ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกแม้จะฟังดูห่างไกลแต่ก็ส่งผลกระทบต่อทุกคนบนโลก เพราะน้ำมันเป็นต้นทุนการขนส่งสินค้าทุกประเภทบนโลกใบนี้ และยิ่งดูใกล้ตัวมาขึ้นไปอีกหากบอกว่าน้ำมันดิบนี้เองที่เป็นต้นทุนการเดินทางของเราทุกคนด้วยเช่นกัน หลังจากเหตุความไม่สงบในตะวันออกกลางที่เกิดความขัดแย้งขึ้นระหว่างสหรัฐและอิหร่านเมื่อต้นปี ราคาน้ำมันดิบได้พุ่งทะยานขึ้นไปทำจุดสูงสุดอยู่ที่ 65.65 เหรียญสหรัฐ/บาเรล แต่หากมองดูราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเมื่อวันศุกร์ที่ 6 มีนาคม 2020 ที่ผ่านมานี้ กลับบ่งบอกราคาซื้อขายเมื่อสิ้นวันอยู่ที่ 41.05 เหรียญสหรัฐ/บาเรลเท่านั้น เป็นการลงลงถึง 24.60 เหรียญสหรัฐ/บาเรล หรือกว่า 37% ภายในเวลาแค่สองเดือนเท่านั้น เกิดอะไรขึ้นกับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ปีนี้คนไทยจะได้ใช้น้ำมันราคาถูกหรือไม่ ลองมาพิจารณาปัจจัยที่เกี่ยวข้องกัน Cr: Investing การที่ราคาน้ำมันดิบถีบตัวสูงขึ้นในช่วงต้นปีนั้นเป็นด้วยปัจจัยพิเศษที่นักลงทุนต่างคาดการณ์กันว่าอาจเกิดเป็นสงคราม แต่ความกังวลนั้นสลายไปอย่างรวดเร็วเมื่อประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ประกาศว่าความขัดแย้งนี้จะไม่ยืดเยื้อ ทำให้ราคาน้ำมันตกกลับลงมาที่จุดเดิมทันทีที่ความกังวลเรื่องความไม่สงบในตะวันออกกลางนั้นหายไป แต่ตลาดน้ำมันดิบไม่ได้เผชิญแค่เรื่องความไม่สงบในตะวันออกกลางเท่านั้น ปลายเดือนมกราคมประเทศจีนได้ประกาศการติดเชื้ออุบัติใหม่ซึ่งป็นไวรัสโคโรน่า ก่อให้เกิดความเจ็บป่วยกระจายเป็นวงกว้างจนต้องสั่งปิดเมืองต้นตอของโรคนี้อย่างเร่งด่วน ข่าวนี้ไม่เพียงกระทบต่อประเทศจีนเท่านั้น แต่ยังก่อให้เกิดความตื่นตระหนกไปทั่วโลกอีกด้วย จากการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสตัวนี้สถาบันทางเศรษฐกิจจากหลาย ๆ แห่งได้ออกมากล่าวตรงกันว่าจะกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกอย่างแน่นอน ซึ่งกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่น้อยลงจะมีผลต่อความต้องการบริโภคน้ำมันด้วยเช่นกัน ปลายเดือนมกราคมราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจึงเริ่มปรับตัวลดลงอีกครั้ง Cr: Unsplash ความโชคร้ายในตลาดน้ำมันดิบโลกยังไม่หมดเพียงแค่นั้น เมื่อล่าสุดซาอุดิอาระเบีย ผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกได้ประกาศตัดราคาขายน้ำมันลง และคาดว่าจะมีการเพิ่มกำลังการผลิตขึ้น ซึ่งเป็นการตัดราคาขายของประเทศผู้ผลิตน้ำมันแห่งอื่น ๆ ในโลก หลังจากข่าวได้เผยแพร่ออกมาราคาน้ำมันดิบได้ร่วงลงอย่างรุนแรงถึง 9.35% ภายในวันเดียว (6 มีนาคม 2020) และลงมาปิดอยู่ที่ราคา 41.05 เหรียญสหรัฐ/บาเรล ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำที่สุดในรอบเกือบ 4 ปีทีเดียว สิ่งที่น่าสนใจคือปัจจัยลบต่าง ๆ ที่กดดันราคาน้ำมันดิบอยู่ในขณะนี้ ไม่มีปัจจัยใดเลยที่คาดว่าจะคลี่คลายลงไปในระยะเวลาอันสั้น ทั้งยังไม่อาจคาดเดาปัจจัยบวกอื่น ๆ ที่จะเข้ามาสนับสนุนราคาน้ำมันดิบได้อีกด้วย อย่างน้อยก็ในปีนี้ ประชากรโลกและคนไทย น่าจะได้อานิสงส์จากเหตุการณ์เหล่านี้ทำให้ได้ใช้น้ำมันในราคาถูกกันบ้าง Cr: Unsplash ตลอดช่วงที่ผ่านมาเราต่างรู้ดีว่าน้ำมันราคาถูกจะทำให้ราคาของต่าง ๆ ถูกลง โดยเฉพาะค่าเดินทาง ทำให้เหลือเงินไปจับจ่ายใช้สอยอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ แต่การปรับลดลงของราคาน้ำมันในคราวนี้อาจไม่ได้มาพร้อมกับข่าวดีแบบนั้น เพราะปัจจัยต่าง ๆ ที่กดดันราคาน้ำมันดิบอยู่ อย่างการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก อาจทำให้ในปีนี้คนไทยได้ใช้น้ำมันราคาถูก แต่ในเงื่อนไขของภาวะเศรษฐกิจที่ไม่สู้ดีนัก