ที่มาภาพปกจาก pixabay โดย Leamsii จากกระแสข่าวการที่ธนาคารกลางมีนโยบายจะผลิตเหรียญดิจิทัลที่ออกมาโดยรัฐบาล ทําให้มีหลายประเทศสนใจและเข้าร่วมเป็นอย่างมาก สําหรับประเทศไทยเมื่อไม่นานนี้ทางธนาคารแห่งประเทศไทยก็ได้มีการประกาศโครงสร้างเงินบาทสําหรับให้ประชาชนและภาคธุรกิจได้ใช้งานโดยคาดว่าจะมีการเปิดให้ทดสอบใช้งานจริงในช่วงกลางปี 2022 นี้ วันนี้ผมจะพาเพื่อนๆมารู้จักบาทดิจิทัลว่ามีหน้าตาเป็นอย่างไรและจะส่งผลยังไงกับพวกเราที่เป็นประชาชนกันวันนี้ผมจะสรุปในแต่ละหัวข้อให้ได้อ่านกัน 1.เงินบาทดิจิทัลคืออะไร? ที่มาภาพจาก pixabay โดย Roy Buri ใช้เป็นภาพประกอบเนื้อหาเท่านั้น เงินบาทดิจิทัลเป็นระบบเงินที่ใช้ Block chain เป็นศูนย์กลางในการเก็บข้อมูลซึ่งคล้ายกับบิทคอย เงินบาทดิจิทัลเป็น Cantral Bank Digital Currency หรือที่เรียกย่อได้ว่า CBDC จะถูกออกและควบคุมโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งใช้และพัฒนาอยู่บน Block chain ที่ออกกํากับและดูและโดยธนาคารแห่งประเทศไทย 2.เงินบาทดิจิทัลจะมีการผลิตอย่างไร? โดยสําหรับเงินบาทดิจิทัลนั้นจะมีลักษณะคล้าย Stable Coin พูดให้เข้าใจง่ายๆคือมูลค่าของเงินบาทดิจิทัลจะถูกหนุนหลังด้วยเงินบาทปกติในอัตราส่วน1ต่อ1 หากธนาคารแห่งประเทศไทยออกบาทดิจิทัลเยอะเงินก็ต้องก็เงินบาทไว้เป็นทุนในบัญชีธนาคารแห่งประเทศไทยในอัตราส่วนที่เท่ากันอยู่ตลอด เช่น หากธนาคารแห่งประเทศไทยออกบาทดิจิทัล 100 เหรียญ ทางธนาคารแห่งประเทศไทยก็ต้องเก็บไว้ 100 บาทในจํานวนเท่ากัน ในกรณีนี้เองหากธนคารแห่งประเทศไทยออกบาทดิจิทัลมากไปก็จะส่งผลทําให้เงินบาทในภาคธุรกิจน้อยลง 3.เงินบาทดิจิทัลใช้ยังไง? ที่มาภาพจาก pixabay โดย niekverlaan ใช้เป็นภาพประกอบเนื้อหาเท่านั้น โดยเงินบาทดิจิทัลถูกออกแบบไว้จับจ่ายใช้สอย ไม่ต่างอะไรจาก Mobile Banking เงินสด หรือการใช้ หรือการใช้เงินอื่นๆที่เราใช้เป็นประจําบนแอปพลิเคชันต่างๆ โดยใช้แบบเดียวกัน อ่านถึงตรงนี้เพื่อนๆหลายคนก็คงจะสงสัยว่ามันดียังไงและต่างอะไรจากการใช้ Mobile Banking ถ้ามามองในมุมมองผู้ใช้งานอย่างพวกเราก็จะเห็นว่ามันไม่มีอะไรแตกต่างมาก เพราะจริงๆมันก็คือการทําธุรกรรมออนไลน์ผ่านสมาร์ตโฟนเหมือนกันแต่สิ่งที่เพิ่มเติมขึ้นมาก็คือความปลอดภัยที่มีมากกว่าเพราะว่าบาทดิจิทัลจะได้รับการคุ้มครองจากธนาคารแห่งประเทศไทย และธุรกรรมต่างไปจะถูกรันอยู่บน Block chain ซึ่งสามารถตั้งค่าการชําระเงินได้ เช่น ตั้งค่าให้ชําระเงินให้ผู้ขายเมื่อได้รับสินค้าแล้ว และการที่รัฐกําหนดเช่นกําหนดเงินบาทดิจิทัลจะถูกใช้ซื้อสินค้าได้เท่านั้นไม่สามารถแลกเป็นเงินสดได้ ซึ่งธุรกรรมเหล่านี้จะไม่สามารถแก้ไขย้อนหลังได้ซึ่งจะมีความสะดวกง่ายและปลอดภัยกว่า แต่ในอนาคตข้างหน้าเงินบาทดิจิทัลจะถูกพัฒนาและมีความแตกต่างเพิ่มขึ้นเพราะธนาคารแห่งประเทศไทยจะเปิดโอกาสให้เหล่านักพัฒนาโปรแกรมเข้ามาพัฒนาและต่อยอดบาทดิจิทัลได้ในอีกชั้น 4.เราจะได้บาทดิจิทัลยังไง? ที่มาภาพจาก pixabay โดย kschneider2991ใช้เป็นภาพประกอบเนื้อหาเท่านั้น ง่ายๆคือให้นําเงินสดหรือเงินฝากของท่านไปฝากไว้กับสถาบันทางการเงินที่ได้รับการรับรองจากธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งจะสถาบันการเงินจะแปรรูปเงินบาทออกมาให้เงินบาทดิจิทัลให้มีวิธีเก็บบาทดิจิทัลได้หลักๆ 2 ช่องทางคือ 1. ช่องทางแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน ซึ่งต้องได้รับการอนุญาตและดูแลจากธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งแอปพลิเคชันพวกนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากแอปธนาคารหรือแอปกระเป๋าเงินต่างๆ 2.ช่องทางสามาร์ตการ์ด ซึ่งก็เป็นทางเลือกอีกทางสําหรับผู้ที่ไม่มีสาร์ตโฟน อินเทอร์เน็ต หรือบัญชีเงินฝากจากธนาคาร 5.บาทดิจิทัลมีรูปแบบยังไง? ที่มาภาพจาก pixabay โดย AronJOIson ใช้เป็นภาพประกอบเนื้อหาเท่านั้น บาทดิจิทัลมีลักษณะคล้ายเงินสด คือ ไม่มีการให้ดอกเบี้ย ซึ่งจะทําให้เรามองว่าไม่ใช่การฝากเงินและคนก็จะนําเงินสดไปฝากธนาคารพาณิชย์เหมือนเดิมเพื่อลดปริมาณการใช้บาทดิจิทัลและทําให้ถูกมองเป็นเงินที่ใช้สอยบนทั้งโลกออนไลน์และออฟไลน์และใช้บนแพลตฟอร์ม บาทดิจิทัลจะมีการกระจายเหรียญผ่านตัวกลางเช่นสถาบันการเงินหรือผู้ให้บริการทางการเงินอื่นๆเพื่อที่จะรักษาบทบาทของเหล่าตัวกลางทางการเงินไว้และก็ให้ประชาชนได้รับความสะดวกในการใช้บริการ บาทดิจิทัลจะมีการจํากัดจํานวนการถือและการไถ่ถอน เพื่อป้องกันการถอนเงินจํานวนมากอย่างรวดเร็ว ที่อาจทําให้ธนาคารพาณิชย์ขาดสภาพคล่อง โดยเฉพาะช่วงวิกฤติและยังเป็นการป้องกันการฟอกเงินอีกด้วย ไม่สร้างภาระต้นทุนค่าธรรมเนียมในการใช้งาน เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนเข้าถึงหรือเขียนโปรแกรมเพิ่มบทบาทดิจิทัลได้ การผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีแบบรวมศูนย์และเทคโนโลยีแบบกระจายศูนย์ จะส่งผลให้ประชาชนเข้าถึงและใช้งานได้สูงสุดและปลอดภัยมากขึ้น เป็นไงบ้างครับเพื่อนๆสําหรับข้อมูลเรื่องบาทดิจิทัล ส่วนตัวผมคิดว่าหากได้เปิดใช้งานจริงน่าจะเป็นช่องทางที่ง่ายและสะดวกในการจับจ่ายใช้สอย และกลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบเศรษฐกิจและวิถีชีวิตความคุ้นชินไปโดยง่าย เพราะทั้งมีความปลอดภัยเพราะถูกดูแลโดยธนาคารแห่งประเทศไทยแล้ว และยังถูกรันบน Block chain ซึ่งสามารถตรวจสอบได้แถมยังลดปัญหาการฟอกเงินอีกด้วย ขอบคุณเพื่อนๆที่อ่านให้ความสนใจในบทความนะครับฝากติดตามผลงานอื่นๆได้นะครับ อัปเดตสาระดี ๆ มีประโยชน์แบบนี้อีกมากมาย โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี !