หน้าหนาวครั้งนี้เตรียมเงิน เตรียมตัวพร้อมที่จะออกเดินทางไปเปิดโลกกว้างกันแล้วหรือยังครับ ทริปนี้เป็นทริปที่ ผู้เขียนได้เดินทางไปเที่ยวหาประสบการณ์ที่ จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอเชียงดาว โดยเริ่มต้นจาก จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งได้นั่งรถไฟขบวนธรรมดาขึ้นที่สถานนี้รถไฟนครสวรรค์ ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 10-12 ชั่วโมง ซึ่งบอกได้เลยเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศในการเดินทางมาก ทั้งร้อน ทั้งเหนื่อย แต่มีหลายสิงที่เป็นข้อดีของการนั่งรถไฟ คือ ทำให้เราได้อยู่กับตัวเองมากขึ้นได้คิดทบทวนเรื่องต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิต รวมถึงได้เรียนรู้วิถีชีวิตของคนที่เขาค้าขายอาหารบนรถไฟด้วย ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดี เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่า เมื่อนั่งรถไฟมาถึงที่สถานีรถไฟเชียงใหม่ สิ่งที่ทุกคนต้องทำ คือการนั่งรถสองแถว "รถแดงเมืองเชียงใหม่" เราได้นั่งรถแดงไปลงที่ สถานีขนส่งช้างเผือก เพื่อต่อรถไปที่อำเภอเชียงดาว โดยขึ้นรถโดยสารสาธารณะ สายเชียงใหม่-ท่าตอน มีรถวิ่งตลอดเลยนะครับ ใช้เวลาในการเดินทางจากสถานีช้างเผือก ไปถึงทางขึ้น ดอยเชียงดาว ประมาณ 3-4 ชั่วโมง พอมาถึง ระหว่างที่รอรถขึ้น ดอยเชียงดาวข้างล่างจะมีตลาดสด มีร้านกาแฟโบราณอยู่ร้านหนึ่ง อร่อยมากอยู่ในตลาด เมนูยอดฮิต คือ กาแฟโบราณ พร้อม ไข่ลวก 2 ฟอง เป็นอาหารเช้าที่ได้ทั้งความอร่อยและให้พลังงานในการเดินทางต่อ เป็นอย่างดีเลยทีเดียว จากนั้นก็มานั่งรอรถกันต่อ......... เมื่อรถมาถึง ค่าโดยสารตอนนั้นราคา 60 บาท ต่อคน ใช้เวลาในการเดินทางขึ้นดอยประมาณ 40 นาที โดยประมาณนะครับ บรรยากาศระหว่างเดินทาง ถูกโอบล้อมเต็มไปด้วยธรรมชาติ ต้นไม้ใหญ ต้นไม้เล็กรวมถึงป่าไผ่ที่สวยงามและสดชื่น พอถึงที่พัก เราได้พักที่บ้าน ลีซูโฮมสเตย์ ดอยหลวงเชียงดาว ซึ่งเราได้นอนในเต็นท์ ไม่ได้นอนบ้านที่เป็นหลัง เพราะจองไม่ทัน แต่ถึงแม้จะนอนในเต็นท์ แต่บรรยากาศก็ไม่ได้ต่างอะไรกับนอนในบ้านที่เป็นหลัง อีกอย่างการนอนในเต็นท์ก็เป็นส่วนตัว เพราะทางเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเข้าจัดเป็นโซนไว้ให้อย่างดีเลยทีเดียว พอใกล้จะตกเย็นความหิวก็เข้ามาเยือน ที่พักแห่งนี้เขามีอาหารให้เป็นชุด ซึ่งรวมอยู่ในค่าที่พักแล้วเรียบร้อย อาหารที่ได้กินในวันที่ไป เราได้กิน ไข่เจียวทอด น้ำพริกกระเหรี่ยง กระหล่ำปรีผัดน้ำปลาและก็ต้มจืดฝัก บอกเลยอาหารก็ธรรมดาๆ แต่เมื่อเรากินคู่กับบรรยากาศที่เย็นสบาย รวมกับลมที่พัดไปมา วิวภูเขาที่สวยๆกับแสงแดดที่ใกล้จะตกดิน บอกได้เลยว่า "เข้ากันสุดๆ" ถึงจะเป็นอาหารที่ธรรมดาๆ แต่เมื่อรวมอยู่กับองค์ประกอบหลายๆอย่างอาหารที่ธรรมดาๆก็สามารถอร่อยได้เช่นกัน หนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อน ได้เวลาที่พระอาทิตย์จะตกลง ดวงจันทร์และหมู่ดาวจะส่องแสง พร้อมกับลมหวานที่พัดผ่าน อุณหภูมิ ณ ตอนนั้นอยู่ที่ประมาณ 15-17 องศาเซลเซียส บอกเลยกำลังพอดีไม่หนาวจนเกินไป และเราก็หลับไปพร้อมกับดูดวงดาวและพระจันทร์บนท้องฟ้าที่สวยงานนั้น ต่อมาอีกที่ก็เช้า ประมาณ ตี 05.30 น. เพื่อมาดู ทะเลหมอก และสิ่งที่ได้คือคุ้มค่ามากพร้อม หมอกลงแบบไม่หนามากถ่ายรูปออกมาได้สวยเลยทีเดียว และเมื่อถ่ายรูปอะไรเสร็จเรียบร้อยเราก็เตรียมตัว ขึ้นไปกินข้าว อาหารเช้าคือ โจ๊กและกาแฟ พร้อมที่จะเดินทางกลับมาทำงานต่อ ซึ่งในการเดินทางครั้งนี้ทำให้เราได้เรียนรู้ประสบการณ์มากมาย รู้ถึงได้ค้นหาชีวิตของเรา ออกเดินทางไปในสถานที่ที่เราไม่รู้จักไม่เคยไปมาก่อน พร้อมกับเป็นการไปพลังแบต ให้กับตัวเองเพื่อที่จะได้มีแรงมาทำงานต่อ เพื่อที่จะได้มีเงินไปซื้อประสบการณ์ให้กับชีวิตเราต่อไป สุดท้ายและท้ายที่สุดผู้เขียนอยากฝากทุกคนว่า เที่ยวอย่างมีความสุข สนุกกับทุกกิจกรรมที่ทำนะครับ ขอขอบคุณครับ รูปภาพโดยผู้เขียน