พืชสมุนไพรนั้นมีอยู่มากมายหลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดก็มีสรรพคุณในการรักษาอาการเจ็บป่วยที่แตกต่างกัน หากเรามีความรู้ด้านพืชสมุนไพรก็จะทำให้เราสามารถจำแนกได้ว่า ควรนำสมุนไพรชนิดไหนมารักษาอาการแบบใด แต่ในปัจจุบันนี้เรามีความรู้เกี่ยวกับพืชสมุนไพรน้อยมาก มีสมุนไพรเพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้นที่เรารู้จักและนำมาใช้ ซึ่งก็อีกหลายชนิดที่เราไม่ทราบเลยว่าเป็นพืชสมุนไพร ผู้เขียนจึงมีความตั้งใจเป็นอย่างยิ่ง ในการนำข้อมูลต่าง ๆ ของพืชสมุนไพรแต่ละชนิดมาเผยแพร่ให้ความรู้ ทั้งทางด้านลักษณะและสรรพคุณ เพื่อให้พืชสมุนไพรกลับมาเป็นที่รู้จักมากขึ้น ซึ่งในบทความนี้ผู้เขียนได้นำข้อมูลพืชสมุนไพรอีกหนึ่งชนิดที่มีชื่อว่า “ผักคราดหัวแหวน” พืชที่มีลักษณะคล้ายต้นหญ้าธรรมดา ที่หลายคนไม่ทราบเลยว่าพืชชนิดนี้ เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณรักษาโรคได้ไม่น้อยเลยทีเดียวภาพถ่ายจากผู้เขียนลักษณะของ “ผักคราดหัวแหวน” จัดเป็นพืชล้มลุกขนาดเล็ก มีลำต้นตั้งตรงและอวบน้ำ เป็นพืชที่มีอายุเพียงหนึ่งปีเท่านั้น ลำต้นนั้นจะมีสีแดงอมม่วง กิ่งยอดอ่อนจะมีขนเล็ก ๆ ปกคลุมอยู่ กิ่งที่แตกออกมาจะทอดไปตามพื้นแต่ส่วนที่เป็นยอดจะชูตั้งขึ้น ใบจะมีลักษณะรีรูปไข่ปลายใบแหลม โคนใบมน คล้ายรูปใบหอก ขอบใบทั้งสองข้างโค้งขนานกัน มีรอยหยักตรงของใบ และใบมีสีเขียวเข้ม เป็นใบเดี่ยวออกสลับกันตามก้านกิ่ง ดอกมีสีเหลือ เป็นตุ่มกลม ๆ ออกเป็นช่อ ตามซอกใบที่ปลายกิ่งภาพถ่ายจากผู้เขียนสรรพคุณของ “ผักคราดหัวแหวน” แก้ปวดฟัน ช่วยให้เจริญอาหาร แก้ปวดศีรษะ แก้วิงเวียนศีรษะ แก้ร้อนใน ช่วยขับปัสสาวะ ช่วยลดอาการเลือดออกตามไรฟัน ป้องกันฟันผุ เป็นยาระบาย รักษาอาการไขข้ออักเสบ รักษาอาการปวดบวมของกล้ามเนื้อภาพถ่ายจากผู้เขียนในสมัยที่ผู้เขียนเป็นเด็กนั้นเห็นต้น “ผักคราดหัวแหวน” ขึ้นอยู่มากตามริมถนนและตามคันนา เวลาที่ปวดฟันมักจะเด็ดดอกของมันที่มีสีเหลือง มาอุดฟันซี่ที่ปวดจะทำให้รู้สึกชาอยู่พักหนึ่ง แต่หากจะให้ผลดีจะต้องนำดอกมาตำกับเกลือ แล้วนำไปอุดตรงฟันซี่ที่มีอาการปวด ซึ่งจะช่วยรักษาอาการฟันผุได้ด้วย ครั้งหนึ่งมีลูกของเพื่อนบ้านมีอาการตัวผอมเหลืองซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าเกิดจากอะไร ไปหาหมอแล้วก็ยังไม่ดีขึ้น ปู่จึงได้นำลำต้นและใบของ “ผักคราดหัวแหวน” มาต้นใส่เกลือลงไปเล็กน้อย ให้ผู้ป่วยดื่มวันละสามเวลาก่อนอาหาร เช้ากลางวันเย็น เวลาละครึ่งแก้ว ดื่มติดต่อกันอยู่สองสัปดาห์ อาการตัวเหลืองก็จางลงและร่างกายสมบูรณ์ ปู่ก็ได้ให้ดื่มน้ำสมุนไพรต่อเนื่องจนหายดี นอกจากนี้การนำลำต้นและใบมาต้มนั้นยังเป็นยาแก้ร้อนในและยาขับปัสสาวะที่ได้ผลดีมากอีกด้วยที่กล่าวมานั้นเป็นเพียงสรรพคุณบางส่วนที่ผู้เขียนเคยมีประสบการณ์ผ่านมา ซึ่งนอกจากนี้สมุนไพรชนิดนี้ยังมีสรรพคุณในการรักษาโรคได้อีกหลายอย่าง อีกทั้งยังสามารถนำไปผสมกับสมุนไพรชนิดอื่นเพื่อประกอบเป็นยารักษาโรคได้อีกหลายอาการ ซึ่งผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะทำให้ทุกท่านหันมาสนใจและให้ความสำคัญกับสมุนไพรมากขึ้น เพื่อช่วยกันอนุรักษ์ให้คงอยู่สืบไป