ไม่มีใครไม่รู้จักพิธีกรได้ที่สมญานามว่า "ปากหมา" สุดในประเทศ แต่ถ้าจะไปวัดผลสถิติความหมาของพิธีกรทั่วประโลกแล้ว น้าเน็กก็อาจจะไม่ได้หมาถึงขนาดนั้น แต่ด้วยกริยาท่าทาง วิธีการดำเนินรายการที่เฉพาะเขาเท่านั้นที่จะทำได้ เขาเท่านั้นที่จะพูดแบบนี้ นั้นเองเป็นเหตุให้คนจดจำไม่ปฏิเสธเลยว่า คงยากนักที่จะก็อปปี้โชร์เป็นเงาน้าเน็ก ให้สมจริงสมจังได้จริง ๆ (หรือเพราะไม่มีใครอยากเหมือนหรือเปล่านะ หยอก ๆ)หากมองเขาในตอนปัจจุบันก็คงกล่าวได้ว่า ความหมาที่สะสมกันมาแต่ช้านานตั้งแต่เข้าวงการบันเทิงของน้าเน็ก มันดูลดลง แต่ถูกเติมเต็มด้วยความเป็นผู้ใหญ่ที่โรแมนติกมากขึ้นเป็นเท่าตัว เราเห็นได้จากการที่เขาไปอ่านข่าวที่ เรื่องเล่าเช้านี้ หรือล่าสุดที่เขาทำ You tube #อย่าหาว่าน้าสอน ที่จะคอยรับสายปริศนาจากใครก็แล้วแต่ที่อยู่ทั่วทุกมุมโลก โทรมาปรึกษาปัญหาต่าง ๆ ไม่ว่าจะด้านความรัก ชีวิต หรือเรื่องที่ดูเล็กน้อยยยยยยย อย่างการไม่กล้าตดในห้องน้ำ น้าเน็กก็คลี่ปัญหาและจัดการแถลงไขได้อย่างเป็นชาญฉลาด แต่ในหนังสือเล่มนี้ ที่ข้าพเจ้ากำลังจะนำมาเล่าให้ฟังถึงเนื้อในของมัน อยากให้ย้อนกลับไปสมัยน้ากำลังฮ๊อต ๆ สมัยที่หัวของเขายังเป็นสี ๆ สลับปรับเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ แทบจะทุกวัน ทุกเดือน หนังสือเล่มนี้มิได้กล่าวหาความหมายของชีวิต ไม่ได้เป็นเป็นแบบนิ้วกลม ไม่ได้เป็นแบบ โตมร ศุขปรีชาแต่เป็นหนังสือที่เล่าเนื้อในหนังแท้ของวงการบันเทิง แผละออกให้เห็นว่าไอ้สิ่งมายาเหล่านี้ มันเป็นเพียงแค่สรรพสิ่งที่ถูกสร้างมาด้วยทฤษฎีหลอกคนไปต้ม ไปคลั่งไคล้ แต่ไม่ได้บอกหรอกนะว่า เลิกชอบดาราได้แล้ว มันห่วย เพียงแต่แค่ถูกตีแผ่เรื่องเหล่านั้น ผ่านสายตาของชายคนนี้ ที่มีนามว่าน้าเน็ก หนังสือ Naked น้าเน็ก ถูกคัดเนื้อหาโดน ๆ มาจากคอลัมน์ นิตยสาร Hamburgerในแต่ละบทของหนังสือเล่มนี้จึงจะไม่ได้มีความเกี่ยวเนื้องอะไรกัน แต่จะมีบางตอนที่มี เป็นภาค 1 ภาค 2 ภาค 3 ไปเรื่อยด้วยความตรงไปตรงมา ผสมกับการฝีปากที่พร้อมจิกกัดจริตประเพณีวงการบันเทิงประเทศไทยได้อย่างถึงพริกถึงขิง ส่งผลให้มีผู้อ่านที่รอคอยจะได้อ่านคอมลัมน์นี้ อย่างยาวนาน และตัวหนังสือก็ได้ตีพิมพ์ออกมามากกว่า 14 ครั้ง แต่ละบทนั้นน้าเน็กจะพาเราไปพบกับความซ้ำซากจำเจของการทำงานด้านบันเทิงในบ้านเรา ไม่ว่าจะทั้งเบื้องหลัง หรือเบื้องหน้า จนกลายเป็นประเพณีความซ้ำซากที่ไม่ต่างไปจากละครช่อง 3 ช่อง 7 ที่เอาแต่เรื่องเก่า ๆ มาทำซ้ำ หรือแนวการดำเนินเรื่องก็เหมือนเดิม เขาได้พาไปเจาะสูตรสำเร็จที่ใคร ๆ ก็ใช้กันจนกลายเป็นขนมธรรมเนียมที่ต้องทำตาม ไม่ว่าจะเป็นหนังผีไทย = เนื้อหาเน้นป่า ๆ คู่รักตายห่าเป็นคู่แรก อะไรทำนองนั้น หรือหนังรัก = ก็ต้องเป็นพระเอกนางเอก ใครสักคนแหละรวย จับผัดจับผลูมาเจอกัน เกลียดกัน สุดท้ายก็ปิ๊งกัน เป็นต้นนอกจากจะตีแผ่ความไม่ไปในของวงการบันเทิงในบ้านเรา น้าเน็กยังได้พาเราไปเห็นความกระเดะไฮโซของคนรวย มันเยอะขึ้นเรื่อย ๆ จนครองเมืองไปเสียแล้ว เป็นการกล่าวตรงไปตรงมาของแก ที่อ่านไปเหมือนโดนตบหน้าไป ว่าเลิกสวมใบหน้าอื่นแล้วคิดว่าตัวเองเจ๋งที่สุดได้แล้ว เลิกสร้างภาพงมงายแก่สังคมได้แล้ว เพราะมันเป็นสิ่งอันไร้สาระสิ้นดี จึงกล่าวได้ว่า นี้ไม่ใช่หนังสือของไอ้หนวดหัวสี ๆ มาพูดถึงเบื้องลึก หลัง หน้า ของวงการบันเทิงไทยอย่างเดียว แต่มันยังแฝงความจริงของสังคมมนุษย์ที่ต้องทำให้ตัวเองดูดี เสแสร้งเพื่อผลประโยชน์ต่าง ๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หนังสือเล่มนี้ก็ไม่ได้เอาแต่เจาะลึกด้านแย่ ๆ อย่างเดียวหรอก ก็เผยความดีงามเข้าไปด้วย คือการให้ความบันเทิงแก่ประชาชนที่เสพตัวดารา และผลงานต่าง ๆ ของพวกเขา รวมทั้ง น้าเน็กก็ได้แฝงข้อคิดในการทำงานอาชีพต่าง ๆ ไว้เหมาะสำหรับไปปรับใช้ เผื่อใครฝันอย่างอยู่เบื้องหลังด้านวงการบันเทิง หรือเป็นแบบน้าอย่าง พิธีกร เป็นต้นสุดท้ายหนังสือเก่า ๆ เล่มนี้หาไม่ยาก แค่ต้องอดทนรอวันงานหนังสือ หมายถึงวันงานหนังสือแบบปกติที่เราไปเดินคุ้ยหนังสือตามสองข้างทางได้ ในแผงละ 20 บาท ผมบอกได้เลยว่า เผลอ ๆ คุณจะได้เจอหน้าตาของพี่หนวดแว่นดำหัวสี ๆ เป็นปึก ๆ อย่างแน่นอน *แค่หน้าคำนำก็ทำให้เราได้รู้แล้วว่า หนังสือเล่มนี้จะเป็นยังไงต่อไป ภาพถ่ายหนังสือ : ข้าพเจ้าเองติดตามข้าพเจ้าเองได้ที่ยูทูป Funfrom production และได้ที่ Blockdit