안녕하세요 위니입니다~~ ^w^ (อันยองฮาเซโย วินนี่อิมนีดา) สวัสดีค้าบ วินนี่นะครับ 😊สืบเนื่องมาจากบทความที่เขียนก่อนหน้านี้ https://intrend.trueid.net/post/159277แต่ในบทความนี้มีรายละเอียดครบทุกขั้นตอนแน่นอนจ้า!!หลายๆ คนก็ยังสงสัยหรือไม่แน่ใจว่าการยืนยันตัวตนบัญชี NAVER นั้นทำได้เฉพาะคนเกาหลี (อยู่ในเกาหลีหรือต่างประเทศ) เท่านั้น แต่จริงๆ แล้วชาวต่างชาติอย่างคนไทยเราก็สามารถทำได้นะครับหลังจากที่ยืนยันตัวตนเรียบร้อยแล้ว สามารถใช้ได้หลายบริการ อย่างเช่น NAVER Webtoon, NAVER Novel, NAVER SERIES (เติมเหรียญเพื่อซื้ออ่านตอน), NAVER Cafe (เฉพาะบางคาเฟ่), NAVER MyBOX (เก็บข้อมูลบนคลาวด์) ฯลฯแต่ยังไม่สามารถใช้ได้แค่บางบริการ จาก NAVER นะ เนื่องจากบางบริการต้องยืนยันกับหมายเลขโทรศัพท์มือถือเกาหลี ใช้ได้ทุกค่าย พร้อมจดทะเบียนซิมเป็นของตัวเองด้วย เช่น NAVER Pay (ผูกบัญชีธนาคาร/บัตร), NAVER Webtoon/NAVER SERIES (อ่านการ์ตูน/มังฮวา 18+ เฉพาะผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปตามนับวันเกิดสากล) และ NAVER Vibes (ฟังเพลง เฉพาะตอนซื้อแพ็คเกจ) เป็นต้นQ: ทำไมต้องยืนยันตัวตน...??A: เพราะว่าในประเทศเกาหลีใต้ถือว่าเป็นกฎหมายบังคับตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้เครือข่ายข้อมูลและการสื่อสาร และการคุ้มครองข้อมูล (Act on Promotion of Information and Communication Network Utilization and Information Protection)แต่ประเทศเกาหลีใต้เป็นประเทศแห่งแรกของโลกที่ใช้ระบบการยืนยันตัวตนผู้ใช้บนโลกอินเทอร์เน็ตอย่างจริงจัง เริ่มแรกมีมาตั้งแต่ประมาณปี พ.ศ. 2547 (ค.ศ. 2004) หลังจากที่ผ่านการอนุมัติร่างกฎหมายการเลือกตั้ง จุดประสงค์เพื่อป้องกันการแสดงความคิดเห็นที่มีผลกระทบด้านลบต่อการเลือกตั้งจากเว็บบอร์ดในตอนนั้นครับผมสมัยแรกๆ ที่ใช้ระบบยืนยันตัวตนชื่อจริงบนอินเทอร์เน็ต ก็คือ...แค่กรอกชื่อ (이름) และบัตรประชาชนเกาหลี (Korea Resident Registration Number - 주민등록번호) 13 หลัก หลังจากนั้นปรับเปลี่ยนระบบช่องทางการยืนยันตัวตนเป็น หมายเลขโทรศัพท์, i-PIN (아이핀) และบัตรเครดิต/บัตรเดบิต (신융/체크카드) แต่ปัจจุบันนี้ไม่ว่าจะเป็นสมัคร ID เกมออนไลน์, ธุรกรรมการเงิน, คอนเทนต์ 18+ ฯลฯ ต่างใช้ระบบการยืนยันตัวตนแต่ละแบบทั้งนั้นครับผม 😉ถ้าพร้อมแล้ว.... GO!!! ไปยืนยันตัวตนเลยยยยยวิธีเปลี่ยนชื่อ Nickname ใน Naver IDอย่างแรกก่อนที่จะทำการยืนยันตัวตน "ส่วนนี้สำคัญมาก อย่าลืม!" ให้เข้าไปเปลี่ยนชื่อเล่น (Nickname) ที่ https://nid.naver.com/user2/help/myInfoV2?lang=en_US แล้วคลิกที่ปุ่มแก้ไข (บริเวณรูปโปรไฟล์)จากนั้นให้เปลี่ยนชื่อเล่น (Nickname) เป็นชื่อจริงตามบัตรประชาชนนะครับ (ต้องตัวพิมพ์ใหญ่ ไม่ต้องใส่คำนำหน้าเนื่องจากเป็นอักขระพิเศษจึงไม่สามารถเปลี่ยนได้) ตัวอย่างเช่น SOMTING KAORI (สมติ่ง เกาหลี) แล้วคลิกที่ปุ่ม Confirm และจะขึ้นข้อความว่า Update the profile. ให้คลิกที่ปุ่ม OK เพื่อบันทึกวิธีการยืนยันตัวตนหลังจากได้เปลี่ยนชื่อเล่น และได้กดปุ่มไปยืนยันตัวตนจากเว็บต่างๆ ในเครือ NAVER เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้คลิกที่ปุ่ม Inquiry เพื่อเข้าหน้า NAVER Helpจากนั้นจะปรากฏหน้าจอแบบฟอร์มยืนยันตัวตนให้กรอกดังกล่าวตามด้านล่างนี้สำหรับการยืนยันตัวตนในวิธีนี้ให้เจ้าหน้าที่ NAVER ทำการยืนยันตัวตนของเราหลังจากที่ได้รับแบบฟอร์มนะครับ1. Requesting customer's name - ชื่อลูกค้าสำหรับส่งคำขอ : ให้ใช้ภาษาอังกฤษ ตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมด มีคำนำหน้าด้วย ตัวอย่างเช่น MR. SOMTING KAORI (นาย สมติ่ง เกาหลี)2. Requesting customer's