ถือเป็นกระแสในอันดับต้น ๆ ช่วงนี้นั่นคือ #ป๋าสายเปย์ ทำให้ผมนึกถึงน้องวิว หรือ ดีเจวิว https://www.youtube.com/watch?v=amwzowZJIyA กับคำคมที่ว่า "สมัยนี้พรหมลิขิต (มัน)สู้บัตรเครดิตไม่ได้จริง ๆ" (ไป ๆ ๆ ๆ) ทำไม? ถ้าให้ผมมองว่าในยุคปัจจุบัน วัตถุนิยมก็ดี ความต้องการก็ดี น่าจะสอดคล้องกับหลักเศรษฐศาสตร์ที่ว่า "ความต้องการของมนุษย์" มีอยู่อย่างไม่จำกัด สมัยนี้พรหมลิขิต (มัน)สู้บัตรเครดิต (เงิน) ไม่ได้ ยิ่งในบริบทของความรัก มันน่าจะหมายถึง พื้นที่ที่ปลอดภัย บางคนชอบคนที่หน้าตา แม้จะไม่มองฐานะ แต่ขอเพียงขยัน บางคนไม่สนอะไรเลยขอจบการศึกษาดีพอ บางคนเลือกแค่ฐานะพอเพราะในระยะยาวไม่ลำบาก เหล่านี้สะท้อนความสะดวกสบายของตัวเอง (ผู้เลือก)ในอนาคตทั้งนั้น แม้จะจับต้องไม่ได้ตอนนี้ แต่ในอนาคตได้แน่นอน ลึก ๆ แล้วมนุษย์มีเหตุผลในการมีชีวิตอยูเพียง 2 ประการ คือ เอาตัวรอดและดำรงเผ่าพันธ์ ไม่แปลกที่เราจะค้นหาคนรักที่จะทำให้เราอยู่รอดและสามารถเลี้ยงลูกที่จะถือกำเนิดในสภาวะแวดล้อมที่สมบูรณ์และเพียบพร้อมที่สุด สายเปย์โดนเท จากข่าวที่สายเปย์โดนเท ผมมองว่า ป๋าอาจจะพยายามสร้างอนาคตและพยายามแสดงแสนยานุภาพให้แก่อดีตคนรัก ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หากเราลองสังเกตจากธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น ทำไมบางชนิดต้องเรียกคู่ด้วยเสียง ทำไมต้องส่งกลิ่น ทำไมต้องทำตัวใหญ่ ทำไมทิ้งกลิ่น ทำไมชอบทำอะไรแปลก ๆ เหล่านั้นมันคือ พฤติกรรมที่จะนำไปสู่การดำรงเผ่าพันธ์ของสิ่งมีชีวิต แต่มนุษย์เราซับซ้อนกว่านั้น คือ เพิ่มเติมด้วย "ความรู้สึกทางใจ" มันมีผลด้วยจริง ๆ นะ แม้ความสุขทางกายจะบริบูรณ์ แต่ไม่สามารการันตีความสุขทางใจจะล้นเอ่อตามไปด้วย มิฉะนั้น จะมีการจดทะเบียนหย่า มือที่สาม ไหม? แต่คุณผู้อ่านต้องไม่ลืมว่า ความหมายของการมีชีวิตคู่(แท้) มันรวมถึงความรู้สึกปลอดภัย อิ่มใจ ของคนรักด้วย กล่าวสั้น ๆ คือได้ใจ/โดนใจหรือไม่? ซึ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องอัตวิสัยครับ ชอบใครชอบมัน บางคนรักแท้ หมายถึงไม่จนมีสตางค์ให้จ่าย รักยี่ห้อรถยนต์ รักเพราะนามสกุลดัง ทั้งหมดล้วนแล้วท้ายที่สุดแค่ การได้รับการยอมรับนับหน้าถือตาในอนาคตทั้งสิ้น เช่น เราโพสต์รูปแฟน ถ้าไม่อวดแฟนจะโพสต์ทำไม? แม้คุณจะไปเที่ยวกับแฟน แต่สถานที่จะสวยมากแต่สาระสำคัญ คือ คุณพยายามจะบอกว่าฉันไม่ได้มาคนเดียวนะ! เหตุผลที่จะอวด คือ แสดงความเหนือกว่าก็เท่านั้น ถ้าให้ผมวิเคราะห์สายเปย์ทำไมโดนเท ส่วนตัวผมเห็นด้วยกับทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์ เรื่อง "กฎการลดน้อยถอยลงของอรรถประโยชน์เพิ่ม" หมายถึง เมื่อผู้บริโภคได้บริโภค/ใช้สินค้า-บริการ ซ้ำ ๆ สินค้า/บริการหน่วยสุดท้ายจะฟินน้อยลง เช่น เราอยากซื้อก๋วยเตี๋ยวทาน ก่อนซื้อ ความหิว-> จะถูกเติมเต็มด้วยความอร่อยจากก๋วยเตี๋ยวชามแรกมากที่สุด แต่ถ้าให้สั่ง เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ความอร่อย จะค่อย ๆ น้อยลง เมื่อชามแรกอร่อยกว่าชามสุดท้าย รักกันวันแรก ๆ ย่อมหวือหวากว่าวันสุดท้ายเป็นแน่ หลายคนจึงถูกเท ไม่ใช่เพราะคุณค่าคุณน้อยลงครับ แต่เพราะคุณสร้างมูลค่าให้ตัวเองในวันแรกสูงมากไปเท่านั้นเอง ส่งท้ายขิงเบา ๆ ผมกับแฟนคบมา 2 ปี รักยังคงมั่นคง ไม่ใช่เพราะผมพีคทุกวัน แต่วันแรกและวันนี้ผมเป็นแบบเดิม = ปรับตัวเข้าหากันคุณต้องสูญเสียความเป็นตัวเอง ถ้าถามว่ากลัวโดนเทไหม? ไม่กลัว แล้วจะถามคนเท 2 คำถาม 1) กล้าเท? 2) ไม่มีใครที่สุดเท่านี้แล้วนะ! กฎการลดน้อยถอยลงของอรรถประโยชน์เพิ่ม เก็บไว้ต่อตอน 2 เดี๋ยวจะเอาเศรษฐศาสตร์มาอธิบายความรักเรื่อย ๆ นะครับ แม้ผมจะสายกฎหมายแต่ การเรียนรู้ศาสตร์อื่นก็สนุกนะครับ จะบอกให้ว่า ครั้งแรกเมื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัย ผมเลือกแค่ นิติศาสตร์ กับเศรษฐศาสตร์ เจอกันตอนหน้านะครับ จำไว้ว่าในวิกฤตย่อมมีโอกาสเสมอ - ยินดีกับป๋าด้วย งานเยอะมาก แม้จะโดนเท! EVERYTHING HAPPENS FOR A REASON! ถ้าไม่โดนเท งานจะเยอะไหม? ถามก่อน โดนเท เท่ากับ ไม่ดัง? ท้ายนี้ขอบพระคุณ 1.คลิป โดย The MATTER จาก youtube 2. ภาพที่ 1 โดย QuinceCreative จาก pixabay 3. ภาพที่ 2 โดย geralt จาก pixabay 4. ภาพที่ 3 โดย geralt จาก pixabay 5. ปก โดย Benjamin Voros จาก unsplash เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !