สวัสดีเชียงตุง เนื่องจากเชียงตุงยังเป็นเมืองปิด เมืองหนึ่งของรัฐฉาน ประเทศพม่า มีหลายชนเผ่าอยู่รวมกัน จึงยังไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวได้ด้วยตัวเอง ต้องผ่านบริษัททัวร์เท่านั้น การเดินทางของเราจึงเริ่มต้นจากการนั่งรถ กทม-แม่สาย จากนั้นจะเหมารถสองแถวหรือรถจักรยานยนต์มาที่ด่านแม่สายก็ได้ คนละ50บาท แต่เราเลือกเดินมาเรื่อยๆเนื่องจากเวลาเราเหลือเยอะ เมื่อมาถึงด่านแม่สาย เริ่มติดต่อทำบัตรผ่านแดนชั่วคราวจากนั้นขึ้นรถบริษัททัวร์เพื่อเข้าเมืองเชียงตุง วิถีชีวิตของคนที่นี่แบบ Slow life มากๆ ทุกอย่างจะหยุดนิ่งเมื่อเวลา19.00 และจะกลับมามีชีวิตอีกครี้งเวลา06.30 ถ้าจะเทียบเมืองเชียงตุงก็เหมือน ตจว. กับกทม. เมื่อ40ปีก่อน ที่นี่ยังคงใช้ควายไถ่นา ลงแขกเกี่ยวข้าว ฟาดข้าว ตามวิถีคนชนบท ใหม่สูงค่า เป็นคำที่คุณจะได้ยินจนชินหูเมื่อคุณมาเยือนเมืองนี้ เพราะมันเป็นคำทักทายที่แปลว่า "สวัสดี" ของชาวไทใหญ่ที่นี่ อาหารการกินของคนที่เชียงตุงเนื่องจากมีหลายเผ่าพันธุ์จึงมีอาหารหลากหลาย แต่เรามาเพื่อตามหา มะล่า มีลักษณะเป็นเนื้อสัตว์เสียบไม้ยาวๆปรุงรสด้วยพริกผงมะล่า หอมกลิ่นมะแขว่นรสชาติดีที่เดียว หรือที่ไทยเรานิยม หมาล่าจากเมืองจีนนั้นเอง แต่รสชาตไม่ได้เผ็ดชาเหมือนของจีน ค่าเงินที่นี่สกุลจ๊าด 100 จ๊าด=2.45บาท มากับทัวร์และถ้าไม่ใช่นักช้อปแรกเงินแค่500บาทพอ ก็จะได้ประมาณ21,000 จ๊าด ค่าครองชีพที่นี่ถูกมากๆ เสน่ห์ของเชียงตุงคือความเงียบสงบกับวิถีชีวิตไม่เร่งรีบ ใครชอบเที่ยวแล้วสโลไลฟ์ยังไงก็ห้ามพลาดเด้ออ