สถานการณ์โรคระบาด "ไวรัสโคโรนา"หรือ "โควิค-19" ทำให้หลายคนมีความกังวลกันมาก คอยติดตามข่าวสาร ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ปัจุบันมีผู้รับเชื้อเพิ่มกว่า 80,000 ราย และมีผู้เสียชีวิตเป็น 2,700 ราย โดยองค์กรอนามัยโลก WHO สั่งให้รัฐบาลทุกประเทศเตรียมพร้อมรับมือมากกว่านี้ ล่าสุดในประเทศไทย พบผู้ผ่วยเพิ่มอีก 3 ราย จากกรณีคุณปู่ คุณย่า กลับจากฮอกไกโดแล้วปกปิดข้อมูล แพร่เชื้อไปติดหลาน ๆ ทำให้ชาวไทยหวาดผวามากขึ้น เพราะไม่รู้ว่า จะมีคนไทยรายไหน ติดเชื้อโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นี้ หรือเดินทางไปต่างประเทศแล้วปกปิดข้อมูล จนกลายเป็นผู้แพร่เชื้อ Superspreader (ซูเปอร์สเปรดเดอร์) หรือไม่ ซูเปอร์สเปรดเดอร์นี้ คือการที่คนติดเชื้อแล้วสามารถแพร่ให้คนอื่นหลาย ๆ คน ซึ่งตอนนี้ พบในต่างประเทศ 1 คน ที่มีการแพร่เชื้อให้กับคน 20 คน อย่างกรณีผู้ป่วยเกาหลีใต้ ไปร่วมกิจกรรมคริสตจักรชินชอนจีในเมืองแทกู ทำให้มีคนรับเชื้อไป 43 ราย จากนั้นกระจายไปอีก 70 รายจนกระจายทวีคูณขึ้นไปเรื่อย ๆ ทำให้สังคมโลกเริ่มหวาดกลัวว่าประเทศที่ตนอยู่จะเกิดกรณีนี้อีกหรือไม่ เพราะอันตรายที่ได้รับของโลกนี้ เสี่ยง! ถึงชีวิต ขอขอบคุณภาพจาก www.freepik.com อันตรายที่เกิดขึ้นกับผู้รับเชื้อโควิค-19 แม้อาการจะดูเหมือนกับไข้หวัดธรรมดา แต่ที่คนทั้งโลกหวาดกลัวกับเชื้อนี้ ก็เพราะว่า เชื้อไวรัสสายพันธุ์นี้ เป็นสายพันธุ์ใหม่ ที่ยังไม่มียาปฎิชีวนะตัวไหน ที่รักษาได้หายโดยตรง ทำได้แต่ประคับประคองอาการเท่านั้น ทำให้เสี่ยงกับการเสียชีวิตมาก หากผู้รับเชื้อท่านไหน มีระบบภูมิคุ้มกันไม่ดี ทำให้ร่างกายไม่สามารถต้านทานโรคได้ จนเชื้อไวรัสเข้าไปทำลายการทำงานของปอด จนนำไปสู่การเสียชีวิตนั้นเอง ภาพ: ผู้เขียน อาการเมื่อติดเชื้อ อาการที่พบส่วนใหญ่คือ มีไข้ เหมือนไข้หวัด และมีอาการเจ็บคอ ไอแห้ง ๆ น้ำมูกไหล จนนำไปสู่การหายใจเหนื่อยหอบ เมื่อพบอาการเหล่านี้ หรือเป็นกลุ่มเสี่ยง ที่เดินทางมาจากต่างประเทศเสี่ยง ให้สังเกตุอาการและเข้าพบแพทย์โดยด่วนค่ะ เพื่อทำการเอกซ์เรย์ปอด ว่ามีอาการปอดบวดอักเสบร่วมหรือไม่ เพราะหากพบในระยะแรก ๆ อาการติดเชื้อยังไม่รุนแรง มีโอกาสในการหายจากการรับเชื้อนี้ค่ะ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ร่างกายอ่อนแอ เช่น คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย เด็กเล็ก ทารก รวมถึงคนที่มีโรคประจำตัว เช่นโรคหัวใจ เบาหวาน หรือคนที่กินยาต้านทานโรคอยู่ ต้องทำงานหนัก หรือพบปะกับชาวต่างชาติ หรือเดินทางไปประเทศเสี่ยงที่ติดเชื้อ ไม่ว่าจีน เกาหลีใต้ ญุี่ปุ่น ไต้หวัน ฮ่องกง หากมีอาการดังกล่าว ควรเข้ารับการรักษาแพทย์โดยด่วนค่ะ ที่สำคัญอย่าบิดเบือนหรือปกปิดข้อมูลนะคะ จะได้เป็นประโยชน์ต่อการวินิจฉัยโรคค่ะ สำหรับใครที่เดินทางไปยังประเทศกลุ่มเสี่ยง หากกลับมาแล้ว ควรกักตัวอยู่ในบ้าน อย่างน้อย 14-27 วันนะคะ เพื่อให้ผ่านช่วงระยะเวลาเชื้อฟักตัว และให้มั่นใจแน่ ๆ ว่าไม่ติดเชื้อจริง ๆ นะคะ ภาพ: ผู้เขียน วิธีป้องกัน ใส่หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกัน การไอจาม สัมผัสเชื้อทางน้ำลาย สัมผัสและอากาศ ควรทำการล้างมือบ่อย ๆ หรือล้างด้วยแอลกอฮอล์เจลทุกครั้งที่ต้องสัมผัส อุปกรณ์ร่วมกับคนหมู่มาก ขอขอบคุณภาพจาก www.freepik.com ควรหลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง แหล่งชุมชนเยอะ ๆ เช่นบนรถสาธารณะ ควรทำการเช็ดมือด้วยแอลกอฮอล์เจล และสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง เมื่ออยู่ในที่สาธารณะ โดยเฉพาะบริเวณที่คนจับบ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็น Airport Link,MRT,BTS กลอนประตู ราวบันได ต่าง ๆ เมื่อจับแล้วอย่าลืมล้างมือให้สะอาด อย่านำมือมาสัมผัสหน้า รวมถึงหลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ต่าง ๆโดยที่ไม่ป้องกัน รับประทานแต่อาหารสุก สะอาดเพียงแค่นี้เราก็สามารถลดความเสี่ยง ที่อาจเกิดขึ้นได้แล้วค่ะ ขอให้สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิค-19 ยังยั้งได้ หยุดการแพร่ระบาด หรือมียาปฎิชีวินะที่ป้องกันได้ทัน แต่สิ่งที่เราทำได้ ณ ตอนนี้ ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ล้างมือให้สะอาด ปิดหน้ากากอนามัยเพื่ออยู่กับคนที่เรารักให้นาน ๆ นะคะ ขอขอบคุณภาพปกจาก www.freepik.com