ภาพปก https://pixabay.com/ หลายคนคงกังวลกับสถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบัน แล้วอาจจะคิดระแวง ว่าตัวเองเผลอไปติดเชื้อมาตอนไหนหรือเปล่า ถ้าเกิดติดเชื้อขึ้นมาล่ะ แล้วจะทำยังไง ไอ้เราไม่เป็นไรหรอกแต่คนใกล้ตัวคนในครอบครัวจะพลอยเดือดร้อนไปด้วย ก็เข้าใจได้ครับว่าอาจจะตื่นกลัวไปต่าง ๆ นา ๆ โดยถ้าเป็นไปได้หลายคนก็คงอยากลองไปตรวจให้มันรู้ ๆ กันไป ในบทความนี้ผมอยากเตือนให้พวกเราตื่นตัวกันอย่างมีสติกันครับ โดยรวมรวมของมูลสำหรับผู้ที่ต้องการการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ไว้ในเบื้อต้น ซึ่งต้องเข้าใจก่อนครับว่าทางภาครัฐได้มีมาตรการกับคนที่ต้องการตรวจโรคออกเป็นสองกลุ่ม คนกลุ่มแรกก็คือคนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง เช่น เพิ่งเดินทางกลับจากต่างประเทศ มีประวัติใกล้ชิดกับผู้ป่วย มีไข้สูง ฯลฯ คนเหล่านี้สามารถตรวจหาโรคได้ฟรีครับ แต่กับคนในกลุ่มที่สอง คือผู้ที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงนั้นถ้าหากต้องการไปตรวจกับโรงพยาบาล ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง ก็ราว ๆ 5,000–10,000 กว่าบาทกันเลยทีเดียว https://pixabay.com/th/ ล่าสุด (เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2563) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ข้อมูลในเวทีเสวนาสื่อมวลชน โดยมีใจความว่า วิธีการตรวจโรคโควิด-19 ในห้องปฏิบัติการนั้นจะมีอยู่สองวิธี ที่ใช้กันอยู่... 1. ตรวจหาเชื้อไวรัสโดยตรง ซึ่งใช้การตรวจสารพันธุกรรม (RT PCR) นี่เป็นวิธีการหลักในการวินิจฉัยโรคในปัจจุบัน และเป็นวิธีการที่องค์การอนามัยโลกแนะนำ เพราะยืนยันผลได้แน่นอนที่สุด และสามารถตรวจหาเชื้อได้ตั้งแต่เริ่มมีอาการน้อย ๆ 2. ตรวจโดยชุดตรวจ Rapid Test หรือการตรวจแบบเร็ว ข้อดีของวิธีการตรวจแบบนี้คือใช้เวลาแค่ 5 – 15 นาทีเท่านั้น และมีค่าใช้จ่ายที่ถูกมาก แต่คุณหมอก็ได้อธิบายว่าชุดตรวจประเภทนี้ มันเป็นแค่การตรวจหาภูมิคุ้มกัน ซึ่งเป็นวิธีการแบบใหม่ที่อาจจะไม่ได้แม่นยำหรือได้มาตรฐานเท่ากับวิธีการแรก โดยอุปกรณ์การตรวจแบบเร็วนี้ เราอาจจะเคยเห็นวางขายอยู่ในอินเตอร์เน็ตกันบ้างแล้ว ซึ่งราคานั้นเมื่อคิดเป็นเงินไทยแค่ไม่ถึง 500 บาทต่อชุด คุณหมอเลยเตือนต่อว่า ยังไงชุดตรวจประเภทนี้ยังมีข้อจำกัดอยู่หลายอย่าง ซึ่งเหมาะกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ต้องใช้การวินิจฉัยมากกว่าที่ประชาชนทั่วไปจะซื้อแล้วไปตรวจกันเอง เพราะถ้าหากว่าเกิดการวินิจฉัยโรคที่คลาดเคลื่อนขึ้นมา จะยิ่งทำให้เกิดผลกระทบในการแพร่กระจายของโรคเข้าไปอีก https://pixabay.com/ สืบเนื่องมาจากชุดตรวจแบบเร็วข้างต้น นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ก็ได้ออกมาเปิดเผยในรายการ ไทยสู้โควิด-19 ทางไทยพีบีเอส (27 มีนาคม 2563) โดยท่านได้อธิบายไว้ว่า เหตุผลที่ชุดตรวจประเภท Rapid Test ต้องใช้การวินิจฉัยของผู้เชี่ยวชาญก็เพราะ ส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยของภูมิคุ้มกันในแต่ละคนที่ต่างกัน รวมถึงระยะฟักตัวของโรคในแต่ละคนก็ต่างกันด้วย โดยปกติแล้วระยะฟักตัวของคนทั่วไปนั้นจะอยู่ที่ 5-7 วัน แต่ก็เป็นไปได้ที่อาจจะถึง 14 วัน (เหมือนอย่างมาตรการ การกักตัวที่ใช้กันอยู่) และก็ยังเป็นไปได้อีกเหมือนกันที่ระยะฟักตัวจะนานกว่านั้น แต่ก็มีโอกาสน้อยมาก ซึ่งแน่นอนถึงแม้การตรวจจะได้ผลออกมาอย่างรวดเร็ว แต่การวินิจฉัยก็ควรเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ต้องใช้เวลาติดตามแล้ววิเคราะห์ จึงจะระบุได้ว่าคนคนนั้นติดเชื้อหรือไม่อย่างไร https://pixabay.com ก็เข้าใจได้ครับว่าหลายคนอาจกังวลใจด้วยสถานการณ์ที่เป็นอยู่ปัจจุบัน แต่ก็หวังว่าเราจะตื่นตัวกันอย่างไม่ตื่นตะหนกนะครับ เพราะบุคลากรทางการแพทย์ของบ้านเรานั้นเดิมทีก็มีน้อยอยู่แล้ว จึงเป็นไปไม่ได้เลย ที่จะตรวจโรคให้กับคนทุกคนในประเทศได้ทั้งหมด มาตรการที่ออกมาของภาครัฐจึงพยายามสร้างความเข้าใจและขอความร่วมมือให้ประชาชนดูแลตัวเองก่อนเป็นอย่างแรก ส่วนการตรวจโรคก็ขอให้เป็นแค่คนในกลุ่มเสี่ยก่อนเพื่อลดภาระของแพทย์ที่มีกันอย่างล้นมือ