สถานการณ์ปัจจุบันตอนนี้เป็นช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรค Covid - 19 ซึ่งเป็นโรคระบาดร้ายแรง แพร่ระบาดในหลายประเทศ มีผู้คนติดเชื้อ และเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก จะทำพินัยกรรมจากการติดเชื้อโควิดได้หรือไม่ แน่นอนว่าโรคนี้มันเป็นสิ่งที่แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วแทบจะไม่ทันตั้งตัว และใกล้ตัวเราขึ้นมาทุกที แล้วถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมาทำให้เกิดการเสียชีวิต ผลที่ตามมาคือการแบ่งทรัพย์มรดกของผู้ที่เสียชีวิต จะสามารถแบ่งให้กับทายาทได้หรือไม่ ส่วนละเท่าไหร่ ใครจะเป็นคนจัดการร่างของผู้เสียชีวิต แล้วทายาทแต่ละคนจะแบ่งมรดกกันได้ด้วยดีหรือไม่ จะทะเลาะกันหรือไม่ ถ้าผู้เสียชีวิตไม่ทำพินัยกรรมไว้ แน่นอนว่าปัญหาเหล่านี้จะเกิดขึ้นมา บทความนี้เลยมาพูดถึงการทำพินัยกรรมให้เหตุฉุกเฉิน พินัยกรรม ถ้าพูดกันอย่างภาษาทั่วไปไม่ใช่ภาษากฎหมาย มันก็คือการที่คนคนนึงเขียนความประสงค์ของตัวเองลงไปในกระดาษว่าอยากจะยกทรัพย์สินของตัวเองให้แก่ใครบ้าง ถ้าเกิดตัวเองเสียชีวิต และลงลายมือชื่อไว้ มองผ่านๆ มันเหมือนเป็นเรื่องไกลตัว แต่หารู้ไม่มันเป็นสิ่งที่สำคัญมากในชีวิตประจำวันของคนเรา ความตายเป็นสิ่งที่คนเราไม่สามารถหนีพ้นได้ บางครั้งมันมาแบบไม่ทันตั้งตัว บางครั้งเกิดจากอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด และแน่นอนถ้าเกิดติดโรคระบาดร้ายแรงขึ้นมาอย่างกะทันหัน คนที่มีทรัพย์สินเงินทองมากมาย ลูกหลานเยอะ จะทำพินัยกรรมไว้เพื่อไม่ให้เป็นปัญหาในการแบ่งมรดก ไม่ให้เกิดการแย่งชิงทรัพย์สมบัติกัน ไม่ให้เกิดการทะเลาะกัน ทำร้ายกัน เพื่อแย่งมรดก พินัยกรรมจะเป็นตัวแก้ปัญหาเหล่านั้นได้ในระดับนึงเลยทีเดียว ปัญหาอยู่ที่ว่าแล้วคนที่ไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ แล้วเกิดรู้ว่าตัวเองกำลังจะเสียชีวิต ไม่ว่าจะด้วยโรค Covid - 19 หรืออุบัติเหตุ หรือโดนลูกปืนตกทะลุหลังคา หรืออะไรก็ตามที่ทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ แต่ยังเป็นห่วงลูกหลานว่าจะเกิดการแย่งมรดกกัน และเวลาก็เหลือน้อยเต็มที จะเขียนพินัยกรรมตอนนี้ก็ไม่มีแรงจะเขียนเสียแล้ว จะสามารถทำพินัยกรรมด้วยการสั่งเสียด้วยวาจาก่อนเสียชีวิตได้หรือไม่ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1663 วรรคหนึ่ง กำหนดว่า “เมื่อมีพฤติการณ์พิเศษซึ่งบุคคลใดไม่สามารถจะทำพินัยกรรมตามแบบอื่นที่กำหนดไว้ได้ เช่น ตกอยู่ในอันตรายใกล้ความตาย หรือเวลามีโรคระบาด หรือสงคราม บุคคลนั้นจะทำพินัยกรรมด้วยวาจาก็ได้...” ซึ่งหมายความเราสามารถสั่งเสียก่อนตาย เกี่ยวกับมรดกว่าจะให้ทรัพย์สินตกทอดให้แก่ใครได้บ้าง แน่นอนว่าการสั่งเสียมันต้องเงื่อนไขนิดหน่อยว่า 1. จะต้องสั่งเสียโดยมีพยานรับรู้ในขณะนั้นด้วย 2 คน ย้ำนะครับว่า 2 คน เงื่อนไขที่ 2 ได้แก่ พยานสองคนนั้นต้องไปแสดงตนที่อำเภอหรือสำนักงานเขต โดยด่วน ย้ำอีกครั้งว่าด่วน!!! (ไม่ใช่ ผ่านไป 1 อาทิตย์แล้วยังไม่ไปอำเภอนะครับ) และแจ้งข้อความที่ผู้ทำพินัยกรรมได้สั่งไว้ด้วยวาจานั้น ทั้งต้องแจ้งวัน เดือน ปี สถานที่ที่ทำพินัยกรรมและเหตุที่ต้องสั่งเสียนั้นไว้ด้วย 3. แจ้งต่อแจ้งหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่เขาทำเอกสาร โดยให้พยาน 2 คนลงลายมือชื่อไว้ เพียงแค่นี้ก็เรียบร้อยเป็นพินัยกรรมที่สมบูรณ์ และบังคับใช้ได้ตามกฎหมายแล้ว ทั้งหมดนี้ ก็คือหลักเกฎฑ์การทำพินัยกรรมด้วยวาจา หรือสั่งเสียก่อนตายนั่นเอง แน่นอนว่าเราไม่อยากให้เกิดการสูญเสีย แต่เราไม่สามาถควบคุมได้ ยิ่งด้วยแพร่ระบาดของโรค covid - 19 ทำให้อะไรๆ ก็ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น หากเกิดเหตุฉุกเฉิน ก็ยังสามารถทำพินัยกรรมด้วยวาจาได้ เพื่อไม่เกิดปัญหาในการแบ่งมรดก พินัยกรรมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรทำในขณะยังสามารถทำได้ และไม่ควรมองว่าเป็นเรื่องไกลตัวแต่อย่างใด Credit : ภาพโดยณคุณ ศรีดุษฎี (ผู้เขียน)