เสน่ห์ที่ 8: นายคือ...อาวุธทรงพลัง...เพราะนายมีทั้งอำนาจ บารมี ตำแหน่งการงานที่สูงกว่าเรา ในบางโอกาส...นายสามารถนำเสนองานต่อผู้บริหารแทนเราได้...นายสามารถจัดการหน่วยงานอื่น ๆ ที่มีปัญหากับเราได้ เรียกได้ว่า...นายเป็นเกราะป้องกันเราได้เราต้องยกย่องนายว่าเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวเราได้ในหลาย ๆ เรื่อง...เราต้องยกย่องนายเป็นอาจารย์ที่ให้ความรู้เราและลูกน้องเราได้...นายคือฝ่ายการตลาดของเรา ถ้าเรามองในแง่ส่วนผสมการตลาด หรือ Marketing Mix นายเราคือ...ผู้ดูแลช่องทางการจัดจำหน่าย โดยนำสินค้า (ผลงานเรา) ไปขายและส่งให้ผู้บริหารหรือนายใหญ่ บางครั้งยังเอาไปขายกับหน่วยงานอื่น เอาไปขายให้พนักงาน...และขณะเดียวกัน นายก็ยังเป็นผู้ดูแลโฆษณา-ประชาสัมพันธ์ให้กับผลงานเราได้เป็นอย่างดี ต้องอาศัยนายซึ่งมีเครือข่ายที่ดีกว่าเรามาช่วยในการทำตลาดให้กับเราการทำงานกับนาย..ถือว่าเป็นการบริหารนาย...ให้เราคิดว่าเป็นการบริหารตัวเราเอง...ถ้าเราผ่านการบริหารนายได้ หรือผ่านนายมาหลาย ๆ คน หลาย ๆ แบบ แปลว่า...เราได้สอบผ่านการทดสอบ และได้พัฒนาตัวเรา เป็นการฝึกฝน ฝึกซ้อมก่อนที่เราจะได้เลื่อนตำแหน่งไปเป็นนายในอนาคตถ้าเรามองนายคือ...นักมวย เราก็เปรียบเหมือน...คู่ซ้อมที่มีหน้าที่ล่อเป้าให้นักมวยมาซ้อมชก วันนี้เราอาจจะเป็นทุกข์ เจ็บตัว เจ็บใจ...เราต้องผ่านไปให้ได้ เพราะวันหนึ่งในอนาคตข้างหน้า เมื่อเราได้มีโอกาสเลื่อนตำแหน่งไปเป็นนายบ้าง เท่ากับว่าเราได้เป็นนักมวยตัวจริง ที่ผ่านการซ้อมมาอย่างโชกโชน เรารู้วิธีการป้องกันตัว เรารู้วิธีมองหาจุดแข็ง จุดอ่อน และในที่สุดเราก็จะเติบโตเป็นนายที่รู้ทันความคิด รู้จักวิธีชกมวยที่ถูกต้อง รู้ชั้นเชิง และจะกลายเป็นนายที่มีคุณภาพ เพราะเราเตรียมตัวมาล่วงหน้าอย่างยอดเยี่่ยมการบริหารนายที่ดีและมีประสิทธิภาพ...เราต้องพยายามทำให้นายมีเวลาว่างน้อยที่สุด เพราะเมื่อนายว่าง นายก็จะใช้เวลาไปกับการคิดโครงการใหม่ ๆ ขึ้น และข้อสำคัญคือนายจ่ายงานให้เราทำแน่นอน เพราะหน้าที่ของนาย คือการสั่งการ ส่วนลูกน้อง คือต้องทำตามคำสั่งนาย และเมื่อนายสั่งงานแล้ว มักจะสั่งงานพร้อมกำหนดเวลาส่งงาน ดังนั้น เราต้องเสนองาน เสนอโครงการหลาย ๆ โครงการให้นายพิจารณา ก่อนที่นายจะคิดโครงการมาสั่งเรา แบบนี้จะทำให้เราเป็นผู้กำหนดเวลาและงาน ไม่ต้องกลัวว่านายจะอนุมัติงานทุกโครงการให้เราทำ เพราะส่วนใหญ่นายจะทยอยทำทีละงาน และส่วนใหญ่เกือบ 100% นายจะใช้เวลาติชมงานเรา เพื่อให้ไปแก้ไขมากกว่าอ่านครั้งเดียวแล้วอนุมัติทันทีนอกจากนั้น...เราต้องพยายามเข้าหานาย โดยเฉพาะเวลาที่นายอารมณ์ไม่ดี...