แม้บ้านจะเป็นเพียงทาวน์เฮาส์ ไม่มีที่ดินจะปลูกอะไร แต่เมื่อวันหนึ่ง กินผักคะน้าที่ซื้อมาจากตลาด แล้วมีกลิ่นประหลาดเหมือนสารเคมีอวลอยู่ในปาก จึงตระหนักว่า ข้อมูลที่เขาบอกว่าผักที่ขายกันในตลาด รวมทั้งในสรรพสินค้า มีสารฆ่าแมลง และอื่นๆ ปนเปื้อนอยู่ บางชนิด เก็บตัวอย่างมากี่ตัวอย่าง ก็มีสารพิษปนเปื้อนหมดทุกตัวอย่าง เข้าไปศึกษาเว็บไซต์เรื่องการปลูกผักของคนสังคมเมืองมาหลายแหล่ง สุดท้าย ก็ตัดสินใจปลูกผักที่อยากกินในภาชนะที่ใช้แล้ว เช่น ขวดพลาสติกที่บรรจุน้ำดื่ม สารพัดขนาด ดินนั้นหาซื้อไม่ยาก ปรุงดินด้วยปุ๋ยคอก ขุยมะพร้าว ฟางแห้ง ทุกอย่างมีขายที่ร้านขายต้นไม้ คลุกส่วนผสมทั้งหมด และหมักไว้ในกะละมังแตกที่ไม่ใช้แล้ว รดน้ำพอให้ดินชุ่มชื้น เพื่อให้จุลินทรีย์ได้ย่อยสลายธาตุอาหารให้ปุ๋ยและดินให้กลมกล่อมสักสามอาทิตย์ ส่วนเมล็ดพันธุ์ ก็ซื้อมาจากร้านขายต้นไม้เช่นกัน ผักคะน้า ผักกาด ผักบุ้งจีน ผักกวางตุ้ง ผักชี ชุนฉ่าย อยากกินอะไรก็ซื้อมาปลูกเลย การปลูกผัก ไม่ต้องคิดอะไรมาก ค่อยๆ เรียนรู้ไป เราต้องทำความรู้จักนิสัยของผักที่เราปลูก ที่ที่เราวางเขา เริ่มต้นปลูกก็หว่านเมล็ดลงในดินที่ใส่ในภาชนะพลาสติกใช้แล้ว คลุมด้วยฟางบางๆ รดน้ำ เท่านั้น ไม่กี่วัน เมล็ดก็งอกแล้ว เมื่อดูว่าต้นกล้าแข็งแรง ก็ย้ายบางต้นออกไปปลูกในภาชนะที่เตรียมไว้ใบอื่น แต่ถ้าหว่านไม่แน่น จะไม่ย้าย ก็ไม่มีใครว่าอะไร รดน้ำ ใส่ปุ๋ยคอกบ้าง ผักก็โตได้ ขอให้ได้แสงแดด ดินระบายน้ำได้ เท่านั้น ผักของเราก็จะงามขึ้นทุกวัน แต่อย่าไปหวังว่ามันจะกอใหญ่ อวบอ้วนแบบที่เขาขายในตลาด วันไหนเราจะกินมาม่า เราก็มีผักที่ปลูกเองใส่ลงไป พอให้ร่างกายได้รับวิตามินและสารอาหารจากผักเข้าไปด้วย หรือถ้ามีมาก เราก็เอาไปผัด ไปลวกจิ้มน้ำพริกได้ ปลูกผักแบบนี้ นอกจากสุขภาพกายจะดีแล้ว สุขภาพใจก็จะดีตามไปด้วย อย่างที่เขาเรียกว่า “สวนบำบัด” ก็คงได้ การปลูกผักแบบนี้ ได้ใช้ภาชนะพลาสติกใช้แล้วให้เป็นประโยชน์ ออกแบบจัดวางดีๆ ก็จัดสวนหน้าประตูบ้านได้ ไม่ต้องกลัวเรื่องแมลงจะมารบกวน เพราะมันไม่มีมากพอที่แมลงจะมากันเป็นฝูง และถ้าแมลงมาจริงๆ ง่ายๆ เลย ก็เก็บผักทั้งหมดมากิน แล้วปลูกผักชนิดใหม่ และปลูกให้หลากหลาย สนุกกับชีวิตในเมืองได้ง่ายๆ ด้วยการปลูกผัก ปลูกต้นไม้ ให้อากาศที่ดี ให้อาหารตา อาหารกาย อาหารใจ ได้แบ่งปันให้เพื่อนบ้าน ได้ลดขยะพลาสติก ถึงจะไม่มากมาย แต่ก็ทำให้เรามีความสุข ความสุขทำให้เราสุขภาพดีแน่นอน