บัตร Travel Card คืออะไร สมัครอย่างไร ทำไมต้องมี???... บัตร Travel Card ( ทราเวลการ์ด ) เข้าใจแบบง่ายๆ คือบัตรสำหรับทำธุรกรรมทางการเงินในต่างประเทศ สามารถใช้ได้ทั้งรูดจ่ายในการช้อปปิ้ง หรือชำระค่าบริการต่าง หรือกดเงินสดจากตู้ ATM โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมการใช้จ่าย ส่วนตัวรู้สึกว่ามันเป็นอีกหนึ่งไอเทมที่สายท่องเที่ยวต่างประเทศควรมี เพราะมีติดตัวไว้แล้วดี ไม่ต้องพกเงินสดไปเยอะๆ กดเพิ่มได้ตลอดเวลาแค่มองหาตู้ ATM ที่มีคำว่า Visa หรือจะรูดจ่ายแทนเงินสดก็ได้เช่นกัน และในปัจจุบันนี้ก็มีทราเวลการ์ดที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากถึง 6 บัตรด้วยกัน ซึ่งเราจะมาเปรียบเทียบบัตร บัตรไหนดีสุด แล้วดีอย่างไร เรตเป็นอย่างไร ใบไหนคุ้มสุดกันค่ะ 1. Krungthai Travel Card – ธนาคารกรุงไทยเริ่มที่ Krungthai Travel Card ก่อนเลยเป็นตัวบัตร "Krungthai Travel Visa Platinum Card" ส่วนตัวรู้สึกว่าใบนี้ค่อนข้างครอบคลุมที่สุด เพราะสามารถแลกเปลี่ยนสกุลเงินได้ค่อนข้างเยอะ และสมัครง่ายมากเพียงสำหรับคนที่มีบัญชีกรุงไทยอยู่แล้วสามารถเข้าไปสมัครที่แอปพลิเคชัน "Krungthai NEXT" รอรับบัตรที่ที่อยู่ที่คุณระบุ เมื่อบัตรมาก็ทำการผูกบัญชี ส่วนคนที่ไม่มีบัญชีกรุงไทยสามารถติดต่อที่ธนาคาร สามารถตรวจสอบสาขาใกล้บ้านคุณได้ที่ krungthai.com เรื่องความโดดเด่นของบัตรใบนี้ค่อนข้างโดดเด่นกว่าบัตรอื่นๆ ซึ่งแบ่งเป็นลำดับข้อได้ดังนี้รีวิวทำบัตร Krungthai Travel Card สำหรับเที่ยวต่างประเทศ ทำง่าย ใช้ดีสามารถแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ รองรับถึง 19 สกุลเงิน ซึ่งถือว่าเยอะกว่าบัตรจากธนาคารอื่นๆ สกุลเงินที่รองรับได้แก่ AUD, CAD, CHF, DKK, EUR, GBP, HKD, INR, JPY, KRW, MYR , NOK, NZD, RUB, SEK, SGD, TWD, USD และ THB ส่วนตัวรู้สึกชอบของกรุงไทยมาก เพราะว่าเขาไม่ได้รองรับแค่สกลุเงินจากประเทศยอดนิยมเท่านั้น เช่น INR รูปีอินเดีย และ RUB รูเบิลรัสเซีย จัดเป็นสกุลเงินที่ไม่ค่อยมีในบัตรธนาคารอื่น ก็มีแค่กรุงไทยที่รองรับสกุลนี้ อย่างผู้เขียนสายอินเดียซึ่งพักหลังๆ จะไม่ชอบพกเงินสดไปเยอะๆ ก็ยอมรับเลยว่าถูกใจบัตรนี้มากเช่นกัน ฟรี! ไม่เสียค่าธรรมเนียม คือไม่เสียค่าธรรมเนียมในการแลกเปลี่ยนเงิน และตอนนี้จนถึง 31 ธันวาคม 2565 จะสมัครฟรีไม่เสียค่าธรรมเนียมการออกบัตรด้วยค่ะแลกเปลี่ยนเงินได้อย่างง่ายดาย ตลอด 24 ชม. ผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai NEXTสามารถแลกเปลี่ยนสกุลเงินทุกสกุลเงินต่อบัตรได้สูงสุด 5,000,000 บาทสามารถใช้กดเงินสดที่ตู้ ATM ต่างประเทศได้ 100,000 บาท/วันสามารถถอนเงินสดสกุลต่างประเทศที่ธนาคารสาขาในไทยได้ ( บางบัตรไม่สามารถทำธุรกรรมในประเทศไทยได้ ) สาขาที่เปิดให้บริการ ได้แก่ สาขานานาเหนือ, สาขาสยามพารากอน, สาขาห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิล์ด และสาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว แต่ทั้งนี้การกดเงินสกุลต่างประเทศในไทยจะไม่รองรับการให้บริการสกุลเงิน INR ( รูปีอินเดีย ) และ MYR ( ริงกิต มาเลเซีย ) ไม่มีค่าธรรมเนียมใช้จ่ายที่เครื่อง EDCหากบัตรเกิดปัญหาใดๆ ขึ้นสามารถโทรสอบถามได้ตลอดเวลา ดู วิธีการใช้บริการโทรฟรีจากต่างประเทศ คลิกเลย2. PLANET SCB Card - ธนาคารไทยพาณิชย์PLANET SCB Card จากธนาคารไทยพาณิชย์เป็นอีกหนึ่งบัตรที่สมัครง่ายมาก สามารถสมัครบัตรที่สาขาใกล้บ้าน หรือผ่านแอปพลิเคชัน SCB Easy โดยมีค่าธรรมเนียมออกบัตรอยู่ที่ 200 บาท ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี สามารถแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศโดยไม่มีค่าธรรมเนียมผ่าน SCB Easy App ได้ด้วยตัวเองง่ายๆ สามารถแลกเงินเก็บไว้ล่วงหน้า หรือใช้รูดชำระที่ต่างประเทศ รองรับ 13 สกุลเงิน ได้แก่ THB, USD, EUR, JPY, KRW, TWD, SGD, CNY, HKD, GBP, AUD, NZD, CHF และ CAD ดูรายละเอียดอื่นๆ ของบัตรบัตรมีอายุ 3 ปี นับจากเดือนที่ออกบัตรสามารถจัดการแลกเปลี่ยนสกุลเงินและจัดการบัตรได้ด้วยตัวเอง ผ่าน SCB EASY Appวงเงินใช้จ่ายรวมทุกสกุลเงินในบัตรไม่เกิน 500,000 บาท/วันกดเงินผ่านตู้ ATM ในต่างประเทศ สูงสุด 100,000 บาท/วัน มีค่าธรรมเนียม 100 บาท/ครั้ง (ยกเว้นค่าธรรมเนียม 100 บาท ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 65) แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขผู้ให้บริการปลายทางในประเทศนั้นๆ ด้วย ซึ่งอาจมีการเรียกเก็บเพิ่มเติมจากที่กำหนด สามารถกดเงินสกุลเงินนอกเหนือจากที่รองรับได้ แต่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มจากเดิม โดยต้องเป็นตู้ที่มีสัญลักษณ์ VISAรูดใช้จ่ายที่ร้านค้า หรือช้อปออนไลน์ ( ที่รับ VISA ) ได้ทั่วโลก โดยมียอดสูงสุด 500,000 บาท/วันไม่มีค่าบริการการแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลต่างประเทศ 3. บัตร YouTrip - ธนาคารกสิกรไทยบัตร YouTrip ของ KฺBank หรือธนาคารกสิกรไทยเป็นบัตรที่ได้รับความนิยมสูงมาก โดยเฉพาะในปี 2565 เส้นทางสิงคโปร์เจอแต่คนพกบัตร YouTrip ทั้งนั้นเลยค่ะ สำหรับบัตรนี้จะฟรีค่าธรรมเนียมสมัครบัตร 150 บาท จนถึง 31 ธ.ค. 66 ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี และยังฟรีค่าธรรมเนียมการกด ATM ต่างประเทศ จนถึง 30 มิ.ย. 66 รองรับสกุลในการแลกเปลี่ยน 10 สกุลเงิน แต่รอบรับการรูดจ่ายผ่านบัตรถึง 150 สกุลเงินเลย เรียกได้ว่าแทบจะใช้รูดจ่ายได้ทั่วโลกเลย ดังนั้นบัตรนี้จึงเหมาะที่จะพกไปประเทศที่เป็นสังคมไร้เงินสด เช่น สิงคโปร์ที่ร้านส่วนใหญ่มักจะรับชำระออนไลน์ผ่านบัตรเป็นต้น รายละเอียดบัตร YouTripรองรับการแลกเงินล่วงหน้า 10 สกุลเงิน ได้แก่ USD, CAD, SGD, JPY, HKD, EUR, AUD, GBP, CHF และ THBเติมเงิน YouTrip ผ่าน K PLUS ง่ายๆ สูงสุด 500,000 บาทรูดใช้จ่ายได้ทันทีทั่วโลก 150+ สกุลเงิน ด้วยระบบ SmartExchangeTM รูดใช้จ่ายด้วยเรทที่ดีกว่า และฟรีค่าธรรมเนียมทุกรายการกด ATM ด้วยเรทที่ดีกว่า และยกเว้นค่าธรรมเนียมการกดเงินสดต่างประเทศ จนถึง 30 มิถุนายน 66 แต่ทั้งนี้อาจจะมีค่าธรรมเนียมเรียกเก็บจากธนาคารท้องถิ่น โดยสามารถกดได้จากตู้ ATM ที่มีสัญญลักษณ์ของ Mastercard® หรือ Maestro® และ Cirrus® ได้ทั่วโลก แต่จะไม่สามารถถอนเงินสดที่ตู้ ATM ในประเทศไทยได้ไม่มีค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยนสกุลเงินวงเงินใช้จ่ายรวมทุกสกุลเงินในบัตรไม่เกิน 500,000 บาท/วัน และใช้จ่ายออนไลน์ได้ไม่เกิน 500,000 บาท/วัน4. Journey Card – ธนาคารกสิกรไทยอีกหนึ่งบัตรจาก KBank บัตร Journey Card บัตรนี้ไม่เหมือนกับ YouTrip ส่วนตัวรู้สึดว่า YouTrip น่าสนใจน่าใช้กว่า สำหรับ Journey Card จะเป็นได้ทั้งบัตรรูดจ่ายในต่างประเทศและสามารถใช้จ่ายในไทยได้ ข้อแตกต่างของบัตร Journey Card และบัตร YouTrip คือ บัตร YouTrip จะสามารถแลกเงินเก็บไว้ล่วงหน้าได้ผ่านแอปพลิเคชัน อีกทั้งค่าสมัครและออกบัตรของบัตร YouTrip นั้นจะถูกกว่า Journey Cardรายละเอียดบัตร Journey Cardสามารถรูดจ่ายในต่างประเทศได้ทั่วโลกด้วยสกุลเงินต่างประเทศท้องถิ่น สูงสุด 500,000 บาท/วัน โดยไม่มีชาร์จเพิ่ม โดยจะตัดเงินผ่านบัญชีที่ผูกไว้บัตรมีอายุ 5 ปี นับจากเดือนที่ออกบัตรสามารถใช้กดเงินผ่านตู้ ATM ต่างประเทศได้สูงสุด 200,000 บาท/วัน แต่มีค่าธรรมเนียม 