึ่งชนิด ที่หลายท่านยังไม่ทราบว่ามีสรรพคุณในการรักษาอาการต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี สมุนไพรชนิดนี้ชื่อว่า “กุ่มบก” บางคนอาจเคยได้ยินชื่อและเคยนำมารับประทาน แต่หลายคนอาจยังไม่เคยรู้จัก ซึ่งเราจะมาทำความรู้จักกันในบทความนี้ภาพถ่ายโดยผู้เขียนลักษณะของ “กุ่มบก” จัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางที่มีเนื้ออ่อน ลำต้นจะไม่ค่อยตรง แตกกิ่งใหญ่แยกออกจากกัน เปลือกของลำต้นค่อนข้างหนา มีสีเทาแกมขาว มีผิวเรียบ มักจะขึ้นอยู่ในที่นา ที่ดอนหรืออยู่ในพื้นที่ป่าไม้ผลัดใบ ใบจะมีลักษณะรีทรงป้อม ขอบสองข้างโค้งขนานปลายมน มีลายเป็นเส้นแยกออกมาทางขอบใบ มีสีเขียวมันวาว ช่อดอกเป็นแบบช่อกระจะ ออกบริเวณตามง่ามใบใกล้กับปลายยอด เมื่อแห้งมักเป็นสีส้ม กลีบดอกมีสีขาวอมเขียวแล้วจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลืองหรือสีชมพูอ่อน กลีบดอกเป็นรูปรี ผลมีลักษณะกลมหรือเป็นรูปไข่ เปลือกมีจุดแต้มสีน้ำตาลอมแดง ผิวนอกแข็งและสาก เมื่อผลแก่เปลือกจะเรียบและมีสีน้ำตาลภาพถ่ายโดยผู้เขียนสรรพคุณของ “กุ่มบก” ขับลม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ บำรุงธาตุ ช่วยระงับประสาท บำรุงหัวใจ บำรุงเลือด ขับเหงื่อ แก้ไข้ตัวร้อน ช่วยให้เจริญอาหาร แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน แก้เจ็บคอ เป็นยาระบาย เป็นยาฆ่าพยาธิ แก้กลากเกลื้อนสมัยเด็กผู้เขียนมากเห็น “กุ่มบก” ขึ้นเรียงกันตามคันนา ซึ่งแม่ของผู้เขียนมักจะชอบนำส่วนยอดอ่อนมาดอกจิ้มกันกับน้ำพริก ผู้เขียนก็ชอบรสชาติของมัน ที่รสมัน อมเปรี้ยวนิด ๆ เข้ากับน้ำพริกทุกชนิด โดยเฉพาะน้ำพริกตาแดง ปู่ของผู้เขียนเคยนำเปลือก “กุ่มบก” มาทุบแล้วนำไปต้ม นำมาให้ดื่มเพื่อแก้อาการสะอึก ซึ่งก็ช่วยให้หายได้ภายในเวลาไม่นาน ปู่ยังบอกอีกว่าหากมีอาการเจ็บคอก็ให้นำดอกของ “กุ่มบก” มาต้มใส่เกลือเล็กน้อย แล้วนำมาดื่มจะช่วยให้หายเจ็บคอได้ และยังสามารถดื่มเพื่อช่วยขับปัสสาวะได้อีกด้วยที่กล่าวมานั้นเป็นเพียงสรรพคุณส่วนหนึ่งที่ผู้เขียนเคยมีประสบการณ์มา ซึ่งนอกจากนี้ “กุ่มบก” ยังสามารถนำไปเป็นยาแก้อาการต่าง ๆ ได้อีกหลายอาการ ซึ่งผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะทำให้ทุกท่านหันมาให้ความสนใจและเห็นคุณค่าของพืชสมุนไพรมากขึ้น เพื่อช่วยกันอนุรักษ์ไว้ให้คงอยู่สืบต่อไป ภาพถ่ายโดยผู้เขียน