สารพัดประโยชน์จากมะม่วงหิมพานต์ มะม่วงหิมพานต์ เป็นไม้ยืนต้นชนิดหนึ่ง โดยถูกนำเข้ามาปลูกในประเทศไทยพร้อมกับยางพารา และดูเหมือนมันจะชอบประเทศไทยซะด้วย เราจึงพบพืชชนิดนี้ไปทั่วภาคใต้ของไทย และมีชื่อเรียกที่หลากหลายไปตามท้องถิ่นต่าง ๆ เช่น ยาร่วง กาหยู ม่วงเม็ดล่อ ม่วงเล็ดล่อ หัวครก เป็นต้น มะม่วงหิมพานต์มีความสัมพันธ์กับพื้นที่ภาคใต้ของไทยมานาน มีปรากฏในตำนานเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวที่จังหวัดปัตตานี นอกจากนี้ยังปรากฏในเนื้อเพลงของศิลปินชาวใต้อีกหลายเพลง เช่น เพลงหัวครก ของดวงจันทร์ สุวรรณี เพลงสามช่ายาร่วง ของฌามา เป็นต้น ในส่วนของสรรพคุณก็มีมากมายเหมือนกัน ดังนี้ ภาพโดย nicik220 จาก Pixabay 1. ใบมะม่วงหิมพานต์ นิยมกินเป็นผักสด กินกับขนมจีนจะเข้ากันมาก โดยคนใต้จะใช้วิธีการลนไฟให้ใบแกร่วงจนหมด แล้วปล่อยให้แตกใบอ่อนใหม่ขึ้นมา ใบมะม่วงหิมพานต์มีสรรพคุณช่วยลดไข้ ช่วยบรรเทาอาการท้องร่วง ช่วยสมานแผลในลำไส้ ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร ใบแก่นำมาบดใส่บริเวณที่เป็นแผลรักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวกได้ ภาพโดย Evita Ochel จาก Pixabay 2. ผลมะม่วงหิมพานต์ สามารถทานผลสุกได้เลย หรือนำผลห่าม ๆ มาประกอบอาหารได้ โดยผลมะม่วงหิมพานต์ช่วยแก้อาเจียน รักษาแผลในช่องปาก ช่วยแก้โรคปวดตามข้อ ช่วยในการขับเหงื่อ และเป็นยาขับปัสสาวะได้ ภาพโดย pasita wanseng จาก Pixabay 3. เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ นิยมนำมาแปรรูปเป็นเมนูต่าง ๆ เช่น เมล็ดมะม่วงหิมพานต์คั่ว อบเกลือ อบเนย ฉาบน้ำตาล เป็นต้น โดยเมล็ดมะม่วงหิมพานต์จะช่วยในการย่อยอาหาร ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคนิ่วได้ ภาพโดย Bishnu Sarangi จาก Pixabay 4. ต้นมะม่วงหิมพานต์ มีสรรพคุณมากมายเหมือนกัน โดยเปลือกต้นมะม่วงหิมพานต์ช่วยแก้อาการปวดฟัน ใช้กลั้วคอล้างปาก รักษาโรคผิวหนังพุพอง หรือใช้ยางจากลำต้น ช่วยแก้อาการเลือดออกตามไรฟัน ใช้ยางทาตรงบริเวณที่เป็นหูด ตาปลาโรคเท้าแตก หรือเนื้อด้านบ่อย ๆ จนกว่าจะหาย ทาเป็นประจำจนกว่าจะหาย ด้วยสรรพคุณที่หลากหลายของพืชชนิดนี้ ทำให้มะม่วงหิมพานต์ได้รับความนิยมในการปลูกอย่างแพร่หลายในภาคใต้ของไทย และถูกนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ หรือประกอบอาหารต่าง ๆ มากมาย เรื่องรสชาติก็ไม่ธรรมดา จึงนับว่าเป็นพืชสารพัดประโยชน์จริง ๆ เมื่อเห็นประโยชน์ขนาดนี้แล้วก็อย่าลืมลองหามาทานกันนะครับ ---------------------------- ภาพปกโดย bobbyvj0 จาก Pixabay