gender - เพศลูกค้าสำหรับส่งคำขอ : ตัวอย่างเช่น เพศชายใส่ Male, เพศหญิงใส่ Female3. The verified phone number when you signed up - หมายเลขโทรศัพท์ที่ผูกไว้กับ NAVER : ต้องใส่นำหน้าด้วยรหัสประเทศ เช่น +66 (ไทย) แล้วตามด้วยหมายเลขโทรศัพท์ (ไม่ต้องใส่เลข 0) ตัวอย่างเช่น +669123456784. Consent to change to real name / Consent to change your nickname ID to your real name using English letters - ข้าพเจ้าจะเปลี่ยนเป็นชื่อจริง / ข้าพเจ้าจะเปลี่ยนชื่อเล่นเป็นชื่อจริงโดยใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษ : ให้ติ๊กถูกที่ I agree.5. Attactments - ไฟล์แนบ : หลังจากที่ปกปิดข้อมูลส่วนบุคคลบางส่วนแล้วให้ใส่รูป หรือไฟล์ PDF ที่เป็นบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง (Passport) และข้อมูลต้องมองเห็นอ่านออกชัดเจนการปกปิด (Censor) ข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับบัตรประชาชน ที่ต้องปกปิดดังนี้เลขบัตรประชาชนให้เห็นเหลือเลข 4 ตัวสุดท้ายศาสนาที่อยู่6. Type of ID - ประเภทของ ID : สำหรับบัตรประชาชนให้ใส่คำว่า Thai National ID Card และสำหรับหนังสือเดินทาง (Passport) ให้ใส่คำว่า Thailand Passport7. Issuing Country - ประเทศที่ออกให้ : ตัวอย่างเช่น Thailand8. Issuing Organization - หน่วยงานที่ออกให้ : สำหรับบัตรประชาชนออกให้โดยแต่ละจังหวัด ให้ใส่คำว่า Department of Provincial Administration, Ministry of Interior (ตามด้วยจังหวัดที่ออกบัตร ให้พิมพ์ภาษาอังกฤษเท่านั้นในวงเล็บนี้)9. Validity Period - วันหมดอายุ : ต้องเป็นบัตรที่ยังไม่หมดอายุเท่านั้น ให้ใส่ตามรูปแบบดังนี้ ปปปป/ดด/วว ตัวอย่างเช่น 2029/01/3010. Ask a Question - ถามคำถาม : ถ้าไม่มีข้อสงสัย/คำถามใดๆ ให้พิมพ์คำว่า Nothing, But try can access all NAVER Services. ;)11. Consent to collection of personal information - ข้าพเจ้ายินยอมให้รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล : ให้ติ๊กถูกที่ I agree.12. ปุ่ม Inquiry : หากกรอกข้อมูลถูกต้องและครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว ให้คลิกที่ปุ่ม Inquiry เพื่อส่งให้เจ้าหน้าที่ NAVER ที่เกี่ยวข้องทำการตรวจสอบ และถือว่าอันเสร็จสิ้นจากนั้นรออนุมัติการยืนยันตัวตน NAVER ประมาณ 1-3 วันทำการ แล้วคลิกที่ปุ่ม Confirm เพื่อกลับเข้าสู่หน้าหลักของ NAVER Helpดูผลการยืนยันตัวตนหลังจากที่รอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สามารถเช็คได้ผ่านทาง NAVER Mail ที่มีชื่อหัวข้อว่า "Hello, this is NAVER." หรือ "안녕하세요. 네이버고객센터입니다."หากได้ผลตามรูปด้านบนดังกล่าวแล้ว สามารถใช้งานได้ตามปกติและกลับไปเปลี่ยนชื่อเล่น (Nickname) ได้เลยค้าบบบ~ สำหรับบทความนี้ได้จบลงแล้ว ฝากกดแชร์บทความนี้ให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่สนใจนะครับ อันยองงงงง 😆😉ช่องทางติดตามผู้เขียนFacebook: Anawin SupawatraiInstagram: winniewinwin_sTiktok: winniewinwin_sเครดิต:ภาพไอคอนประกอบหน้าปก : รูปไอคอน ID Card (Freepik), รูปไอคอนหนังสือเดินทาง (PngTree - Creative Art), รูปไอคอนติ๊กถูกสีเขียว (Canva - สำหรับสมาชิก Canva Pro)ภาพประกอบที่ 1 โดย : Screenshot จากหน้าเว็บไซต์ NEXON Koreaภาพประกอบที่ 2, 3 โดย : Screenshot จากหน้าเว็บไซต์ NAVER IDภาพประกอบที่ 4 โดย : Screenshot จากหน้าเว็บไซต์ NAVER ID Verifyภาพประกอบที่ 5, 6 โดย : Screenshot จากหน้าเว็บไซต์ NAVER Helpภาพประกอบที่ 7 โดย : Screenshot จากหน้าเว็บไซต์ NAVER Mailเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !