สวัสดีค่ะผู้อ่านทุกท่าน สำหรับบทความนี้ขอเปลี่ยนแนวมาฝั่งการศึกษากันบ้าง สำหรับวันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการสอบ TOEIC ยังไงให้ได้คะแนนเยอะๆค่ะ ซึ่งวิธีที่เราจะแนะนำในบทความนี้ ได้ผ่านการทดสอบมาแล้วว่าสามารถทำให้คะแนนดีจริง โดยตัวผู้เขียนเองสอบ TOEIC เป็นครั้งแรกในชีวิตเมื่อตอนต้นปีที่ผ่านมา และได้คะแนนอยู่ที่ 965 แบ่งออกเป็นListening 485 / 495Reading 480 / 495ถือว่าดีเกินกว่าที่เราตั้งใจไว้สูงมาก แต่ต้องขอบอกก่อนนะคะว่าเรามีพื้นฐานระดับนึง และส่วนตัวชอบเราเอาตัวเองไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีภาษาอังกฤษอยู่แล้ว อย่างเช่น การดูหนัง ฟังเพลง ดูYouTube อ่านข่าว และอื่นๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะทำข้อสอบได้ดีนะคะถ้าไม่เตรียมตัว เพราะฉนั้นเรามั่นใจว่าวิธีที่จะแนะนำในบทความนี้ จะช่วยให้หลายๆคนได้คะแนนมากกว่าที่คาดไว้ค่ะ จะมีวิธีไหนบ้างไปดูกันค่ะ1. รู้ตัวเองก่อนก่อนอื่นเลยคือเราต้องรู้ก่อนค่ะว่าทักษะเราอยู่ในระดับไหน ซึ่งสำหรับการสอบ TOEIC นี้ เราแนะนำว่าให้ลองทำข้อสอบ mock test ทั้งหมดเลย โดยไม่ต้องจับเวลาและใช้เวลาให้มากที่สุดเท่าที่ตัวเองจะทำได้(แต่ต้องซื่อสัตย์นะคะ ห้ามใช้ตัวช่วยในการหาคำตอบเด็ดขาด! แล้วหลังจากนั้นก็คำนวณคะแนนออกมา วิธีนี้จะช่วยทำให้เราทราบได้ดีว่าภาษาอังกฤษของเราอยู่ในระดับใด โดยข้อสอบสามารถหาได้ในอินเทอร์เน็ตเลยค่ะ หรือจะซื้อหนังสือข้อสอบมาเลยก็จะดีมาก เพราะเราจะได้ฝึกทำหลายๆรอบด้วย เราแนะนำวิธีนี้เป็นอันดับแรก เพราะทุกคนควรรู้ระดับปัจจุบันของตัวเอง เพื่อที่จะได้ทราบว่าควรเรียนรู้พาร์ทไหนเพิ่มเติม และในทางกลับกันคือเราจะได้รู้ว่าพาร์ทไหนเราทำได้ดีอยู่ จะได้ไม่เสียเวลากับพาร์ทนั้นมากค่ะ2. ฝึก ฝึก และฝึกไม่มีทางที่เราจะทำอะไรได้ดีถ้าเราไม่ฝึกฝนมันค่ะ การสอบก็เช่นเดียวกัน ฝึกฝนให้มากเพื่อให้ชินกับข้อสอบ ฝึกจนเราพอใจกับผลลัพธ์ของตัวเอง อย่างตัวเราเอง ถึงแม้ว่าจะค่อนข้างมั่นใจในภาษาอังกฤษ แต่เราก็ยังรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้มั่นใจในพาร์ท reading และ grammar ขนาดนั้น นอกจากทำข้อสอบบ่อยๆแล้ว เรายังใช้วิธีอ่านข่าวบ่อยๆด้วยค่ะ อย่างเวลาว่างตอนรอรถ หรือตอนเดินทางเหมาะกับการฝึกมาก โดยเราจะชอบอ่านผ่าน app ค่ะ แนะนำของ BBC กับ The New York Times ส่วนตัวชอบ UX/UI ของ 2 อันนี้ส่วนพาร์ท listening ถ้าใครไม่คุ้นชินกับการฟังภาษาอังกฤษ เราอยากบอกว่า ดูข่าว ดูหนัง ดูซีรีส์ และดูYouTube เป็นภาษาอังกฤษ ช่วยได้เยอะมากๆเลยค่ะ ให้เลือกเป็นรายการที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสอบหรือการสอนภาษาอังกฤษด้วยนะคะ เพราะเราจะได้คุ้นชินกับคำศัพท์หรือประโยคที่ใช้ในชีวิตจริง ซึ่งการันตีได้เลยว่าสิ่งที่ฟังมาจะไปอยู่ในข้อสอบแน่นอนค่ะ หรือถ้ามีทักษะการฟังระดับนึงแล้ว ให้ลองฟังด้วยความเร็ว 2 เท่า หรือเร็วกว่านั้นดูค่ะ วิธีนี้จะช่วยให้เราตัดสินตัวเองได้ว่าเราแม่นมากพอ หรือยังมีส่วนไหนที่ต้องฝึกฝนเพิ่มเติมอีก เพราะพาร์ท listening ตอนสอบเราไม่สามารถย้อนกลับมาฟังอีกรอบได้ เพราะฉนั้นควรจะมั่นใจระดับนึงค่ะถ้าอยากได้คำแนนสูง3. ทบทวนคำศัพท์และไวยากรณ์เป็น 2 สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยค่ะในการสอบ TOEIC โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่คิดว่าตัวเองอ่อน 2 อย่างนี้ เราอยากแนะนำให้ทบทวนและอ่านหนังสือเกี่ยวกับไวยากรณ์และคำศัพท์ หรือจะเป็นหนังสือสำหรับเตรียมสอบ TOEIC โดยเฉพาะ เนื่องจากอาจพบคำถามในหนังสือที่น่าจะเจอในการทำข้อสอบจริง โดยส่วนตัวแล้วเราพยายามทำส่วนนี้ให้เสร็จอย่างเร็วที่สุดภายใน 10 นาที เพื่อที่จะได้มีเวลาเพียงพอสำหรับส่วนสุดท้ายซึ่งเป็นการอ่านบทความที่ยาวเป็นส่วนใหญ่ ลองพยายามอย่าปล่อยให้ตัวเองใช้เวลาในพาร์ทคำศัพท์และไวยากรณ์มากเกินไปและพยายามทำพาร์ทนี้ให้ผิดพลาดน้อยที่สุดค่ะ ถ้าใครรู้สึกว่าการทวนคำศัพท์ด้วยการอ่านนั้นน่าเบื่อ อยากแนะนำให้ลองไปทวนด้วยช่อง YouTube: Learn English With TV Series เลยค่ะ เหมือนได้ดูหนังไปพร้อมๆกับการเรียนรู้คำศัพท์ สนุกเพลินและได้ใช้จริงชัวร์https://www.youtube.com/watch?v=PMUe_8Ae9dQ 4. ลองเอาตัวเองไปซึมซับภาษาอังกฤษมันเป็นไปไม่ได้เลยค่ะที่เราจะสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้หากเราไม่ใช้จริง ถีงแม้จะเป็นระยะเวลาสั้นๆ แต่ถ้าหากเราได้ใช้ภาษาจริง เราจะแม่นกับมันมากขึ้นค่ะ แต่ถ้าจะให้ย้ายตัวเองไปอยู่ประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเลยก็ดูจะลงทุนไปหน่อย วิธีง่ายๆที่เราใช้เลยเคยคุยกับชาวต่างแชทผ่าน application ต่างๆค่ะ แนะนำ Omegle เพราะจะได้ vdo call คุยจริงๆ หรือถ้าใครจะเล่น app หาคู่ก็ได้นะคะ นอกจากได้ภาษาแล้วอาจจะได้คู่ครองเป็นของแถม555555555 หรือถ้ายังไม่อยากไปเลเวลนั้นก็ลองเข้าไปฝึกใน #engcon บนทวิตเตอร์ก็ได้นะคะ เป็น hashtag ที่หลายๆคนจะเข้าไปฝึกภาษากัน โดยเราอาจะเลือกคุยผ่าน dm หรือจะลองเปิด space ให้ผู้คนเข้ามาเลือกเปลี่ยนกันก็จะถือว่าได้ฝึกการฟังพูดไปด้วยเลยค่ะ หรือถ้าเราเขินมากเกินกว่าที่จะคุยกับคนแปลกหน้าได้ ก็ลองฝึกกับตัวเองในกระจกเลยค่ะ อย่างตัวเราเองเวลาดูหนังจะชอบพูดตามบทในหนังเพื่อให้ตัวเองซึมซับกับรูปประโยคที่เขาใช้ และฝึกว่าเราฟังถูกต้องหรือเปล่า แถมพูดบ่อยๆยังได้สำเนียงตามด้วยค่ะ ถือว่าเป็นการฝึทกที่สนุกมากสำหรับชาว introvert 5. Tips&Tricksถ้าหากใครมีเวลาในการเตรียมสอบน้อยสามารถลองใช้ tips and tricks เหล่านี้ เพื่อช่วยเพิ่มคะแนนได้ค่ะListening Part 1 and 2: ไม่มีเคล็ดลับอะไรเป็นพิเศษค่ะสำหรับพาร์ทนี้ แต่ให้ตอบในกระดาษคำตอบไปเลย ไม่ต้องทดไว้ในข้อสอบ และถ้าหากไม่รู้คำตอบก็สุ่มเลือกไปเลยทันทีค่ะ เนื่องจากเป็นพาร์ทที่เราไม่สามารถกลับมาฟังได้ มันเลยไม่เป็นประโยชน์ต่อตัวเราที่จะกลับมาแก้ในภายหลังค่ะ แถมอาจจะทำให้เราเสียเวลาเพิ่มโดยเปล่าประโยชน์ด้วย เพราะฉนั้นจงมั่นใจและตอบไปเลยPart 3 and 4: พาร์ทนี้อาจจะไม่ง่ายสำหรับใครหลายคน แต่ลองทำตามวิธีนี้ดูค่ะอ่านคำถามและคำตอบที่มีทั้งหมดก่อนเริ่มฟังบทสนทนา มันจะช่วยให้เราเห็นภาพรวมคร่าวๆว่าโจทย์ต้องการอะไร จะทำให้เราจับจุดง่ายขึ้นตอนฟังว่าส่วนไหนสำคัญค่ะเพื่อประหยัดเวลาและมีสมาธิสำหรับพาร์ทนี้ เราขอแนะนำว่า อย่าตอบในกระดาษคำตอบทันที แต่ให้วงกลมคำตอบที่ถูกต้องบนกระดาษคำถามก่อน เพราะคำตอบมันจะมาระหว่างที่เรากำลังฟังเทปค่ะ ทีนี้พอบทสนทนาจบลง เราค่อยไปตอบในกระดาษคำตอบค่ะ แต่ต้องเร็วนะคะ จะได้ไปอ่านคำถามและคำตอบของข้อต่อไปล่วงหน้าถ้าไม่สามารถตอบคำถามบางข้อได้ตอนฟังบทสนทนา อย่าใช้เวลามากในการหาคำตอบ เพราะการใช้เวลาอ่านคำถามข้อถัดไปจะมีประโยชน์มากกว่าค่ะ แต่หลังจากจบพาร์ทการฟังทั้งหมด ค่อยกลับมาเดาคำตอบก็ได้ค่ะ เพราะยังมีเวลาเหลืออยู่ ส่วนใหญ่แล้วเราจะสามารถตัดคำตอบบางข้อที่เห็นได้ชัดเลยว่าผิด แล้วเราค่อยมาเลือกคำตอบที่คิดว่าเหมาะสมที่สุดค่ะReadingเหมือนกับพาร์ทฟังเลยค่ะ คืออ่านคำถามและคำตอบอย่างรวดเร็วก่อนบทความ เพื่อดูคร่าวๆก่อนว่าโจทย์ต้องการอะไร เราจะได้พอเห็นภาพว่าคำตอบน่าจะอยู่ตรงส่วนไหนเราคิดว่าคนส่วนใหญ่มักจะไม่อยากอ่านบทความทั้งหมดเพื่อประหยัดเวลา (ก็พอจะเข้าใจได้ เพราะมีอะไรให้อ่านเยอะมาก) แต่ก็เป้นสิ่งที่ไม่ควรทำค่ะ การอ่านบทความทั้งหมดก่อนแล้วค่อยตอบคำถามถือเป็นสิ่งที่จำเป็นค่ะ เพราะโจทย์อาจจะหลอกเราได้ เหมือนกับอ่านไปนิดเดียวก็เจอคำตอบแล้วจึงไปตอบ แต่จริงๆคำตอบอยู่ท้ายบทความก็มีนะคะ ดังนั้นอย่าเพิ่งรีบตอบแต่อ่านทั้งหมดก่อน และอยากขอย้ำว่าทักษะการ skim นั้นสำคัญมาก อย่าลืมฝึกเยอะๆนะคะในกรณีที่คิดว่าอ่านให้จบทุกข้อไม่ทันแน่ๆ ให้ลองหาข้อที่สามารถตอบได้โดยไม่ต้องบทความก็ได้ค่ะ อย่างเช่น ข้อที่เกี่ยวกับคำศัพท์ และค่อยสุ่มเลือกคำตอบสำหรับคำถามอื่นๆ เพราะอย่างน้อยเราก็จะได้คะแนน ซึ่งดีกว่าไม่มีคะแนนเลยในบทความนั้นอย่างแน่นอน แล้วที่เหลือค่อยเดาค่ะ ถ้าหากทำไม่ทันจริงๆแต่ถ้าหากใครที่ไม่สามารถเตรียมตัวสอบด้วยตัวเองได้จริงๆ ลองไปเทคคอร์สกันดูค่ะ เอาจารย์ผู้สอนในคอร์สเหล่านี้มักจะมีเคล็ดลับหรือเทคนิคอะไรบางอย่างที่จะสามารถช่วยให้เราทำคะแนนได้ดีขึ้น ซึ่งถ้าเตรียมเองก็อาจจะได้ไม่ดีเท่า แถมการไปเรียนอาจจะช่วยเพิ่มความมั่นใจได้มากขึ้นด้วยค่ะตอนทำข้อสอบ เพราะตอนเตรียมเองอาจจะการเหตุการณ์ตื่นตระหนกไม่รู้จะต้องเริ่มตรงไหนก่อน แต่ถ้าหากมีผู้สอนก็จะช่วยให้เราวางแผนการเตรียมได้ง่ายขึ้นด้วยค่ะลองเข้าไปดูคอร์สเรียน TOEIC ใน VCOURSE กันได้นะคะ นอกจากราคาจะคุ้มแล้ว มั่นใจได้เลยว่าคะแนนเกิน 900 แน่นอน Link>> COMPLETE TOEIC by ครูพี่ทาม์ย เครดิตภาพภาพปกโดยครีเอเตอร์Pic 1: โดยครีเอเตอร์Pic 2: Nguyen Dang Hoang Nhu/unspalshPic 3: Brett Jordan/unsplashPic 4: Learn English With TV Series/YouTubePic 5: Jed Villejo/unsplashPic 6: Thought Catalog/unsplash เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !