ช่วงนี้ที่คนเราหลายๆคนต้องอยู่บ้าน ไปไหนไม่ได้ บ้างถูกลดเงินเดือน บ้างก็ถูกให้ออกจากงาน ทำใช้ชีวิตช่วงนี้มันเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ในวันที่หันไปทางไหนก็ดูเหมือนจะมืดทุกด้าน เราอาจจะต้องต้องหยุดไปกับหลายๆเรื่องๆ นับว่าเป็นวิกฤติจริงๆครับ แต่วันนี้จะมาบอกถึงโอกาสที่ซ่อนอยู่ในวิกฤตินี้ ที่ผมพอจะมองเห็นครับ และอยากจะมาเล่าสู่กันฟังให้ผู้อ่านทุกคน เผื่อสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง ผมจะดีใจมากภาพโดย Gerd Altmann จาก Pixabay ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่า ทุกวันนี้ที่หลายๆคนต้องหยุด รวมถึงอาจหมายถึงตัวเราด้วย แต่เราก็ไม่ควรหยุดไปเสียทุกอย่างครับ อย่างน้อยก็การเรียนรู้ของเราก็ไม่ควรหยุดไปด้วย เพราะในวันที่ทุกคนต่างหยุด แต่เพียงแค่เราเดินต่อไป ถึงแม้จะเดินไปอย่างช้าๆ แต่เราก็นำหน้าคนที่หยุดแล้วครับ แล้วพอวิกฤติผ่านไป ซึ่งมันจะผ่านไปแน่ๆ เราก็จะมีความสามารถที่เหนือชั้นขึ้นไปอีก พูดอีกอย่างก็คือเราจะมีพัฒนาการที่ดียิ่งขึ้นไปอีกครับ ถ้าอยากรู้ว่าทำไม่ไม่ควรที่จะหยุดการเรียนรู้ แนะนำลองเข้าไปอ่านบทความนี้ดูน่ะครับ คลิกเลย จริงๆชีวิตของเราอยู่ที่การไม่หยุดที่จะเรียนรู้จริงๆครับ ถ้าคุณมีเป้าหมายที่จะมีความมั่นคงทางการเงิน ก็เอาเวลานี้มาเรียนรู้เรื่องการเงินให้มากขึ้น ถ้ามีเป้าหมายอยากมีสุขภาพที่ดี จะได้ไม่เจ็บป่วยได้ง่าย ถ้าเกิดต้องติดโรค เราก็เอาเวลานี้หันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น ออกกำลังกายให้มากขึ้น และอีกสารพัดเป้าหมายที่คุณต้องการ คุณสามารถพัฒนาตัวเองทักษะให้ดีมากขึ้น และก็ไม่ต้องแข่งกับคนอื่นนะครับ แค่เราทำให้ดีกว่าตัวเราเมื่อวานแค่นี้ก็เพียงพอแล้วภาพโดย Syaibatul Hamdi จาก Pixabay และการเรียนรู้ที่ผมอยากจะแนะนำมากที่สุดก็คือ การอ่านหนังสือ เพราะการอ่านหนังสือ มีเพียงเผ่าพันธ์มนุษย์เท่านั้นที่สามารถทำได้ สัตว์อื่นบนโลกอาจจะมีการสื่อสารด้วยเสียงเหมือนที่เราพูด หรือด้วยท่าทางเหมือนที่เราพูดภาษาใบ้ แต่การอ่าน มีเพียงมนุษย์เราเท่านั้นจริงๆครับ ที่สามารถมีทักษะอันน่ามหัศจรรย์นี้ แต่การอ่านก็มักถูกมองข้ามไปอย่างน่าเสียดายกว่าที่มันควรจะเป็นภาพโดย Tumisu จาก Pixabay การลองผิดลองถูกจากประสบการณ์เป็นสิ่งที่จำเป็นในการเรียนรู้ครับ แต่ใน 1 ปี เราอาจลองผิดลองถูกได้ไม่กี่อย่างหรอกครับ แต่หนังสือ ซึ่งบางเล่มมันคือการลองผิดลองถูกของใครบางคนทั้งชีวิตที่เอามาเล่าให้เรา เพื่อเป็นกรณีศึกษาให้เราหลีกเลี่ยงความผิดพลาดในสิ่งที่เขาเคยผิดพลาดมาแล้ว ผมว่าแค่นี้ก็คุ้มมากแล้วครับที่เราจะอ่านหนังสือ แต่หนังสือให้อะไรเราหลายอย่างกว่าที่เราคิดครับ เมื่อพูดถึงการอ่าน คุณนึกถึงอะไรครับ จากการสำรวจส่วนตัวของผม มีทั้งที่คนบอกว่า คนอ่านหนังสือเป็นพวกเด็กเนิร์ดเท่านั้น มีคนที่บอกว่า จะอ่านหนังสือไปทำไม ในเมื่อไม่ได้กำลังจะสอบสักหน่อย และอีกสารพัดคำตอบ ทำให้ผมได้รู้ถึงบางอย่างเกี่ยวกับการอ่านว่า จริงๆเราถูกปลูกฝังมาตั้งแต่สมัยเรียนว่า ภาพจำของคนเราส่วนใหญ่ การอ่านหนังสือ เป็นกิจวัตรของนักเรียนที่เรียนเก่งๆเท่านั้น หรือไม่การอ่านก็ต่อเมื่อมีการสอบเท่านั้น ซึ่งจริงๆผมจะบอกว่าความคิดเหล่านั้นมันก็ไม่ได้ผิดทั้งหมด แต่ก็ไม่ได้ถูกทั้งหมดเช่นเดียวกันครับการอ่านเป็นกิจวัตรเฉพาะเด็กนักเรียนที่เรียนเก่งๆเท่านั้น ก็เพราะว่าเขารู้ไงครับว่า ถ้าเขาอ่าน เขาจะได้อะไร แต่ถึงเราจะไม่ได้เรียนเก่ง แต่ถ้าเรารู้ว่า ถ้าเราอ่านแล้วเราจะได้อะไร เราก็น่าจะอ่านหนังสือกันมากขึ้น ว่าไหมครับ และก็จะอ่านก็ต่อเมื่อมีการสอบเท่านั้น ก็ไม่ผิดครับ แต่อย่าลืมว่าในชีวิตจริงของคนเรา มีการสอบอยู่เสมอ ที่แค่ไม่ได้มีเก้าอี้ในห้องสอบ ไม่มีคนคุมสอบ แต่เรามีสิทธิ์สอบตกได้ เพราะเมื่อไหร่ที่เราสอบตก นั้นหมายถึงความล้มเหลวในชีวิตของเรา แต่ไม่ต้องกลัวความล้มเหลวน่ะครับเพราะคนที่ไม่เคยล้มเหลว คือคนที่ไม่เคยลงมือทำอะไรเลยต่างหาก ฉะนั้นวันนี้ลองสำรวจตัวเองดูก่อนว่า เรามีเป้าหมายทางด้านไหนบ้าง แล้วให้เราลองหาหนังสือที่มันตอบโจทย์กับเป้าหมายของเรา ลองใช้เวลากับมันดู เวลาที่เสียไปจะไม่สูญเปล่าอย่างแน่นอน รับรองได้เลย เป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ เครดิตปก Comfreak จาก Pixabay อัปเดตข่าวสาร และแหล่งเรียนรู้หลากหลายแบบไม่ตกเทรนด์ บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !