รูปภาพจาก https://pixabay.com/th/photos/โคโรนา-สเปรย์-โลก-เจลทำความสะอาด-5002341/ ปีคริสต์ศักราช 2020 สถานการณ์ตอนนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักไวรัส โควิด-19 ที่ได้แพร่ระบาดไปทั่วทุกประเทศ มีผู้ติดเชื้อจำนวนมากทั่วโลก รวมถึงมีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน แต่ก็ยังมีผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาหายดีแล้ว จำนวนมากเหมือนกัน ผู้คนทั่วโลกเกิดการหวาดกลัวกับไวรัสชนิดนี้ ทุกคนเฝ้าระวังดูแลสุขภาพของตัวเอง เก็บกักตัวที่บ้าน ตามมาตราการต่าง ๆ ของประเทศนั้น ๆ เพื่อมิให้เชื้อไวรัสแพร่กระจายหรือเกิดการติดเชื้ ผู้คนเริ่มเซฟตัวเอง เตรียมหาอาหาร อุปโภคบริโภค มากักตุนใว้ที่บ้าน โดยเลี่ยงการออกนอกบ้านให้มากที่สุด งดการสังสรรค์ , ปาร์ตี้, งดการพบปะพูดคุยกันเหมือนเมื่อก่อน ตามที่เราได้ยิน คำว่า ห่างกันเรารอด รวมกันเราตาย เมื่อทุกคนเจอสถานการณ์แบบนี้ แน่นอนเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน กับการรักษาและควบคุมไวรัส คือ ปากท้องของทุกคน รายได้ - รายจ่าย ไม่สมดุลกัน บางบริษัทต้องทำการปิดกิจการชั่วคราว รวมไปถึงร้านค้าต่าง ๆ ก็ต้องปิดเช่นกัน พนักงานต้องหยุดงาน คนทำงานรายวัน หาเช้ากินค่ำ ต่างต้องหยุดการทำงานเพื่อกักตัวอยู่บ้าน บางคนโชคดีที่ยังมีงานให้ทำจากที่บ้าน บางคนยังต้องออกไปทำงานในช่วงนี้ ก็ต้องระมัดระวังในการใช้ชีวิตข้างนอก เพราะไม่รู้ว่าจะติดเชื้อไวรัสนี้เมื่อไหร่ ตอนไหน ฟัง ๆ ดูแล้วเหมือน โลกนี้มันโหด โลกนี้มันไม่น่าอยู่ กันเลยใช่ไหมคะ . รูปภาพจาก https://pixabay.com/th/photos/ผู้หญิง-ภาพ-สาว-หญิง-ใบหน้า-918896/ การแพร่ระบาดของไวรัส ที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ บางคนสามารถเอาชีวิตรอดมาจากเหตุการณ์ครั้งนั้นได้ บางคนยังไม่เคยรู้มาก่อนว่าโลกเราได้ฟันฝ่าต่อสู้กับเชื้อไวรัสทั่งหลายมาแล้ว บางประเทศสามารถรับมือได้ทันท่วงที เพราะเรียนรู้จากเหตุการณ์ในอดีต บางประเทศเกิดการระบาดอย่างสาหัส อยากที่จะควบคุมการแพร่กระจายของไวรัสได้ เหมือนดังประวัตศาสตร์ ที่มีการระบาดของเชื้อไวรัส ตั่งแต่ปี 2263- 2563 ณ ปัจจุบัน 1) ปี พ.ศ.2263 กาฬโรค เป็นโรคที่ติดต่อจากสัตว์สู่คน มีผู้เสียชีวิตทั่งหมด 100,000 คน ในเมือง มาร์เซย์ ประเทศฝรั่งเศส 2) ปี พ.ศ.2363 อหิวาตกโรค หรือ โรคห่า มีผู้เสียชีวิต ทั่วโลก 130,000 คน 3) ปี พ.