ย้อนไปในปี ค.ศ. 1913 หลายคนคงรู้จักชายคนนี้ที่ชื่อ รพินทรนาถ ฐากุร เขาเป็นคนที่ได้รับรางวัลโนเบลชาวเอเชียคนแรก ในสาขาวรรณกรรม ชื่อของ รพินทรนาถ ก็เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก รวมไปถึงคนไทยจำนวนไม่น้อย ท่านสร้างคุณประโยชน์ที่มากมาย เป็นทั้งนักปราชญ์ ศิลปิน นักเขียนบทละคร กวี หรือแม้กระทั่งนักแต่งเพลง ภาพจาก fill /pixabayรพินทรนาถ ฐากูร เกิดวันที่ 7 พฤษภาคม ค.ศ.1861 ในครอบครัววรรณะพราหมณ์ตระกูลฐากุรที่ร่ำรวยในแคว้นเบงกอล ประเทศอินเดีย รพินทรนาถ พ่อเป็นมหาฤๅษี ชื่อว่าเทเพนทรนาถ ฐากุร เป็นลูกชายคนรองสุดท้ายในจำนวนพี่น้อง 15 คน ท่านได้สมรสกับมรินาลินี เทวี มีลูก 5 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 3 คนในวัยเยาว์นั้น เขาเริ่มเขียนบทกวีครั้งแรกตั้งแต่อายุเพียง 8 ปี และเริ่มฉายแววเป็นนักเขียนเมื่ออายุ 14 ปี ครั้นอายุได้ 16 ปี ท่านได้เดินทางไปเรียนต่อที่ University College London แต่เรียนไม่จบและกลับมายังบ้านเกิด ท่านได้แต่งบทกวีเลียนแบบบทกวีแนวจินตนิยมของเบงกอล ทำให้ท่านได้รับยกย่องจากผู้อ่าน และเริ่มมีชื่อเสียงกระทั่งปี ค.ศ. 1913 รพินทรนาถ ได้รับรางวัลโนเบล สาขาวรรณกรรม ในขณะนั้นนับได้ว่าเป็นชาวเอเชียคนแรกที่ได้รับรางวัล จากกวีนิพนธ์เรื่อง "คีตาญชลี" หรือ การบูชาด้วยบทเพลง มี 103 บท มีฉบับที่แปลเป็นภาษาไทย โดยท่าน กรุณา กุศลาสัย ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ คีตาญชลีฉบับแปล ได้ตีพิมพ์เป็นครั้งแรก ในปี ค.ศ. 1969รพินทรนาถได้ให้ความสำคัญด้านการศึกษาเป็นอย่างยิ่ง ท่านก่อตั้งโรงเรียนศานตินิเกตัน ซึ่งสอนให้ผู้เรียนเข้าใจตัวเอง เข้าใจธรรมชาติ มองเราเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ บรรยากาศการเรียนจะเป็นบริบทล้อมรอบด้วยสิ่งแวดล้อม และยังมีชาวไทยบางส่วนไปศึกษาที่ศานตินิเกตัน ในปี ค.ศ.1951 รัฐบาลอินเดียได้ประกาศให้เป็นมหาวิทยาลัย ได้เปลี่ยนชื่อเป็น วิศวภารตี หรือ มหาวิทยาลัยใต้ต้นไม้ ภาพจาก RAJAT KUMAR SINGH / pexels ภาพจาก vishnudeep dixit / pexelsผลงานของรพินทรนาถ มีหลากหลาย บทกวีจันทร์เสี้ยว เรื่องสั้นนายไปรษณีย์ พระกรรณกับนางกุนตี บทละครเรื่องจิตรา หนังสือเรื่องสาธนา หนังสือเรื่องหิ่งห้อย เพลงชาติอินเดีย รวมไปถึงคีตาญชลี ที่โดดเด่นจนได้รับรางวัลโนเบลจากที่ผู้เขียนได้ศึกษาข้อมูล ชื่นชอบบทประพันธ์ของท่าน เนื่องจากบทประพันธ์ของท่าน เป็นบทร้อยกรองอิสระที่ไม่ได้ตามแบบแผนเดิมที่มีรูปแบบฉันทลักษณ์ที่เคร่งครัด งานเขียนในลักษณะนี้ผู้เขียนมองว่าเป็นการเปิดโอกาสให้กวีได้ถ่ายทอดความรู้ออกมาได้ถึงแก้นแท้โดยไม่ต้องยึดติดกับฉันลทักษณ์บทกวีที่ผู้เขียนชื่นชอบคือ บทกวีจันทร์เสี้ยว เป็นการพูดถึงความสัมพันธ์ที่ดีที่เราควรประพฤติ ความรักนั้นสัมพันธ์กับทุกสรรพสิ่งโดยเฉพาะคนใกล้ตัว ทำให้เราได้ดูแลและใส่ใจกับคนที่เราอยู่ด้วยกัน เห็นความรักทีเขามอบให้เรา รพินทรนาถ มาเยือนประเทศไทย ในสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว วันที่ 8 ตุลาคม ค.ศ. 1927 ท่านได้เดินทางมากับคณะผู้ติดตามอีก 4 ท่าน ถึงสถานีรถไฟหัวลำโพงจากปีนังโดยรถด่วน พักที่วังพญาไท โรงพยาบาลมงกุฎในปัจจุบัน และแสดงปาฐกถาถวายพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ พระราชวังดุสิต บันทึกจากถอดบทความโดยเรืองอุไร กุศลาสัย จะเห็นได้ว่าในอดีตชาวไทยและอินเดียนั้นต่างมีสัมพันธไมตรีที่ดีต่อกันจากที่ทุกท่านได้อ่านเรื่องราวของท่านรพินทรนาถ ฐากุร จะเห็นได้ว่าท่านมีความสามารถมากมาย หลายด้าน เป็นบุคคลที่มีความสำคัญต่อประเทศอินเดีย ทั้งแต่งกวีที่หลากหลายจนได้รับรางวัลโนเบล ประพันธ์เพลงชาติ ก่อตั้งโรงเรียนใต้ต้นไม้ที่ให้ความสำคัญกับธรรมชาติ นับได้ว่าเป็นผู้ที่มีความสำคัญต่อคนรุ่นหลังได้ เป็นอย่างดี โดยเฉพาะมหาลัยวิศวภารตี ที่อบรมบ่มเพาะลูกศิษย์ทั่วโลกที่ได้เรียนใน มหาลัยแห่งนี้ ถือเป็นมหาวิทยาทางเลือกแบบใหม่ในปัจจุบันที่บูรณาการความรู้แบบองค์รวม มิตรภาพและความร่วมมือร่วมใจ เป็นสิ่งสำคัญยิ่งที่จะโยงใยอารยธรรมของมนุษย์ให้มีเอกภาพ ภาพปกจาก vishnudeep dixit / pexels เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !