เชื่อว่าในครอบครัวของแต่ละคนน่าจะมีผู้สูงอายุเช่น คุณตา คุณยาย คุณปู่ คุณย่า กันทั้งนั้นเมื่อผู้สูงอายุมีอายุที่เพิ่มขึ้นทำให้มีความเสี่ยงต่อโรคซึมเศร้า ความหดหู่ ความโศกเศร้ากันมากขึ้น เนื่องจากทุก ๆ วันพวกเขาจะพบเจอการเปลี่ยนแปลงในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นด้าน สุขภาพ การจากลากับคนที่รัก และการสูญเสียทั้งนั้น ผู้สูงอายุจำนวนมากต้องดิ้นรนกับภาวะพวกนี้เนื่องจากปัจจัยหลายประการ ในครอบครัวของผู้เขียนยังมีคุณยายอยู่ก็อยากจะเห็นเขามีสุขภาพจิตที่ดี ร่างกายแข็งแรง มีความสุข อายุยืนอยู่ด้วยกันไปนาน ๆ ผู้เขียนมี 5 ข้อดี ๆ ที่ช่วยให้ผู้สูงอายุของเรามีชีวิตที่ดีขึ้น ขอบคุณภาพ Original Cover Photo โดยคุณ Tristan Le จาก Pexels 1. สุขภาพกายปรับสุขภาพจิต ขอบคุณภาพโดยคุณ coombesy จาก Pixabay เหมือนกับว่าหากไม่มีสุขภาพจิตที่ดีก็จะไม่มีสุขภาพกายที่ดีเช่นกัน การเติบโตของผู้สูงอายุมักนำความท้าทายในทุกๆ วันมาให้ เช่น ความเสื่อมถอยของสุขภาพ และการเคลื่อนไหวต่าง ๆ ที่เป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิต คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าการออกกำลังกายจะช่วยแก้ไขปัญหา บรรเทาอาการเหล่านี้ให้เบาบางลงได้ อย่างเช่นคุณยายของผู้เขียนอายุเกือบจะ 80 ปีแล้ว การพาไปเดินเล่นข้างนอกก็ช่วยให้เขามีสุขภาพที่ดีในทุก ๆ วัน หรือผู้สูงอายุคนใดยังไหวกับการออกกำลังกายอย่างอื่นก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีมาก ๆ 2. การรับประทานอาหารกับอารมณ์ ขอบคุณภาพโดยคุณ Andrea Piacquadio จาก Pexels สิ่งที่รับประทานอาหารเข้าไปในแต่ละมื้อก็มีผลต่อสุขภาพจิต อารมณ์ได้เหมือนกัน ถ้ารับประทานอาหารที่มีสารอาหารที่ดีก็จะมีผลต่อสุขภาพ และช่วยให้รู้สึกดีต่อสุขภาพจิตได้เช่นกัน 3. ติดต่อพูดคุยกับครอบครัวและเพื่อนฝูง ขอบคุณภาพโดยคุณ Brett Sayles จาก Pexels การรู้สึกโดดเดี่ยวและใช้เวลาอยู่คนเดียวมากไปเป็นสิ่งที่กระทบต่อทุกวัยไม่ใช่เพียงวัยสูงอายุเพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคม วิธีที่จะรับมือคือควรพาผู้สูงอายุที่บ้านออกไปเจอสังคมใหม่ ๆ ทำกิจกรรมนอกบ้าน เจอกับญาติ ๆ ครอบครัวเพื่อนฝูง บางทีการติดต่อพบเจอกันแบบสมัยก่อนเป็นสิ่งที่ใช้เวลากับไปการเดินทาง ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่สะดวกช่วยให้สามารถรับส่งข้อความและโทรศัพท์แบบเห็นหน้าผ่านสมาร์ทโฟนได้ 4. หมั่นบริหารจิตใจให้สม่ำเสมอ ขอบคุณภาพโดยคุณ Andrea Piacquadio จาก Pexels บางทีการทำกิจกรรมบางอย่างที่ช่วยสมองที่พัฒนาก็ช่วยให้สุขภาพจิตที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ เขียนหนังสือ เล่นหมากรุก นั่งสมาธิฝึกจิตใจให้สงบ หรือทำกิจกรรมที่ไม่ส่งผลมากต่อสุขภาพทางกายมากเกินไป 5. ฝึกทัศนคติเชิงบวก ขอบคุณภาพโดยคุณ danielkirsch จาก Pixabay เมื่อใดที่มีทัศนคติไม่ดีก็จะมองทุกอย่างแย่ไปทั้งหมด การฝึกให้ผู้สูงอายุมองโลกในแง่ดีก็จะช่วยให้เขาสัมผัสกับชีวิตในเชิงบวกมากขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลเอาใจใส่ของแต่ครอบครัว อย่างผู้เขียนเองจะบอกกับคุณยายเสมอว่า สิ่งที่ไม่ดีที่ผ่านไปแล้วอย่าไปยึดติดกับมันเพราะเราไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ แค่มองอีกมุมนึงแล้วยอมทำใจรับ ถ้าปล่อยวางได้ชีวิตก็จะมีความสุขมากขึ้น เมื่อเขามีทัศนคติที่ดีคนรอบข้างก็จะดีไปด้วย อย่างไรก็ตามการดูแลเอาใจใส่ผู้สูงอายุของเราเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ที่จะช่วยให้เขามีสุขภาพ มีชีวิตที่ดีในแต่ละวัน คงไม่มีใครอยากเห็นคนที่เรารักไม่มีความสุขกันใช่ไหมครับ ขอบคุณครับ BrownTea