100 บาท/ครั้ง และอาจมีค่าธรรมเนียมที่ผู้ให้บริการปลายทางเรียกเก็บเพิ่มเติมสามารถใช้เติมเงินมือถือได้ทุกระบบ ไม่จำกัดยอด และไม่มีค่าธรรมเนียมรองรับการแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ 8 สกุลเงิน ได้แก่ USD, EUR, GBP, JPY, CNY, HKD, KRW และ SGD5. TTB All Free - ธนาคารทหารไทยธนชาตTTB All Free บัตรที่น่าจับตามองมากด้วยคำเคลมที่ว่า "บัตรเดียวใช้ได้ทั่วโลก" และมันน่าสนใจจริงๆ ค่ะ เพราะว่าเขาเป็นบัตรเดบิตที่สามารถรูดจ่ายและกดเงินสดได้ทุกสกุลเงินทั่วโลกผ่านการตัดเงินจากบัญชีที่ผูกไว้ หนำซ้ำยังสามารถใช้เบิกถอนเงินในประเทศไทยได้แบบฟรีค่าธรรมเนียม และกดได้ทุกตู้ทั่วประเทศอีกด้วยค่ะ แม้จะไม่ได้ฟรีค่าธรรมเนียมสมัครและออกบัตรแต่ราคาก็ไม่ได้แพง อยู่ในมาตรฐานที่ 200 บาท และจะก็บค่าธรรมเนียมรายปี 250 บาท เมื่อใช้ครบ 1 ปีรายละเอียดบัตร TTB All Freeสามารถใช้กดเงินผ่านตู้ ATM ได้ทุกประเทศทั่วโลก สูงสุด 200,000 บาท/วัน โดยมีค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 75 บาท/ครั้ง และอาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับ ATM ของแต่ละประเทศรูดใช้จ่ายที่ต่างประเทศ รวมถึงช้อปออนไลน์ได้ทุกสกุลเงินต่างประเทศทั่วโลก โดยผ่านร้านที่มีสัญลักษณ์ VISA สามารถใช้จ่ายได้สูงสุด 2,000,000 บาท/วัน (สำหรับบัตรที่มีชื่อ) และสูงสุด 500,000 บาท/วัน (สำหรับบัตรที่ไม่มีชื่อ)สามารถใช้ทำธุรกรรมทางการเงินในประเทศไทยได้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นการกดเงินสด การโอนเงิน การจ่ายบิล รวมไปถึงการเติมเงิน สามารถทำธุรกรรมได้ทั้งที่ตู้ ATM ทุกธนาคารทั่วประเทศ และผ่านแอป ttb touch ได้แบบฟรีค่าธรรมเนียมสามารถจัดการบัตรได้ด้วยตัวเองผ่านแอปพลิเคชัน ttb touch ได้ตลอดเวลา6. Citibank Global Wallet – ธนาคารซิตี้แบงก์ลำดับสุดเป็น Citibank Global Wallet เป็นบัตรสำหรับใช้ในต่างประเทศจากธนาคารซิตี้แบงก์ มาในรูปแบบการบริการในแอปพลิเคชัน Citi Mobile App ที่จะช่วยให้คุณสามารถเบิกถอนเงินสด รวมไปถึงซื้อสินค้าจากต่างประเทศได้ง่ายๆ โดยไม่มีค่าแลกเปลี่ยนของสกุลเงิน ความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์นี้คือ ไม่มีค่าความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน ไม่มีค่าธรรมเนียมการกดเงินสดจากตู้ ATM ธนาคารซิตี้แบงก์ทั่วโลก ไม่มีค่าธรรมเนียมซื้อของออนไลน์และร้านค้าต่างประเทศทั่วโลก และไม่มีค่าบริการรายปีรายละเอียดบัตร Citibank Global Walletสามารถแลกเปลี่ยนรองรับ 9 สกุลเงิน ได้แก่ THB, USD, EUR, AUD, GBP, CHF, JPY, HKD และ SGDใช้จ่ายสูงสุดได้ ไม่เกิน 300,000 บาท/วัน ขึ้นอยู่กับประเภทของบัตรเดบิตกดเงินผ่านตู้ ATM ต่างประเทศ สูงสุด 200,000 บาท/วัน และไม่มีค่าธรรมเนียมการกดเงินสดจากตู้ ATM ธนาคารซิตี้แบงก์ทั่วโลก และนี่ก็คือรายละเอียดของบัตรทราเวลการ์ดที่สามารถนำไปใช้ในต่างประเทศได้แบบสะดวกสบายสุดๆ ส่วนตัวจะใช้ PLANET SCB Card มากที่สุดแต่ถ้าถามว่าชอบใบไหนที่สุด ณ ตอนนี้ก็ยังเป็นกรุงไทยทราเวล ชอบตรงที่มีสกุลให้แลกเปลี่ยนเยอะ และมีสกุลเงินประเทศที่ไปบ่อยอย่างอินเดีย แต่ก็รู้สึกสนใจในบัตร TTB All Free อยู่เหมือนกันนะ ก็แหมเขาเคลมว่า "บัตรเดียวใช้ได้ทั่วโลก" เลยนะคะ ถ้าอนาคตมีโอกาสไปทำจะมาอัปเดตรีวิวกันอีกทีว่าดีแค่ไหน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทั้ง 6 บัตรนี้ส่วนตัวรู้ว่ามันดี มันน่าสนใจหมด คุ้มแค่ไหนส่วนตัวขอยกเกณฑ์พิจารณาเป็น "จำนวนสกุลเงินที่รองรับ" และ "ค่าธรรมเนียมการกดเงินที่ตู้ ATM" รวมถึง "ความสามารถในการรูดจ่าย"ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าบัตรมันเหมาะจะนำไปใช้ในเส้นทางไหนด้วย เช่น ถ้าเป็นประเทศที่ใช้จ่ายผ่านการรูดแตะบัตรเป็นสังคมไร้เงินสด อาจจะต้องเลือกบัตรที่รูดแตะเสถียรแบบ YouTrip หรือไปในประเทศที่ไม่มีบัตรไหนรองรับสกุลเงินแต่อยากจะเน้นรูดจ่ายหรือกดเงินก็ต้องไปดูบัตรที่สามารถกดเงินสกุลนอกเหนือจากที่กำหนดไว้หรือเป็นบัตรที่กำหนดว่าสามารถใช้กดเงินผ่านตู้ ATM ได้ทุกประเทศทั่วโลกเป็นต้นนั้น https://entertainment.trueid.net/detail/Y0dNa3AoG7JKhttps://intrend.trueid.net/post/358348ใครตัดสินใจเลือกใช้บัตรไหน หรือมีประสบการณ์การใช้บัตรอยากเล่าสู่กันฟังก็สามารถแชร์ประสบการณ์กันได้ที่กล่องคอมเมนต์ด้านล่างได้เลยนะคะ สุดท้ายนี้หากใครชอบบทความนี้ก็สามารถแชร์ออกไปได้เลยนะคะ หรือถ้าอยากติดตามเรื่องราวอื่นๆ ของเราก็สามารถติดตามกันได้ที่Facebook : แบกกล้องชิวเที่ยวไปเรื่อยYouTube : I Tell You TryIG : i_am_solo_traveler_บทความ TrueID : หญิงเถื่อนขอบคุณภาพจาก Krungthai Care - ภาพที่ 1/ SCB Thailand - ภาพที่ 2 / KBank Live - ภาพที่ 3, ภาพที่ 4 / ttb bank - ภาพที่ 5 / Citi Thailand - ภาพที่ 6 ส่องที่เที่ยว พิกัดลับห้ามพลาด มุมถ่ายรูปสวยที่ทรูไอดีคอมมูนิตี้