สิ่งที่ผู้นำต้องทำในภาวะวิกฤติ ตั้งแต่ผมทำงานมาหลายสิบปี... ผ่านวิกฤติหนักๆมาก็หลายหน... ทั้งปี 40, ความไม่สงบทางการเมือง, น้ำท่วม... ครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่ท้าทาย...อย่างมากสำหรับ ตัวเองและคนไทยทั้งประเทศ ไม่สิ คนทั้งโลกบนดาวสีฟ้าใบนี้ สิ่งหนึ่งจากประสบการณ์การเป็นที่ปรึกษาของผมอยากแบ่งปันแนะนำให้เจ้าของธุรกิจ...และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ต่อคนในองค์กรได้ ทำเป็นอย่างแรก...ในภาวะวิกฤติแบบนี้คือ... 1.เราในฐานะที่เป็น “เบอร์หนึ่ง” ขององค์กร...หรือขึ้นชื่อว่าเป็นผู้บริหารองค์กร เราควรจะกระทำตัวเองให้ไม่ต้องตื่นตระหนกตกใจเสียเอง แน่นอน...อาจมีขวัญเสีย หมดกำลังใจอยู่บ้างแต่นั่นแหละมันก็เป็นเรื่องปรกติ... แต่ทุกอย่างต้องเก็บไว้ในใจลึกๆ... เหมือนๆบ้านเราเวลาเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง... ฟ้าผ่าเปรี้ยงๆ...ถ้าเราเกิดตื่นตระหนกคนเป็นแรก... เอะอะโวยวายเสียงดัง... ลองคิดดูว่าสมาชิกในบ้านยิ่งจะขวัญเสียแค่ไหน.... คนในองค์กรก็เช่นกันครับ ถ้าผู้นำขาดแรงใจ ท้อแท้เสียเอง การเรียกขวัญและกำลังใจจากน้องในทีมงานจะยากยิ่งขึ้น ยิ่งสถานการณ์ปรกติ ยังต้องพยายามกันอยู่มาก แล้ว นี่วิกฤตเลย ผู้บริหารจะต้อง นิ่งให้ได้เร็วที่สุด เพื่อที่จะดำรงไว้ซึ่ง สติ ในการจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้น 2.สื่อสาร ต้องชัดเจน ตรงประเด็น แต่ ปราณีต การสื่อสารให้กับพนักงานในทุกระดับ...มีความจำเป็นอย่างมาก เพราะ ขวัญและกำลังใจของพนักงานขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราพูดออกไป ในกรณีที่บริษัทฯของเราไม่ใหญ่มาก...นักมันก็จะง่ายต่อการส่งสารนั้นๆที่สำคัญถึงพนักงาน หรือถ้าเป็นองค์กรใหญ่มีจำนวนพนักงานมากและเยอะมาก...เรายิ่งต้องทำแบบรัดกุม เราต้องทำความเข้าใจกันบรรดาหัวหน้างาน...ทุกระดับให้เรียบร้อยก่อน เพื่อบอกในสิ่งที่เราเผชิญอยู่... และมาตรการที่กำลังจะเกิดขึ้น...และสื่อสารสิ่งที่องค์กรต้องทำออกไป แต่สิ่งที่สำคัญและควรระมัดระวังในขั้นตอนของการสื่อสารคือ... ผู้บริหารจะต้องใช้น้ำเสียง...ที่เรียบง่าย แม้เหตุการณ์มันจะเลวร้ายขนาดไหน... น้ำเสียงของคนเป็นผู้นำนั้น...จะต้องเป็นธรรมชาติ... พูดอย่างมั่นใจ...สบายๆ...และชัดเจน ที่สำคัญต้องไม่มีความตื่นตระหนกในน้ำเสียง...ให้พนักงานจับพิรุธในความไม่สบายใจของเราได้ 2.ไม่พูดเกินความเป็นจริง...ทุกอย่างต้องอยู่บนข้อเท็จจริง และพยายามสื่อสารเพื่อรักษา สถานการณ์ ไว้ ไม่พูดไม่ดีจนเกินไป...และไม่เลวร้ายเกินงาม ... ให้นึกไว้เสมอว่า...ในแง่การสื่อสารแล้ว... เวลาที่สารส่งไปถึงพนักงานในระดับล่างๆลงไป... มักจะ “ดีเกิน”...หรือ “แย่เกิน” อยู่เสมอ... ถ้าต้นทางโอเวอร์แล้ว...ปลายทางจะยิ่งบานปลาย...ออกไปเป็นหลายเท่า 3.ในการตอบคำถามซึ่งแน่นอนอาจจะมีคำถามที่พนักงานจะถามบ้าง...เพื่อความสบายใจในตัวพนักงานเอง ตรงนี้ผู้บริหารต้องหาวิธีการตอบที่สร้างสรร... อาทิเช่น...เขาอาจจะถามว่า... จำเป็นต้องปลดพนักงานมั๊ย...? ผู้บริหารอาจเลือกใช้คำพูดเพื่อไม่ให้สถานการณ์มันแย่ลงไป... “วันนี้เรายังไม่มีนโยบายแบบนั้น... เพราะเรารู้ดีว่าทรัพยากรบุคคล... เป็นส่วนสำคัญที่สุดขององค์กร... ก่อนหน้านี้เราก็เคยผ่านวิกฤติร้ายๆมาด้วยกัน... เรายังช่วยๆกันผ่านมาได้... ครั้งนี้ก็เช่นกัน... อย่างน้อย ในคำตอบต้องมีทางเพื่อให้ได้ไปต่อ แต่ถ้าสุดวิสัยมากๆ คำตอบสุดท้ายก็ต้องทิ้งไว้ให้พนักงานได้ครุ่นคิดว่า ต้องพยายามกันให้สุดกำลังกันก่อน ถ้าเกิดจำเป็นจริงๆ...วิธีการแก้ไขปัญหาแบบนี้... จะเป็นทางเลือกสุดท้าย... ตอนนี้รู้แต่เพียงว่าอยากจะให้ทุกคน... ช่วยๆกันทำงานในวันนี้ให้เต็มที่ก่อน” หรือคำถามที่ว่า... “แล้วเหตุการณ์แบบนี้...จะอยู่อีกนานมั๊ย”.. ขืนไปตอบว่า...“ผมคิดว่าเหตุการณ์นี้... น่าจะอยู่อีกหลายเดือนหรือเป็นปี” ซึ่งตรงนี้ “ไม่”แนะนำให้พูดครับ... เพราะเป็นการคาดคะเนจากตัวเราเอง... จากการที่เราได้รับข้อมูลจากสื่อออนไลน์ต่างๆ... มันอาจจะเป็น Fake News... ไม่ใช่ “Fact” News...ก็เป็นได้... แต่ถ้าบอกว่า... “ข้อเท็จจริงยังไม่ทราบได้เหมือนกัน... แต่ถ้าดูจากเมืองจีน...ไต้หวัน... หรือญี่ปุ่น...และดูแนวโน้มวันนี้ของบ้านเรา... ก็มีโอกาสว่าเราน่าจะเข้าสู่เหตุการณ์ปรกติ... ได้ในเร็ววัน...ดูอย่างประเทศจีน... ตอนนี้ก็เร่ิมดีขึ้นเยอะแล้ว... บ้านเราเรียนรู้จากประเทศที่โดนก่อน... อันนี้ถือว่าเป็นความโชคดีของเรา”... 4.ในระดับการแก้ปัญหาผู้บริหารต้องมองเป็น 3 ส่วน คือ “คน” ซึ่งกระบวนการในการจัดการบุคคลากรในองค์กรนั้น ก็เลือกตามความเหมาะสมและดูแลความเป็นอยู่ การเดินทาง เครืาองมือในการทำงาน ว่าติดขัดอย่างไรหรือไม่ “กระบวนการ” ต้องมีกลยุทธ์ในการตั้งรับที่แน่นอนและชัดเจน แผนไหนจะใช้ตอนไหน อย่างไร ทำแล้วได้อะไร ต้องนำออกมาใช้ “บรรยากาศ” ในการทำงานหมั่นสังเกตุพนักงาน ความรู้สึก บรรยากาศต่างๆและคอยช่วยเหลือ ส่งกำลังใจให้กันและกัน เพื่อที่จะก้าวไปด้วยกันในวิกฤตที่ยากลำบากนี้ สุดท้าย... “ภาวะผู้นำ” ของเรา...มักจะแสดงออกมาเสมอ...เมื่ออยู่ในภาวะวิกฤติ ... จงใช้โอกาสนี้สร้างศรัทธาให้กับทีมงานครับ...แล้วเราจะผ่านมันไปด้วยกันครับ #ครูอ๊อฟ #ง่ายคืองาม