"สุขภาพจิต" กับ "โควิด-19" เรียกได้ว่าเจ้า Covid-19 นี้ ทำเอาเศรษฐกิจส่งผลกระทบไปเกือบจะทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น ห้างสรรพสินค้า ตลาด รวมไปถึงการบริหาร ราชการต่าง ๆ หัวหมุนกันไป จำเอาต้องปิดเมือง ปิดประเทศ ป้องกันการแพร่ระบาดไปตาม ๆ กัน ทำเอาประชาชนวิตกกังวลเป็นจำนวนมาก ทั้งเสียสุขภาพจิต กระทั่งหลายคนตุนซื้อเจลล้างมือ ตุนหน้ากากอนามัยเป็นกระสอบ ๆ ขณะที่ยังมีคนส่วนใหญ่ หนุนให้ปิดประเทศ ปิดเมือง ไม่ให้คนเข้าออกประเทศ Credit : Pixabay ทุกวันนี้ความกลัดกลุ้มและความหวาดกลัวกับสถานการณ์ในแต่ละวัน บางส่วนอาจคิดว่าใช้ชีวิตตามแบบเดิม แค่ต้องระวังและทำตามกฎก็พอ บางส่วนก็อาจจะคุมเข้มกักตัวอยู่แต่ในบ้าน เพราะมองออกว่าอะไรจะเกิด อะไรจะมา แต่เอาเข้าจริง ๆ แล้ว ในสถานการณ์แบบนี้เราประชาชนเอง ต้องรู้และตระหนักถึงโรคนี้กันมาพอสมควร ซึ่งมันขึ้นอยู่กับพวกเราว่าจะรวมมือช่วยกันป้องกัน หรือจะรวบรวมเชื้อโรคก็แล้วแต่จะเห็นใจประเทศ Credit : Pixabay ในความคิดวิตกกังวลอาจเป็นเรื่องปกติของสถานการณ์ที่ตึงเครียดเช่นนี้ วิตกกังวลคือสัญญาณบ่งชี้ของโรคเมื่อมีความรู้สึกนั้นมากจนเกินไป หมกมุ่น และค่อนข้างที่จะรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ต้องใช้เวลารักษา สำหรับการรักษาด้วยตนเองควรที่จะทำกิจกรรมที่ต้องออกแรง ควมคุมอาหารเพื่อสุขภาพที่ดี นอนหลับให้เป็นเวลา ออกกำลังกายและพักผ่อนอาจจะช่วยลดความกระวนกระวายได้ รวมทั้งการเข้าร่วมกลุ่มช่วยเหลืออาจช่วยได้เช่นกัน ในการจัดการกับอาการต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ Credit : Pixabay ถ้าหากมาลองคิด ๆ ดู การลงบทความนี้ก็อาจจะเป็นการเพิ่มความกังวลต่อโรคให้ใครหลายคน ไปนั่งคิดนอนคิดกันเพลิน ๆ ว่าระหว่าง โรคโควิด-19 กับ อาการจิตตก กลัวจนขึ้นสมอง ใครจะอยู่ใครจะไป หรือถ้าไวรัสจะไม่มีแล้ว อาการวิตกกังวลเหล่านี้จะอยู่กับเราไปตลอดหรือไหม หากศึกได้จบลง นอกจากรักษาตัวแล้ว เราคงต้องช่วยกันรักษาจิต รักษาใจด้วยเป็นแน่แท้ Cover Photo : Pixabay ติดต่อ : am88buster88@gmail.com สามารถติดตามพวกเราได้ที่ช่องทางนี้ FB : https://fb.com/Aceter2020 Bd : https://www.blockdit.com/aceter