คุกกี้เป็นขนมที่แพร่หลายไปในทั่วทุกมุมโลกไม่ว่าที่ไหนก็จะมีคุกกี้ที่มีเอกลักษณ์และมีความแตกต่างกันไปแต่ละคนอาจยังไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วที่ประเทศไทยของเรานั้นก็มีคุกกี้มาอย่างช้านานแล้วเหมือนกันซึ่งนั่นก็คือขนมกลีบลำดวนนั่นเองค่ะ ขนมกลีบลำดวนเป็นขนมรูปทรงคล้ายกับดอกลำดวนที่มีความหอมเป็นเอกลักษณ์จากการอบควันเทียน โดยในสมัยก่อนนั้นขนมกลีบลำดวน ๆ จะมีด้วยกันหกกลีบนั่นก็คือกลีบดอก 3 ดอกและกลีบใน 3 ดอกเลียนแบบดอกลำดวนของจริง แต่ด้วยความเร่งรีบจึงทำให้ปัจจุบันกลีบลำดวนมีเพียง 3 ดอกเท่านั้น แม้จะเป็นขนมที่ดูทำยากแต่จริง ๆ แล้วเราสามารถทำทานเองได้ที่บ้านนะคะ และขอบอกเลยว่าวิธีการทำนั้นง่ายกว่าทำคุกกี้เสียอีกค่ะ วันนี้เราเลยจะชวนเพื่อน ๆ มาทำขนมกลีบลำดวนกัน ส่วนผสม (19 ชิ้น) แป้งอเนกประสงค์ 120 กรัม น้ำตาลไอซิ่ง 50 กรัม เกลือ 1 ช้อนชา น้ำมัน 30 กรัม เทียนอบขนม วิธีทำ 1. นำแป้งอเนกประสงค์น้ำตาลไอซิ่งและเกลือผสมให้เข้ากันและร่องให้ส่วนผสมละเอียด 2. จากนั้นนำแป้งมาลงในโถผสมโดยทำให้เป็นหลุมตรงกลาง จากนั้นค่อย ๆ ใส่น้ำมันลงไปในหลุมและผสมให้เข้ากันทีละน้อยเพื่อไม่ให้มือติดน้ำมัน เมื่อนวดแป้งจนเข้ากันดีแล้วแป้งจะไม่เหนียวติดมือและโถผสม 3. นำแป้งขึ้นมาแบ่งเป็นลูกกลม ๆ ขนาด 15 กรัม 4. จากนั้นนำลูกกลมมาปั้นให้เป็นวงกลมโดยค่อย ๆ ขยำแป้งให้แน่นก่อนเพื่อที่จะไม่ทำให้ตัวกลีบลำดวนนั้นแตก 5. จากนั้นหันแบ่งออกเป็น 4 ซี่ด้วยนี่ ดึงกรีด 1 กลีบ มาแบ่งครึ่งปั้นเป็นลูกกลม ๆ ประกอบส่วนประกอบให้เป็นรูปกลีบลำดวน 6.นำดอกกลีบลำดวนเข้าอบที่ 150 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 30 นาที 7.จากนั้นนำกลีบลำดวลใส่หม้อจุดควันเทียนปิดฝาให้มิดชิด 4 ชั่วโมง ทำได้ไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะคะ แวะหาใครทำตามสูตรนี้นะคะจะได้ดอกกลีบลําดวนที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ค่ะหากใครที่ชอบกี่ประตูแบบเล็กๆที่เขาขายกันก็สามารถลดขนาดลงได้โดยลดระยะเวลาในการเข้าอบให้น้อยลงตามไปด้วย และถ้าใครอยากเพิ่มสีสันให้กับขนมกลีบลำดวนแล้วเราก็สามารถใส่สีผสมอาหารเพิ่มลงไปได้ค่ะแต่ที่ควรระวังมากก็คือสีผสมอาหารนั้น ไม่ควรเป็นของเหลวเพราะจะทำให้เนื้อของขนมกลีบลำดวนไม่กรอบค่ะควรใช้สีที่เป็นผงอย่างเช่นการใส่ขมิ้นลง ที่สำคัญอีกหนึ่งอย่างก็คือเวลาที่เราอบควันเทียนนั้นจะต้องได้มอบของเรานั้นไม่มีรูรั่วให้ควันเทียนลอยออกไปค่ะจะทำให้ขนมนั้นมีกลิ่นหอมกรอบ หากเพื่อน ๆ คนไหนยังสงสัยในขั้นตอนวิธีการทำก็สามารถดูคลิปได้ทางด้านล่างนี้นะคะ https://youtu.be/UGtwMx1-FSI