ในช่วงสถานการณ์ปัจจุบันของไทย เกี่ยวกับโรคระบาดไวรัสโคโรน่า หรือโควิด-19 ยังคงก่อความเดือดร้อนวุ่นวายไปทั่วทุกภูมิภาคอย่างไม่ปราณี แม้ว่าการควบคุมและป้องกันทางด้านสุขอนามัย จะดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 1 ปี แต่แล้วความร้ายกาจของตัวเชื้อไวรัสชนิดนี้ ที่เป็นอันตรายต่ออวัยวะปอด ในคนเรา ก็ไม่จบลงโดยง่าย เพราะยังสามารถแปรเปลี่ยนโครงสร้างของตัวเชื้อโรค ที่เรียกว่า " กลายพันธุ์ " ให้ส่งผลกระทบและทวีความรุนแรงขึ้นไปอีก ตามที่ได้เกิดขึ้นกับผู้คนที่ได้รับเชื้อ ในคลัสเตอร์ ต่างๆ ด้วยเหตุนี้ สิ่งหนึ่งที่จะหยุดยั้ง การแพร่กระจายของเชื้อโรคร้ายนี้ ก็คือ การให้วัคซีน ( Vaccination ) ซึ่งปัจจุบันจะมีอยู่ 2 ยี่ห้อหลัก ที่ได้นำมาใช้ฉีดให้กับพลเมืองไทย นั่นคือ ซิโนแวก ( Sinovac ) ซึ่งเป็นวัคซีนเชื้อตาย กำหนดให้ในผู้ที่มีอายุ 18 – 59 ปี โดยต้องได้รับวัคซีนทั้งหมด 2 ครั้ง ห่างกัน 2 – 4 สัปดาห์ กับ แอสตร้า เซนเนก้า ( AstraZeneca ) ซึ่งเป็นวัคซีนเชื้อเป็น กำหนดให้ในผู้ที่มีอายุ 18 – 59 ปี โดยต้องได้รับวัคซีนทั้งหมด 2 ครั้ง ห่างกัน 2 – 4 สัปดาห์ ประเด็น ในการได้รับวัคซีนโควิด-19 ให้ทั่วถึง ได้มีการตั้งเป้าหมายครอบคลุมร้อยละ 70 ของประชากร ภายในปี พ.ศ.2564 แต่เนื่องจาก ในช่วงที่มีจำนวนวัคซีนที่ไม่เพียงพอ อาจกำหนดให้วัคซีนในบุคคลกลุ่มที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ และกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ ที่ต้องปฏิบัติหน้าที่เป็นด่านหน้าทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงกลุ่มที่มีโรคประจำตัวรุนแรง ที่ต้องให้ความสำคัญก่อน ดังนี้ ผู้ที่มีโรคเรืื้อรัง 7 โรค เช่น โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรังระยะ 5 โรคหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวาน โรคอ้วน น้ำหนักเกิน 100 กก. โรคมะเร็งทุกชนิดที่อยู่ระหว่างการรักษาด้วยเคมีบำบัด รังสีบำบัด และภูมิคุ้มกันบำบัด ผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยจิตเวช ออทิสติก ผู้ที่ดูแลตัวเองไม่ได้รวมถึงผู้ดูแล ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโรคโควิด 19 เช่น อสม./อสต. ทหาร ตำรวจ จะต้องคัดกรองผู้ที่เข้ามาจากต่างประเทศและในพื้นที่ที่มีการระบาด ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ที่กำลังมีการระบาด แล้วถ้าถามว่า หลังฉีดวัคซีนโควิด 19 จะมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง คำตอบ จากการศึกษาวิจัยวัคซีนโควิด 19 แต่ละชนิด มักพบเป็นปฏิกิริยาเฉพาะที่ เช่น อาการปวด บวม แดงบริเวณที่ฉีดวัคซีน ซึ่งส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรงและสามารถหายได้เองโดยไม่ต้องใช้ยา แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าวัคซีนเหล่านี้จะได้รับการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยา ว่ามีความปลอดภัยและให้ใช้ได้แล้วก็ตาม แต่การฉีดวัคซีนเหล่านี้ก็ยังสามารถทำให้เกิดอาการแพ้รุนแรงได้ในอัตราที่แตกต่างกัน จึงจำเป็นต้องสังเกตอาการหลังการฉีดอย่างน้อย 30 นาทีในสถานพยาบาลหรือสถานที่ฉีดวัคซีนเสมอและเนื่องจากวัคซีนโควิด 19 เป็นวัคซีนใหม่และยังไม่มีข้อมูลการติดตามผลในระยะยาว หากผู้รับวัคซีนเกิดอาการไม่พึงประสงค์หรือไม่มั่นใจว่าอาการดังกล่าวเกิดจากวัคซีนหรือไม่ ควรแนะนำให้ผู้รับวัคซีนปรึกษาแพทย์เพิ่มเติม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรงและเกิดขึ้นในช่วง 4 สัปดาห์หลังฉีดวัคซีน (Adverse event following immunization) อีกหนึ่งคำถาม วัคซีนที่ฉีดแล้ว จะสามารถป้องกันไวรัสกลายพันธุ์ได้หรือไม่ .... วัคซีนที่ผลิตในปัจจุบันพัฒนามาจากไวรัสที่ระบาดในช่วงแรก จึงอาจทำให้ประสิทธิภาพ ในการป้องกันไวรัสกลายพันธุ์ได้ลดลง อย่างไรก็ดีผลกระทบของไวรัสกลายพันธุ์ต่อประสิทธิภาพของวัคซีนแต่ละชนิดจำเป็นต้องมีการศึกษาต่อไป อาจเป็นไปได้ว่าต้องมีการฉีดวัคซีนต่อไวรัสที่กลายพันธุ์ซ้ำในอนาคต โดยมีรายงานล่าสุดเกี่ยวกับ สายพันธุ์ใหม่ดังต่อไปนี้ :- - เอปไซลอน (Epsilon) ใช้เรียกสายพันธุ์ B.1.427/B.1.429 ที่ตรวจพบครั้งแรกในสหรัฐฯ - ซีตา (Zeta) ใช้เรียกสายพันธุ์ P.2 ที่ตรวจพบครั้งแรกในบราซิล - อีตา (Eta) ใช้เรียกสายพันธุ์ B.1.525 ที่ตรวจพบครั้งแรกในหลายประเทศ - ธีตา (Theta) ใช้เรียกสายพันธุ์ P.3 ที่ตรวจพบครั้งแรกในฟิลิปปินส์ - ไอโอตา (Iota) ใช้เรียกสายพันธุ์ B.1.526 ที่ตรวจพบครั้งแรกในสหรัฐฯ - แคปปา (Kappa) ใช้เรียกสายพันธุ์ B.1.617.1 ที่ตรวจพบครั้งแรกในอินเดีย โดยที่มาของชื่อที่เรียก แต่ละสายพันธุ์ เป็นการนำเสนอร่วมกันจากนักระบาดวิทยา ผู้นำด้านเทคนิคโรคโควิด-19 ขององค์การอนามัยโลก ( WHO ) ที่ว่า ไม่ควรกำหนดเป็นชื่อประเทศ เสมือนถูกกล่าวหาเป็นแหล่งกำเนิดเชื้อโรคร้าย พร้อมทั้งเรียกร้องให้นานาชาติช่วยกันสอดส่องและแบ่งปันข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสชนิดนี้ หรือแม้แต่ ที่ได้มีการระบุว่า ได้เกิดมีสายพันธุ์ไทย ขึ้นมาด้วยนั้น แต่ทางกระทรวงสาธารณสุขไทย ก็ได้ชี้แจงกลับไปว่า ตรวจพบเพราะ ผู้ติดเชื้อได้นั่งเครื่องบินกลับมาจากประเทศหนึ่งในทวีปแอฟริกา เป็นเช่นนั้น ขอขอบคุณ ภาพปก จาก Markus Spiske โดย Pexels ภาพประกอบ 1 Cuttonbro โดย Pexels ภาพประกอบ 2 Tuur Tisseghem โดย Pexels ภาพประกอบ 3 Artem Podrez โดย Pexels ================ ตามติดบทความดีๆ เทรนด์โดนๆ และอัปเดตหนังพร้อมกับซีรี่ส์สุดปัง ของคุณได้แล้วที่ แอปทรูไอดีคลิกเลย >> TrueID App << ฟรี