สวัสดีค่ะ วันนี้หลังจากได้ดูละครบุพเพสันนิวาส (Rerun) จบมา เห็นฉากนึงเราชอบกินมากเลยละมาดูย้อนหลังตอนกลางคืนด้วยนี่สิ หิวแย่เลย ไปค่ะ วันนี้เราจะมาบอกสูตรการทำหมูโสร่งของเรากัน สูตรนี้ไม่ง่ายละก็ไม่ยาก แต่ต้องใช้ฝีมือนิดนึง มิเช่นนั้นรูปจะมิสวย.....เหมือนข้าพเจ้าค่ะ เริ่มแรกกันเลย ขั้นตอนแรกการเตรียมวัตถุดิบค่ะ - หมูบดละเอียด 400 กรัม - รากผักชี 3 ต้น - ลูกผักชี 1/2 ช้อนชา - กระเทียม 3 ช้อนโต๊ะ - พริกไทยบ่น 1 1/2 ช้อนชา - เกลือ 1/4 ช้อนชา - ไข่ไก่ 1 ฟอง - น้ำมันสำหรับทอด - เส้นหมี่ซั่วจืด 1 ก้อน - น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ - น้ำตาลทราย 1 1/2 ช้อนชา วิธีการทำ 1.โขลกรากผักชี กระเทียม ลูกผักชี และพริกไทยให้เข้ากัน 2. เตรียมหมูบดละเอียด และนำของที่โขลกจากขั้นตอนแรกมาใส่รวมกัน 3. ตอกไข่ไก่ และปรุงรส คลุกให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน 4. นำหมี่ซั่วไปลวก และนำมาผึ่งให้แห้ง 5. ปั้นหมูให้เป็นกลม ๆ 6. นำหมี่ซั่ว มาพันรอบหมูที่ปั้นไว้ให้เป็นลูกตะกร้อ (ตรงนี่แหละค่ะ คือ หน้าตาของหมูโสร่งว่าจะรอดไหม) 7. ตั้งกระทะใส่น้ำมัน พอเดือด หยอดหมูที่พันหมี่ซั่วไว้ลงไป ทอดจนเป็นสีเหลืองทอง 8. จัดใส่จานพร้อมเสริฟพร้อมทานค่ะ เราทำเสร็จแล้วแล้วรู้ไหม....ว่าหมูโสร่งชื่อนี้มาจากไหน หมูโสร่งเป็นเมนูอาหารว่างมาตั้งแต่ไทยโบราณ สมัยนี้คนรู้จักน้อยแต่ที่เป็นที่รู้จักกันมากขึ้นก็มาจาก "ละครเรื่องบุพเพสันนิวาส" นี่แหละค่ะ ลักษณะของหมูโสร่ง เป็นหมูบดผสมกับเครื่องปรุงต่าง ๆ และปั้นเป็นก้อนกลม ๆ จากนั้นทำการนุ่งโสร่งด้วยหมี่ซั่ว นุ่งโสร่งเสร็จจะออกมาหน้าตาคล้ายลูกตะกร้อ จากนั้นนำทอดจนเหลืองกรอบ ส่งกลิ่นหอมน่ารับประทาน จากการศึกษาจดหมายความทรงจำของกรมหลวงนรินทรเทวี ทำให้ทราบว่าเมนู "หมูโสร่ง'' เข้ามาไทยจากเรือขนส่งสินค้าของโปตุเกสและจีน โดยนำอาหารไทยโบราณเมนูนี้ มีหมูปั้นก้อนและเส้นหมี่ จากนั้นได้มีการดัดแปลงเมนูนี้ด้วยการใช้วัตถุดิบอื่นๆ เพื่อให้เข้ากับวิถีชีวิตของคนไทยในสมัยนั้นมากขึ้น กลายเป็นเมนู ''ไก่โสร่ง'' โดยใช้เนื้อไก่ที่ชาวบ้านนิยมเลี้ยงมาแทนเนื้อหมู และใช้ไข่ไก่แทนเส้นหมี่ซั่ว ที่สมัยนั้นไม่เป็นที่รู้จักมากนัก อีกทั้งยังมีราคาแพงด้วย คนที่จะกินได้ก็เป็นคนที่มีเงินในสมัยนั้น.......สำหรับเมนู "หมูโสร่ง" ก็มีเพียงเท่านี้นะคะ