ศ.2463 ไข้หวัดใหญ่สเปน เกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ H1N1 ซึ่งแพร่ระบาด ไปทั่วโลกในช่วงท้ายของสงครามโลกครั่งที่ 1 ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 50 ล้านคน รูปภาพจาก https://pixabay.com/th/photos/แพทย์-ฉีดวัคซีน-ผู้หญิง-1332404/ 4) ปี พ.ศ.2545-2546 ไวรัสซาร์ส (SARS) เชื้อได้ระบาดไปถึง 27 ประเทศ มีผู้ติดเชื้อ 8098 คน และเสียชีวิต 774 คน 5) ปี พ.ศ.2552 ไวรัสไข้หวัดใหญ่ H1N1 เป็นไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2009 หรือไข้หวัดสุกร แพร่ระบาดในเมรารูซ ประเทศเม็กซิโก มีผู้ติดเชื้อกว่า 130 ประเทศ เสียชีวิต 1.5 - 5.7แสนล้านคน 6) ปี พ.ศ.2555 ไวรัสเมอร์ส (MERS) เชื้อไวรัสเมอร์ส เริ่มจากประเทศในตะวันออกกลาง ก่อนที่จะแพร่ระบาดไปอีก 27 ประเทศทั่วโลก ทำให้มีผู้ติดเชื้อ 2494 คน และเสียชีวิต 858 คน 7) ปี พ.ศ.2557 ไวรัสโปลิโอ ประเทศอัฟกานิสถาน และปากีสถาน มีประเทศที่ติดเชื้อมากที่สุด มีผู้ติดเชื้อ 422 คน ( รายงานปี 2562) 8) ปี พ.ศ. 2557 ไวรัสอีโบลา มีผู้ติดเชื้อกว่า 10 ประเทศ เสียชีวิต 11,000 คน ( รายงานปี 2559 ) 9) ปี พ.ศ. 2559 ไวรัสซิกา มีผู้ติดเชื้อเฉพาะในทวีปอเมริกากว่า 4 ล้านราย และติดเชื้อกว่า 90 ประเทศ ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก 10) ปี พ.ศ. 2561-2563 ไวรัสอีโบลารอบใหม่ในคองโก ติดเชื้อ 3905 คน เสียชีวิต 2241คน 11) ปี พ.ศ 2563 ไวรัสโคโรน่า หรือโควิด-19 ซึ่ง ณ ปัจจุบัน (2เมษายน 63 ) มีผู้ติดเชื้อ ทั่วโลก 938,373 คน เสียชีวิต 47,261 คน หายป่วย 194,405 คน รูปภาพจาก กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งสถานการณ์ตอนนี้ก็ยังไม่สิ้นสุด และไม่รู้ว่าจะใช้เวลาไปอีกนานแค่ไหน กว่าที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสนี้จะสงบลง และผู้คนทั่วโลกได้กลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติกันอีกครั่ง จากเหตุการณ์ที่เเย่ ๆ ที่เกิดขึ้น จนทำให้บางคนอาจเกิดโรค ซึมเศร้า จากการที่ต้องอยู่บ้านไม่พบปะกับใคร จึงอยากให้ทุกคนตั้งสติ อย่าคิดมากวิตกจนเกิดไป ลองมองกลับมาอีกด้าน เหมือนเหรียญที่มี 2 ด้านฉันใด เรื่องทุกเรื่องย่อมมีทั่งด้านดี และร้ายฉันนั้น รูปภาพจาก https://pixabay.com/th/photos/ยา-ทางการแพทย์-การผ่าตัด-พยาบาล-91754/ จากเหตุการณ์ครั่งนี้เราได้เห็นสิ่งดี ๆ อยู่รอบตัวเราภายใต้การระบาดของไวรัส การช่วยเหลือ ของเหล่าผู้กล้าหารในชุดขาวในทุก ๆ ประเทศ ที่คอยรักษาชีวิตของทุกคน ให้กลับมามีชีวิตที่ปลอดจากการติดเชื้อ ความร่วมมือของแต่ละประเทศที่ช่วยเหลือเกื้อกูล เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ของเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ได้เห็นการเสียสละสถานที่ให้กลายเป็นที่พักของผู้ป่วย เห็นประชาชนช่วยเหลือแจกจ่ายอาหารซึ่งกันและกัน เห็นผู้นำและประชาชนในหลาย ๆ ประเทศเสียสละเงินส่วนตัว ให้กับการใช้เพื่อรักษาและป้องกันเชื้อไวรัสนี้ เห็นความมีน้ำใจแต่ละประเทศที่มีให้กัน ถึงแม้ว่าก่อนหน้านั้นอาจจะเป็นคู่แข่งกันก็ตามแต่ทุกฝ่ายต่างหยุดความทิติกันลง และยื่นมือช่วยเหลือกันและกันอย่างกับคนในครอบครัวเป็นพี่เป็นน้องกัน ได้เห็นธรรมชาติและบรรยากาศกลับมามีสภาพที่ดีอีกครั้ง เจ้าโควิดมาทำร้ายโลกเราก็จริง แต่ก็ยังมอบสิ่งดี ๆ ให้กับโลกของเราด้วยเช่นกัน รูปภาพจาก https://pixabay.com/th/vectors/coronavirus-โลก-ธง-ประเทศ-โรค-5018466/ ถ้าเราเรียนรู้ที่จะอยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้นมาแล้ว เราจะมองเห็นอกด้านหนึ่งที่มีแต่สิ่งดี ๆ ช่วงวิกฤษนี้เป็นช่วงที่ดีที่สุด ที่ทุกคนได้กลับมาอยู่กับครอบครัว ได้มีเวลาให้ลูก ได้พูดคุยกันมากขึ้น ทำกิจกรรมภายในครอบครัวร่วมกัน ได้มีเวลาออกกำลังกายดูแลสุขภาพรีเซ็ตร่างกายตัวเองให้กลับมาแข็งแรงหลังจากที่ใช้ร่างกายเราทำงานหนักมาหลายปี ได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเองทบทวนสิ่งต่าง ๆ ทำความสะอาดตกแต่งร้านใหม่ ปรบปรุง ระบบการจัดการภายในร้าน ให้ได้ทันสมัยมากขึ้น ค้นหาเรียนรู้เพิ่มทักษะพัฒนาให้กับตัวเองให้มีความพร้อมที่จะเริ่มต้นใหม่หลังจากทุกอย่างสามารถควบคุมได้แล้ว เวลาในช่วงนี้ถือเป็นเวลาทองใครพร้อมก่อนก็ได้ไปต่อ รูปภาพจาก https://pixabay.com/th/photos/ครอบครัว-คน-เด็ก-รอยยิ้ม-ความสุข-2811003/ จึงแม้เชื้อไวรัสนี้ทำให้เราได้สูญเสียคนที่เรารักไปตลอดกาล แต่นั่นมันอาจทำให้เราตระหนักว่าระหว่างที่เรามีชีวิตอยู่ทุกวันนี้เราได้ดูแลคนที่เรารักและครอบครัวเพียงพอหรือยัง อย่ามั่วแต่เศร้าโศกเสียใจ ซึมเศร้ากับเหตุการณ์เหล่านี้ จนลืมหันมาดูแลความสุขและจิตใจของเรา สุขภาพที่แข็งแรงไม่มีใคร หรือยาที่ไหนสามารถทำให้เราแข็งแรงได้ นอกจากตัวเราดูแลตัวเราเอง ขอบคุณไวรัส ที่ได้ทำให้เห็นความเมตรา สามัคคีของพี่น้องที่อยู่บนโลกใบนี้ .. THE POWER OF KINDNESS THE POWER OF LOVE THE POWER OF UNITY THE WORLD IS OUR HOME … แล้วเราจะสู้และผ่านสถานการณ์นี้ไปด้วยกัน We will fight and overcome this situation together Fight COVID-19 ขอขอบคุณข้อมูล บางส่วนจาก ฐานเศรษฐกิจ By ธัญดาอร 1 April 2020