เข้าหาช่วงเวลานี้ ไม่โดนด่าหรือ??? ปกติลูกน้องมักจะเข้าหานายตอนที่นายอารมณ์ดีกันทั้งนั้น และเลี่ยงไม่เข้าหาตอนนายอารมณ์เสีย เพราะเดี๋ยวโดนพายุสึนามิกระหน่ำ กลัวโดนลูกหลง เลยทำให้คนส่วนใหญ่มักจะดูทิศทางลมดี ๆ สังเกตเวลานายเดินเข้าออฟฟิศ...เราในฐานะลูกน้องมืออาชีพ ต้องฉกฉวยโอกาสนี้และเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส โดยกล้าที่จะเข้าหานายถึงแม้จะอารมณ์ไม่ดี ยอมโดนลูกหลง ยอมเป็นที่ระบายอารมณ์ให้นาย...เพียงไม่กี่นาที แต่สิ่งที่เราจะได้กลับมาคือ นายจะเห็นเราเป็นเพื่อน และนายจะรู้สึกผิดที่ระเบิดอารมณ์ใส่เรา ถึงแม้บางครั้งอาจไม่ใช่ความผิดของเรา สุดท้าย...ทำให้นายเกิดความเกรงใจและหาโอกาสชอเชยให้กับเรามีอยู่ครั้งหนึ่ง...ที่ทำงานไม่มีใครอยู่ เหลือเพียงเลขาหน้าห้องและผม ในขณะที่ตอนนั้นนายอารมณ์ไม่ดี เพราะไม่มีใครส่งการบ้านนายเลยยกเว้นผม ผมถูกเรียกเข้าพบในฐานะที่อยู่ออฟฟิศ ตอนนั้น...ในใจคิดว่า "ซวยแล้วตู@@" แน่นอนฟังนายระบายอารมณ์อยู่เกือบชั่วโมง และที่ฟังมาทั้งหมดไม่ใช่เรื่องของเราเลย ไม่ใช่ความผิดของเราด้วย...สติ...สติ...สติ...เราตอบนายไปอย่างคนอารมณ์เย็น ๆ เพราะเข้าใจเจตนาของนายในเวลานั้นว่า นายกำลังเครียดและฝากคำด่าไปให้คนอื่นที่หนีหน้านาย ผมได้ตอบแบบใจเย็นว่า "ไม่เป็นไรครับพี่ เดี๋ยวผมจะนำข้อความเหล่านี้ไปสื่อสารต่อให้นะครับ" แต่อย่าไปสวนนายกลับไปว่า "ไม่เกี่ยวอะไรกับผมซะหน่อย โวยวายอยู่ได้ น่าเบื่อ (คำหลังนี้คิดในใจนะ)" สิ่งที่ตามมาก็คือ...นายสงบลงเพราะระบายหมดแล้ว และน่าจะรู้ตัวว่ากำลังต่อว่าผิดคนตั้งแต่นั้นมา...เวลาจะต่อว่าเราก็จะต่อว่าแบบมีส่วนลด (ความรุนแรง) การกล้าเข้าหานายตอนที่อารมณ์ไม่ดีจะสร้างพฤติกรรมนาย...ทุกครั้งที่อารมณ์ไม่ดีจะคิดถึงเรา จะคอยถามหาเรา...เราจะกลายเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวนายไปโดยอัตโนมัติโดยที่นายไม่รู้ตัว เข้าทำนองที่ว่า "ขาดฉันแล้วนาย จะรู้สึกเหงา" ไม่ใช่กลายเป็นกระโถนนะเข้าใจด้วยเราต้องรู้จักการสร้างผลงานแบบไม่เต็มแม็ก...คือแสดงฝีมือแบบหมดเปลือก เพราะผลงานครั้งแรกของเราจะเป็นมาตรฐานการทำงานในใจนาย ทุกอย่างถูกบันทึกมาตรฐานในสมองนายเรียบร้อย วันไหนถ้าเราทำงานน้อยกว่าที่เราทำ จะกลายเป็นว่าเราทำงานต่ำกว่ามาตรฐานในใจนายทันทีดังนั้น เราต้องวางแผนในการแสดงฝีมือเราออกมาโชว์นายเป็นช่วง ๆ อย่าปล่อยหมดแม็ก ให้คิดว่ากำลังทำโปรโมชั่นให้ลูกค้า บางช่วงปล่อยทีเด็ดออกมา บางช่วงรักษาระดับมาตรฐานผลงานก็พอ และถ้าเป็นช่วงเวลาที่นายอยู่ในภาวะคับขัน ต้องการความช่วยเหลือ...เราก็เสนอตัวเข้าไปช่วยนาย...จะทำให้กลายเป็นงานที่ได้ใจนายขึ้นมาทันทีบางครั้งเราต้องฝึก บริหารใจนาย...ให้คิดว่า นายก็คือยอดมนุษย์เงินเดือนคนหนึ่ง เหมือนเรา มีลักษณะนิสัยใจคอ เป็นคนใจร้อน ใจเย็น ไม่ถือตัว ไม่ค่อยมีเหตุผล ไม่ฟังความคิดเห็นใคร ชอบช่วยเหลือ...นี่คือสิ่งที่เราควรรู้ ไม่รู้ก็ค้นหา ศึกษาว่าอะไรคือจุดอ่อนนาย...ถ้าเรารู้ เราก็รู้จังหวะในการที่จะเข้าไปคุย ไปเป็นเพื่อน และอาสาทำงานที่นายอยากทำ แต่ไม่มีใครสนใจจะทำให้...นี่จะกลายเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะซื้อใจนายได้...แต่สิ่งสำคัญคือ งานที่เราอาสาไปทำให้...เราต้องมั่นใจว่างานนั้นเราทำได้บางครั้งเราต้องรู้จัก...ขึ้นเสียง เถียงนายบ้าง...มันสวนกับที่เคยเรียนรู้มาว่า นายต้องถูกเสมอ ถูกทุกเรื่อง...แต่เราต้องไม่เป็นผู้ตามเพียงอย่างเดียว นายบางคนไม่ชอบ นายจะชอบลูกน้องที่มีความคิด แสดงความคิดเห็นของตัวเองได้...ประลองฝีมือความรู้กันหน่อย...ถ้าเราอยากเป็นคนที่มีคุณค่าในสายตานาย ต้องหัดไม่เห็นด้วยบ้าง เถียงบ้าง แต่ไม่ใช่ทะเลาะ ตะโกนด่า และเราควรเถียงโดยรูปแบบการแสดงความคิดเห็น เพราะไม่ต้องกลัวว่าจะผิดใจ เพราะมันเป็นความคิดเห็น ไม่มีอะไรผิด อะไรถูก...แต่ถ้าเรามัวแต่ไปเถียงนายด้วยอารมณ์ ในเรื่องที่นายมีข้อมูลมากกว่าเรา รู้ลึกมากกว่าเรา เราจะกลายเป็นคนที่ดื้อด้านในใจนายไปตลอดการบริหารนาย...ต้องรู้ใจ เข้าใจ เดาใจนายได้ ช่วงเวลาไหนนายต้องการอะไร...บางครั้งนายอยากให้เราเป็นผู้ฟังที่ดี...บางครั้งอาจต้องการให้เรามีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น...บางครั้งอาจต้องการให้เราช่วยยืนยันสนับสนุนความคิดนาย ถึงแม้จะเป็นแค่เราพยักหน้าก็ตาม แค่นี้นายก็ปลื้มแล้ว...เพราะฉะนั้นในระหว่างการประชุม เราต้องตั้งใจฟัง ติดตาม สังเกตสายตานายดี ๆ เพราะบางครั้งนายอาจจะโยนลูกให้เราช่วย เราจะได้ช่วยได้ทันที แค่นี้คะแนนเต็มร้อยในใจนายจะไปไหนเสียการบริหารนาย ถือเป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญต่อความสำเร็จในการทำงานสำหรับยอดมนุษย์เงินเดือน นอกเหนือจากฝีมือและความสามารถในการทำงานแล้ว เพราะ นายคือ...อาวุธอันทรงพลังของเรา และยิ่งสามารถบริหารนายได้โดยนายไม่รู้ตัว จะถือว่าเป็นความสำเร็จของลูกน้องมืออาชีพ ที่วันหนึ่ง...เวลาเราได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นไปเป็นหัวหน้า เราก็จะรู้ทันลูกน้อง เพราะเราผ่านการฝึกมาเรียบร้อยแล้วไขอขอบพระคุณภาพประกอบจาก: www.pexels.comภาพประกอบที่ 1: ภาพประกอบที่ 2 : ภาพประกอบที่ 3 : ภาพประกอบที่ 4