ตอนนี้ทางสำนักงาน ก.พ. เปิดกำหนดการ สอบ ก.พ. ปี 2566 ออกมาแล้วนะคะ ซึ่งปีนี้จะมีการสอบทั้งแบบทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Exam) และแบบกระดาษ (Paper & Pencil) สามารถเลือกสอบได้ 1 แบบ สำหรับใครที่อยากจะสมัครสอบ ก.พ. ในปีนี้แนะนำว่าให้กรอกข้อมูลล่วงหน้าทางเว็บไซต์ (สำนักงาน ก.พ.) ไว้ก่อนได้ตั้งแต่วันที่ 6 - 28 มกราคม 2566 เพื่อความสะดวก รวดเร็ว และลดความหนาแน่นในการเข้าเว็บไซต์ในวันสมัครสอบจริงในวันที่ 30 มกราคม - 17 กุมภาพันธ์ 2566มาถึงรีวิวการสอบ ก.พ. ของบีมเอง บีมสอบผ่านภาค ก ก.พ. ในปี 2564 ผ่านการสอบมาทั้งแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Exam) และแบบกระดาษ (Paper & Pencil) โดยทามไลน์คร่าวๆเริ่มจากการสมัครสอบ ซึ่งการสมัครนั้นจะมีการเลือกพื้นที่สอบ ให้ทุกคนเลือกจากพื้นที่ที่สะดวกไปสอบโดยทาง ก.พ. จะประกาศชื่อสถานที่สอบในภายหลังเมื่อกรอกข้อมูลเสร็จแล้วให้ทุกคนชำระเงินภายใน 22.00 น. ของวันถัดจากวันที่ยืนยันการสมัครสอบ จากนั้นจะมีวันกำหนดให้เข้าไปอัปโหลดรูปถ่ายหน้าตรง สวมชุดสุภาพ และจะมีการประกาศวัน เวลา รวมถึงสถานที่สอบ ให้เราพิมพ์บัตรประจำตัวสอบไว้และเตรียมตัวไปสอบ เมื่อสอบเสร็จมีการประกาศรายชื่อผู้สอบผ่านแล้ว ให้รอวันพิมพ์หนังสือรับรองผลการสอบ ซึ่งพอจบตรงนี้เราจะสามารถนำผลการสอบไปสอบภาค ข ของหน่วยงานต่างๆต่อไปได้ข้อสอบภาค ก ก.พ. มี 100 ข้อ 200 คะแนน ให้เวลา 3 ชั่วโมง เกณฑ์การผ่านจะมีการนับคะแนนแบบแบ่งส่วนไม่ได้นับคะแนนรวม ถ้ามีส่วนวิชาไหนไม่ผ่านจะ = ไม่ผ่านทั้งหมด แบ่งเป็นวิชาความสามารถทั่วไปคณิตศาสตร์ 35 ข้อ + ภาษาไทย 15 ข้อ รวม 50 ข้อ 100 คะแนน (ต้องผ่าน 30 ข้อ 60 %) ภาษาอังกฤษ 25 ข้อ 50 คะแนน (ผ่าน 13 ข้อ 50%) กฎหมาย 25 ข้อ 50 คะแนน (ผ่าน 15 ข้อ 60 %) โดยในช่วงที่เตรียมตัวสอบให้ทุกคนประเมินก่อนว่าตัวเองถนัดวิชาไหนมากน้อยแค่ไหน ให้เริ่มศึกษาจากวิชาที่ตัวเราเองถนัดน้อยที่สุดไปจนวิชาที่ถนัดมากที่สุด ซึ่งบีมศึกษาเองจากสื่อต่างๆในโลกออนไลน์ หนังสือต่างๆ อยากรู้เรื่องไหนก็หาศึกษาไปเป็นเรื่องๆไป ไม่ได้ติวเพิ่มเติมกับสถาบันไหน เน้นการทำโจทย์เยอะๆและฝึกทำข้อสอบเก่าบ่อยๆ ในการทำข้อสอบให้ทำจากวิชาที่ตัวเองถนัดมากที่สุดเพื่อจะได้มีเวลาเหลือพอไปทำวิชาที่ถนัดรองลงไป อะไรทำไม่ได้ควรผ่านและเก็บไว้ทำทีหลัง รู้จักตัดช้อยส์ ควรวางแผนในการทำข้อสอบให้ดีเพราะคนส่วนมากทำข้อสอบไม่ทัน ทำให้สอบไม่ผ่านความแตกต่างระหว่างแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Exam) และแบบกระดาษ (Paper & Pencil)แบบ e-Exam เป็นการไปสอบที่สนามสอบปกติแต่สอบโดยใช้คอมพิวเตอร์ ไม่ใช่เป็นการสอบที่บ้านกับคอมพิวเตอร์ของตัวเอง เมื่อเข้าห้องสอบจะมีโต๊ะคอมพิวเตอร์ไว้ให้ เราต้องไปนั่งตามเลขที่นั่งสอบของเรา การสอบจะมีโจทย์ขึ้นด้านซ้ายของจอคอมพิวเตอร์ และกระดาษคำตอบทางจอด้านขวา เราสามารถใช้เมาส์คลิกเลือกคำตอบได้เลย โดยวิชาคณิตศาสตร์จะมีกระดาษทดเป็นแผ่นกระดาษจริงๆให้ มีชื่อ ข้อมูล และเวลาแจ้งที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ของเราทุกคน เมื่อหมดเวลาสอบแค่คลิกส่งคำตอบถือว่าเราได้ส่งคำตอบแล้วข้อดี แบบ e-Examไม่ต้องกังวลว่าจะฝนข้อมูลส่วนตัวผิดไม่ต้องลบเลอะเทอะเวลาเปลี่ยนคำตอบไม่ต้องเหลาดินสอ เปลี่ยนดินสอขณะสอบรู้ผลสอบเร็วกว่าการสอบแบบกระดาษข้อเสีย แบบ e-Examปวดตามากกว่าการสอบแบบกระดาษ ตาลายเวลาเลื่อนอ่านโจทย์ หลุดโฟกัสง่ายต้องก้มๆเงยๆเวลาใช้กระดาษทดวิชาคณิตศาสตร์มีเสียงเลื่อนเมาส์ คลิกเมาส์อาจรบกวนสมาธิ แบบ Paper & Pencil เป็นการไปสอบที่สนามสอบ ใช้วิธีสอบในกระดาษข้อสอบด้วยวิธีฝนแบบปกติ โดยใช้ดินสอ 2B ข้อดี แบบ Paper & Pencilสามารถขีดเน้นส่วนโจทย์ที่เป็นข้อมูลสำคัญได้ โฟกัสคำถามได้ดีกว่าสามารถขีดฆ่าตัดช้อยส์ได้ในกระดาษโจทย์เลยไม่ต้องก้มๆเงยๆในการใช้กระดาษทดข้อเสีย แบบ Paper & Pencilเลอะเทอะเวลาลบข้อผิดและแก้ข้อผิดกังวลเรื่องการฝนซ้ำข้อหรือลืมฝนคำตอบต้องคอยเปลี่ยนดินสอหรือเหลาดินสอแจ้งวันสอบ รีวิวการเตรียมตัวให้สอบผ่านคร่าวๆ รวมถึงบอกข้อดีและข้อเสียของการสอบแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Exam) และแบบกระดาษ (Paper & Pencil) กันไปให้ทุกคนพิจารณาในการเลือกสอบแล้ว สำหรับข้อมูลการเตรียมตัวสอบต่างๆซึ่งมีรายละเอียดเยอะมากบอกในบทความนี้ไม่หมด ทุกคนสามารถไปติดตามคลิปแชร์ประสบการณ์สอบ ก.พ. ของบีมได้ตามคลิปด้านล่างเลยค่ะ ทริคในการเตรียมตัวสอบของบีมคือให้เริ่มศึกษาจากวิชาที่ตัวเองไม่ถนัดก่อน และในวิชานั้นๆให้เน้นในพาร์ทที่ตัวเองทำได้ไปและตัดหรือไม่เน้นในส่วนที่ต้องใช้เวลาศึกษานานในกรณีที่มีเวลาน้อย ฝึกทำโจทย์เยอะๆเป็นสิ่งที่สำคัญมาก จะทำให้เราคุ้นชินกับลักษณะโจทย์ เวลาสอบจริงเราจะได้ไม่ใช้เวลานานในการทำโจทย์ มีเวลาวางแผนไปทำในวิชาอื่นๆมากขึ้น ขอให้ทุกคนโชคดีในการสอบนะคะเขียนโดย : Bymbusybear ・ᴥ・ภาพทั้งหมดโดย : Bymbusybear ・ᴥ・อัปเดตข่าวสาร และแหล่งเรียนรู้หลากหลายแบบไม่ตกเทรนด์ บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !