ภาพปกโดยผู้เขียน (ถึงเพื่อน ๆ ทุกคนนะคะฮานะจะแทรกรูปภาพต่าง ๆ ที่ฮานะถ่ายเองคั่นกลางระหว่างเล่าเรื่องนะคะ ภาพอาจไม่ตรงกับเนื้อหาที่เล่าบ้าง แต่เพื่อให้เพื่อน ๆ ไม่เวียนหัวลายตากับตัวหนังสือมากเกินไปค่ะ ด้วยรัก :) ) ภาพประกอบโดยผู้เขียน คงไม่มีใครไม่ได้รับผลกระทบจากโรคโคโรน่า เชื้อไวรัสตัวร้ายหรอกใช่มั้ยคะ ? แน่นอนล่ะ ไม่ว่าใครก็ต้องได้รับทั้งนั้น ทั้งลูกเล็กเด็กแดง วัยรุ่น วัยกลางคน วัยชรา ทุกคนล้วนได้รับผลกระทบด้วยกันหมด บางคนมาก บางคนน้อยก็แตกต่างกันออกไป ฮานะเป็นเด็กนักเรียนคนหนึ่งที่เพิ่งจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายเมื่อต้นปีนี้เองค่ะ วันนี้จะขอแบ่งปันผลกระทบและสิ่งที่เกิดขึ้นให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน จริง ๆ โรคนี้เริ่มแพร่ระบาดตั้งแต่ช่วงเรียนหนังสือเลยนะ ทางโรงเรียนก็มีมาตราการให้นักเรียนทุกคนใส่ผ้าปิดปากและรักษาความสะอาด แต่ไม่ได้เคร่งถึงขั้นต้องพกเจลล้างมือหรือห้ามเข้าใกล้ผู้อื่นเกิน 2 เมตร อะไรขนาดนั้นค่ะ จนถึงตอนสอบปลายภาคก็กลาง ๆ เดือนกุมภาพันธ์แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รุนแรง สอบเสร็จก็ปัจฉิมค่ะ จากนั้นก็ต่อด้วยทริปสุดท้ายก่อนจบม.6 ซึ่งทริปนี้เป็นทริปล่องแพที่จังหวัดกาญจนบุรี (ฮานะอยู่จังหวัดเชียงรายนะคะ) ส่วนระยะเวลาของทริปนี้คือ 4 วัน 3 คืน (ก็ไม่นาน เพราะมีกิจกรรมให้สนุกสนานตลอดเวลาเลย) หลังจบทริปล่องแพเมืองกาญ เราทุกคนก็กลับมาอย่างสวัสดิภาพทุกคนค่ะ ไม่ได้มีใครเป็นอะไรที่เกี่ยวกับโรคเลย ซึ่งในตอนนั้นเชื้อไวรัสก็ยังไม่ได้แพร่ระบาดจนคนวิตกกังวล ภาพประกอบโดยผู้เขียน แต่หลังจากนั้นแหละ หมอกร้ายก็เริ่มคลานเข้ามายังประเทศไทยทีละนิด ๆ เมื่อข่าวเรื่องไวรัสโคโรน่าระบาดอย่างหนักที่อู่ฮั่น ตอนแรกฮานะไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่โตระดับโลกขนาดนี้ พยายามเข้าข้างตัวเองและมองโลกในแง่ดีว่า 'เดี๋ยวมันก็หาย เดี๋ยวมันก็ดีขึ้น' แต่ไม่ใช่ค่ะ เจ้าไวรัสร้ายไม่ได้หายไปไหนเลย มิหนำซ้ำ ยังทวีคูณไปยังทวีปอื่น ๆ อย่างรวดเร็วด้วย เอาล่ะ !! ในเมื่อบ้านเมืองวุ่นวาย ผู้คนแตกตื่น มันก็มักจะมีคนที่เห็นแก่ตัว อาศัยจังหวะในการทำมาหากินโดยการปล่อยข่าวปลอม ซึ่งช่วงแรก ๆ ข่าวปลอมเยอะมาก !!! คนแชร์ลูกโซ่ก็เยอะ (มีคนหวังดีส่งมาให้ฮานะเยอะเลยค่ะ แต่ฮานะแอบเห็นใจนะคะ ที่เขาไม่มีวิจารณญาณเอาเสียเลย) วุ่นวาย ๆๆๆๆ ตาย ๆๆๆ ภาพประกอบโดยผู้เขียน บ้านเมืองจะสงบได้ไงล่ะเนี่ย ประชาชนแตกตื่นกันหมดแล้ว คนดี ๆ ที่แชร์ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ก็มีนะคะ ชื่นชมค่ะ แต่สิ่งแวดล้อมที่ฮานะอยู่ ด้วยความที่เป็นชนบท ชาวบ้านมักทำไร่ทำนา และแน่นอนค่ะ กว่า 80 % อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ อาศัยฟังเอาอย่างเดียว ได้ยินอะไรมาก็เชื่อหมดไม่ได้ไตร่ตรองหรือกลั่นกรองสักนิดว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ ซึ่งในจุดนี้ฮานะเข้าใจดีค่ะ เพราะคนรู้น้อย ย่อมวิตกกังวลมากกว่าคนรู้มาก (ฮานะไม่ได้หมายความว่าตนเองรู้มากนะคะ แต่กำลังจะสื่อว่า เราควรทำความเข้าใจและพยายามส่งต่อความรู้ที่ถูกต้องให้กับเขาต่างหาก) เมื่อโรคร้ายยังไม่มีท่าทีจะหายไป สถานการณ์ก็ดูไม่ได้ดีขึ้นสักเท่าไหร่ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น แม่ของฮานะคนนึงเลยค่ะ ฟังข่าวเช้าเย็น (ไม่สิ ทั้งวันเลยล่ะ) ฟังจนวิตกกังวลเกินเหตุ แล้วพลังของมนุษย์แม่ก็ฉายแววออกมาเลยค่ะ เมื่อแม่สุดที่รักสั่งทุกคนในบ้านห้ามออกไปไหน และสั่งให้ทุกคนไปช่วยกันซื้อของมาตุนไว้สำหรับช่วงกักตัว (ซึ่งคาดว่าคงต้องกักไปยาว ๆ) ฮานะก็เริ่มคิดและตั้งคำถามกับตัวเองเลย ว่าเราจะทำอะไรในช่วงกักตัว ? ซึ่งคำตอบที่ได้คือ ทำงานค่ะ :) อยู่บ้านก็มีงานทำ อยู่บ้านก็ทำงานได้ ฮานะจึงไม่มีเวลาเหงาเลยค่ะ (ฮานะโชคดีใช่มั้ยคะ ที่มีงานทำในช่วงกักตัว ร้องไห้ได้มั้ย งอแงได้เปล่า) ภาพประกอบโดยผู้เขียน จริง ๆ ก็อยากเหงาบ้างแหละ อยากลองว่าง ๆ ดูบ้าง เหมือนคนอื่นเค้าอะไรทำนองนั้น อยากรู้ว่าถ้าเหงาหรือว่างจนไม่รู้จะทำอะไรแล้ว เราจะมีพฤติกรรมเหมือนคนใน Facebook ที่กลายเป็น Dancer กลายเป็นแม่ค้า หรือกลายเป็นเชฟอะไรทำนองนั้นหรือเปล่า 555555 (ไม่ได้ว่าใครเลยนะ น่ารักดีค่ะ) สรุปคือ อยากว่าง อยากเหงา แต่งานเยอะมาก มีให้ทำทุกวันเลยค่ะ แต่อยู่บ้านก็ต้องดูแลตัวเองเยอะเหมือนกันนะคะ ถึงจะอยู่ในชนบทแต่ก็มีหมอกควันมากเหมือนกัน ไฟป่าเยอะมากด้วยค่ะ ดับไฟกันเป็นว่าเล่นเลย ได้ยินมาว่าหมู่บ้านข้าง ๆ แล้งน้ำมากด้วย ซึ่งเป็นหลายหมู่บ้านเลยนะคะ ปัญหาเยอะแยะมากมายจริง ๆ ปวดหัว ใครก็ได้ขอวันหยุดทีค่ะ / ไหว้ย่อ ภาพประกอบโดยผู้เขียน และแล้ว . . . . . ฟ้าก็เป็นใจ สวรรค์ก็ดลบันดาล มอบวันหยุดให้ฮานะ 3 วันติด !!! ฮูเร่ !! ; ดีใจจังเลยค่ะทุกคน จะทำอะไรดีล่ะทีนี้ จะให้ไถโทรศัพท์ดูคนอื่นเต้นหรือทำอาหารทั้งวันก็ไม่ไหว ฮานะทั้งนั่งคิดนอนคิด ยืนคิด ตีลังกาคิด กระโดดตบ ตะแคงซ้าย ตะแคงขวาก็ไม่รู้จะทำอะไร เอาวันหยุดหนูคืนไปเถอะค่ะ !!! หนูไม่อยากได้แล้วทำงานยังเหนื่อยน้อยกว่านี้อีก TOT แต่ด้วยความน่ารัก (หืม ?) ในที่สุด ฮานะก็คิดออกแล้วค่ะ ว่ากิจกรรมในวันหยุดของฮานะควรจะเป็นอะไร และนั่นก็คือ . . . . คือ . .; คือ . . (วอนเพื่อน ๆ ช่วยทำหน้าลุ้นหน่อยค่ะ) ออกไปเดินเล่นถ่ายรูปรอบบ้านค่ะ !! (แป่ว !! ลุ้นตั้งนาน นึกว่าจะมีอะไร จากนั้นฮานะก็รีบสะพายกล้องตัวโปรด สวมหมวกลวก ๆ ไว้กันแดด แล้วรีบบึ่งออกไปเดินถ่ายรูป และรูปภาพที่เพื่อน ๆ เห็นอยู่นี้ เป็นฝีมือของฮานะเองทั้งหมดค่ะ อาจไม่ได้สวยเวอร์วังอลังการนะคะ ฮานะปวดข้อมือขวาค่ะ ทำให้ถือกล้องแล้วกดชัตเตอร์ไม่ถนัด ให้อภัยกันนะคะ :) พอเดินถ่ายนู่น ถ่ายนี่ไปสักพัก ฮานะก็เริ่มรู้สึกว่า ตัวเองแทบจะไม่เคยได้สัมผัสสิ่งต่าง ๆ รอบข้างเลยแม้แต่น้อย ทั้ง ๆ ที่เห็นมันอยู่ทุกวัน แต่ไม่เคยได้มองลึก ๆ ลงไปเลยสักครั้ง ซึ่งครั้งนี้เป็นโอกาสดีที่จะได้มาดูอะไรใหม่ ๆ เผื่อจะได้แนวคิดหรือแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ด้วย เดี๋ยวจะค่อย ๆ เล่าให้ฟังอย่างกระชับนะคะเพราะรู้สึกว่าเริ่มยาวแล้ว เน้นดูภาพแล้วกันเนาะ เดี๋ยวเพื่อน ๆ จะพากันหลับก่อน ภาพประกอบโดยผู้เขียน "ดอกกล้วยไม้ที่พ่อปลูกไว้ บัดนี้มันได้เปลี่ยนสีและเริ่มเหี่ยวแล้ว เพราะอากาศร้อน และแล้งมาก" ภาพประกอบโดยผู้เขียน "แปลงผักเล็ก ๆ ที่น้องสาวเพาะไว้ ซึ่งเคยนำมาทำอาหารรับประทานแล้วหลายมื้อ <3" ภาพประกอบโดยผู้เขียน "ดอกหญ้าทั้งสามชนิด ที่ฮานะชอบนำมาถ่ายรูปอยู่บ่อยครั้ง" ภาพประกอบโดยผู้เขียน "บรรยากาศยามเย็น ที่มีเจ้านกตัวน้อยมาเกาะสายไฟ" ภาพประกอบโดยผู้เขียน "อาหารเย็นของฮานะ หมูปิ้งเสียบไม้บนใบตองกับน้ำจิ้มสามรสสูตรเด็ดของน้องสาว" ภาพประกอบโดยผู้เขียน "ส่งท้ายด้วยภาพนี้ค่ะ กระท่อมกลางทุ่งนาหลังบ้านของฮานะเอง ช่วงนี้หน้าแล้ง มองไปทางไหนก็แห้งแล้งจัง " ความจริงแล้ว เมื่อมาลองให้เวลากับตัวเองได้นั่งคิดและทบทวนดูแล้ว ฮานะพบว่า COVID-19 มันก็ไม่ได้แย่เสมอไปนะ เพราะอย่างน้อย ๆ เราจะได้มีเวลาอยู่กับคนรักที่บ้าน ใช้เวลาร่วมกัน ทำอะไรหลาย ๆ อย่างที่อยากทำแต่ไม่มีโอกาส ซึ่งนี่ก็เป็นโอกาสที่ดีที่สุด เป็นการทบทวนชีวิตที่ผ่านมาเพื่อนำไปวางแผนเริ่มต้นใหม่ในวันข้างหน้าได้ด้วย และอีกอย่าง เมื่อมนุษย์หยุด สัตว์ต่าง ๆ มันเริ่มกลับมามีชีวิตอีกครั้งนะ สู้ ๆ นะคะทุกคน ดูแลตัวเองให้เยอะ ๆ นะคะ #ผ่านไปด้วยกันนะ