เมื่อฤดูฝนผ่านพ้นไปแล้วช่วงเดือนตุลาคมของทุกปี สิ่งที่ชาวลัวะหมู่บ้านจูน ตำบลป่ากลาง อำเภอปัว จังหวัดน่าน จะพาบุคคลในครอบครัวขึ้นไปตามไร่ ดอย สวน ซึ่งในที่แห่งนั้นจะมีพืชชนิดหนึ่งขึ้นอยู่งอกงาม พืชชนิดนี้หลายท้องที่ต้องหาวิธีกำจัดมัน ทั้งถางทั้งถอน หรือไม่ก็ใช่ยาฆ่าหญ้ามาฉีดพ่นให้มันตาย เพราะจะทำให้พืชชนิดอื่นเจริญเติบโตช้า พืชชนิดนี้ก็คือ หญ้าคา นั่นเอง แต่ชาวลัวะบ้านจูนนี้เห็นคุณค่าหญ้าคา โดยนำหญ้าคามาทำให้เกิดประโยชน์สร้างมูลค่า และทำให้มีรายได้ให้กับครัวเรือน นอกจากสินค้าทางการเกษตรแล้ว หญ้าคาที่นำมาไพคานั้นยังสร้างรายได้ต่อครัวเรือนปีละ 20,000 - 40,000 บาทเนื่องจากในอดีตบ้านเรือนในชุมชนชาวลัวะบ้านจูนแห่งนี้ส่วนใหญ่ใช้หญ้าคามาไพทำเป็นหลังคาบ้าน พอถึงฤดูการเกี่ยวคาทุกครัวเรือนก็จะพากันไปเกี่ยวคา นำมาไพคาลูกหลานชาวลัวะบ้านจูนเลยได้รับความรู้และวิธีการไพหญ้าจากการที่พ่อกับแม่ได้ทำให้ดู และฝึกฝนจนสามารถไพหญ้าได้ ถือว่าเป็นภูมิปัญญาอย่างหนึ่งที่ได้รับการถ่ายทอดจากพ่อและแม่ ในปัจจุบันนอกจากไพคาไว้ใช้เองในครัวเรือน ยังแล้วมีชาวบ้านในบ้านจูน ได้ไพหญ้าคาขายเป็นอาชีพเสริม หญ้าคาที่ไพส่วนใหญ่จะเกี่ยวมาจากดอยภูคา ตามไร่ ตามสวนที่ปล่อยรกร้างไม่ทำในปีนี้ หญ้าคาจะออกมาเจริญงอกงามดี ถึงแม้ในปัจจุบันบ้านเรือนไม่ได้มุงหลังคาด้วยหญ้าคาแล้ว แต่ผู้คนก็ยังนิยมนำไพหญ้าคาไปมุงหลังคากระท่อม ทำร้านอาหาร แพปลา และทำโรงเรือนต่าง ๆ เนื่องจากหลังคาที่มุงด้วยหญ้าคานั้นจะเย็นสบาย ประหยัดกว่ากระเบื้องและสังกะสี นี่จึงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ไพหญ้าคายังคงอยู่ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันการไพคาเริ่มจากการที่เราไปเกี่ยวคา วิธีการเกี่ยวคาก็เหมือนกับการเกี่ยวข้าวโดยใช้อุปกรณ์คือเคียว ใช้มือข้างที่ถนัดจับเคียว มือที่เหลืออีกข้างจับหญ้าคาบริเวณโคนโดยรวบให้เป็นกำ ๆ แล้วเกี่ยวได้ประมาณ 3 - 4 ครั้ง ก็นำคาที่ได้รวบกำไว้แล้วดึงหญ้าคาที่มันเศษหรือไม่เข้าพวกมามัดคาที่เกี่ยวได้เป็นมัด ๆ แล้ววางทิ้งไว้ ก็เริ่มเกี่ยวใหม่จนได้คาพอที่จะนำไปไพคาได้ เหตุที่ต้องมัดเป็นกำ ๆ ไว้ เพราะสถานที่เกี่ยวคาเป็นดอย อาจจะทำให้คายุ่งเมื่อโดนลมพัดแรง ๆ หรือมีสัตว์เข้าวิ่งจนสะดุดคาได้ เมื่อเกี่ยวคาเสร็จจะตากทิ้งไว้ประมาณ 4 - 7 วัน จากนั้นผู้ชายจะเข้าป่าเตรียมตัดหาไม้ไผ่เพื่อจะมาทำเป็นไม้สำหรับไพคา ซึ่งชาวลัวะบ้านจูนเรียกว่าไม้ดูกก้าน ซึ่งมีขนาดกว้าง 2 เซนติเมตร ยาว 1.20 - 1.50 เมตร ใช้สำหรับเป็นแกนผูกยึดหญ้าคากับตอก เหลาให้ไม่มีเสี้ยนเพราะเวลาไพอาจถูกเสี้ยนตำมือได้ ได้ประมาณ 40 - 50 อัน นำมามัดรวมกันแล้วนำไปแช่น้ำประมาณ 1 เดือนจากนั้นก็เตรียมตอก ทำจากไม้ไผ่ ทำเป็นเส้นบาง ๆ ยาว 0.5 - 1 เมตร สำหรับใช้มัดหญ้าคากับไม้ดูกก้าน ชาวบ้านนิยมใช้ไม้ไผ่บงทำตอก เนื่องจากมีความเหนียว ยืดหยุ่น ไม่กรอบ ไม่หักง่าย และมีช่วงตอกยาว จักเสร็จนำไปผึ่งลมหรือตากแดดให้แห้ง ก่อนนำมาใช้ให้นำไปแช่น้ำเป็นตอกอ่อนมัดง่ายตอนที่ผู้ชายเตรียมไม้ดูกก้านและตอกนั้น ผู้หญิงก็ไปเก็บคาที่ตากแดดไว้จนแห้งสนิท นำคาที่ได้มาสางโดยใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่าสางคา เพื่อจะเอาคาที่ไม่ได้ขนาด และคาที่ยุ่ง ๆ ออกไปให้หมด แล้วนำมาเรียงโดยให้ด้านตรงต้นเท่า ๆ กัน แล้วมัดเป็นฟ่อนมีขนาดประมาณแล้วนำไปเก็บไว้ที่ร่ม อย่างเช่นใต้ถุนบ้าน เพื่อเตรียมนำออกมาไพคาเมื่อถึงเดือนธันวาคม - เดือนกุมภาพันธ์ ชาวลัวะบ้านจูนจะว่างเว้นจากการทำการเกษตร จะนำคาที่เกี่ยวได้นำมาไพคาไว้ใช้หรือจำหน่ายสร้างรายได้เสริมโดยเริ่มจากนำคาที่ได้ไปแช่น้ำประมาณ 20 นาที เพื่อให้คาอ่อนแล้วนำมาไว้ที่ค้างสำหรับไพคา นำไม้ดูกก้านมาวางยาวตรงไปข้างหน้า นำตอกวางบนไม้ดูกก้าน โดยพับตรงกึ่งกลางตอกแล้วนำหญ้าคาวางทับบนตอก จากนั้นพับหญ้าคาในจุดกึ่งกลาง เริ่มถักหญ้าคาครั้งแรก เรียกว่าขึ้นเก๊า (ตั้งต้น) จากนั้นใช้ตอกลอดไม้ดูกก้านแล้วสอดขึ้น ทำในลักษณะนี้ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งหมดความยาวของไม้ดูกก้าน จะได้คา 1 ไพหรือ 1 ตับ ความกว้างของคาที่ไพแล้วประมาณ 0.5 เมตร ความยาวเท่าขนาดของไม้ดูกก้าน พอไพคาเสร็จจึงนำไปผึ่งแดดให้แห้งคาที่บ้านจูนมีลักษณะที่หนาเป็นพิเศษสามารถสร้างรายได้เป็นอาชีพเสริม คา 1 ไพ จะมีราคา 25 - 30 บาท ในแต่ละปีจะมีผู้ประกอบกิจกรรมรีสอร์ท โรงแรม มาหาซื้อไปเป็นจำนวนมาก เพราะคาทำให้เกิดอากาศถ่ายเท ไม่ร้อน นักท่องเที่ยวชอบไปนั่งเล่นใต้สิ่งปลูกสร้างที่ทำด้วยคา นี่ก็คือ หญ้าคาที่สามารถสร้างรายได้ให้กับชาวลัวะบ้านจูน ภาพหน้าปก และภาพประกอบ Photo by บ่าวไตยลื้อเมิงโบ