หวานเป็นลมขมเป็นยา เป็นคำโบราณที่ยายเชื่อว่ามันคือเรื่องจริง เพราะเมนูที่ยายนำมาเสนอวันนี้นั้น นั่นก็คือผักขี้ก๋วง หรือผักสะเดาดิน ที่ใครเคยชิมแล้วจะรู้ได้ว่าเป็นผักที่มีรสชาติขมมากเป็นอันดับต้น ๆ เลยก็ว่าได้ แล้วเมื่อได้รู้ถึงสรรพคุณของผักชนิดนี้แล้ว ไม่ธรรมดาเลยนะจ๊ะ อาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำใจให้ชอบผักชนิดนี้ได้ แต่ยายที่อายุขึ้นเลข 6 แล้ว กลับชื่นชอบเป็นที่สุด ด้วยความที่เชื่อในสรรพคุณที่ดีแล้ว ยายยังมีวิธีการปรุงที่สามารถทำให้กินแกงผักขี้ก๋วงนี้ได้แบบอร่อยแซ่บ ไปตามดูส่วนประกอบและวิธีทำกันได้เลยจ้า ส่วนสรรพคุณของผักขี้ก๋วงหรือสะเดาดินนี้ ยายจะแปะไว้ให้ที่ด้านล่างนะจ๊ะ ส่วนประกอบ 1. ผักขี้ก๋วง หรือผักสะเดาดิน 2 ขีด 2. ตะไคร้ 1 ต้น 3. มะเขือเทศ 2 ลูก 4. ไข่ไก่ 1 ฟอง ส่วนประกอบในส่วนของน้ำพริก 1. กระเทียม 7 กลีบ 2. หอมแดง 6 หัว 3. พริกชี้ฟ้า 12 เม็ด 4. ปลาร้า 1/2 ช้อนโต๊ะ 5. เกลือ 1/2 ช้อนชา 6. ปลาแห้งป่น 1 ช้อนโต๊ะ ขั้นตอนวิธีทำ 1. ตั้งน้ำให้เดือดพร้อมตะไคร้ 2. เมื่อน้ำเดือดได้ที่แล้วก็ใส่น้ำพริกแกงที่ตำเตรียมไว้ลงไป 3. มะเขือเทศ ล้างให้สะอาดแล้วหั่นให้เรียบร้อย ก่อนนำใส่ในน้ำซุป 4. รอจนน้ำแกงเดือดจัด จนได้ที่แล้วจึงนำไข่ไก่ตอกใส่ถ้วยแล้วตีให้ไข่แดงกับไข่ขาวนั้นเข้ากัน ค่อย ๆ เทลงไปในน้ำแกง 5. เมื่อน้ำแกงเดือดจัด และไข่ไก่สุกได้ที่แล้ว จึงปิดเตาแก๊สก่อนแล้วค่อยนำผักขี้ก๋วงของเราใส่ลงไปในน้ำแกง ถ้าทำวิธีนี้จะทำให้ไม่ขมจนเกินไป แกงผักขี้ก๋วงหากทานตอนที่แกงเย็นแล้วนั้นจะทำให้รับรู้รสขมไปแบบเต็ม ๆ แต่หากได้ทานตอนที่แกงยังร้อน ๆ อยู่นั้น ความขมจะจางลงและยิ่งทำให้เจริญอาหารเป็นอย่างมาก ประโยชน์ของผักขี้ก๋วงนั้น มีรสขมเย็น จึงใช้เป็นยาแก้ร้อนในกระหายน้ำ เป็นยาระบาย ช่วยบำรุงน้ำดี นำมาทำเป็นยาแก้อาการปวดศรีษะ แก้หวัดคัดจมูก บำรุงธาตุ แก้ไข้ แก้ไอ และสามารถนำมาทำเป็นยาทาแก้โรคผิวหนัง แก้คัน เป็นยาฆ่าเชื้อ แก้อาการฟกช้ำอักเสบบวมได้อีกด้วย สามารถใช้ได้ทั้งต้นกันเลยทีเดียว บทความหน้ายายพรร่าจะชวนเข้าครัวไปทำเมนูอาหารอะไรกันอีก อย่าลืมติดตามกันด้วยนะจ๊ะ หรืออยากไปดูเมนูก่อนหน้าก็สามารถเข้าไปอ่านได้ที่ https://cities.trueid.net/@29795