วันที่ 1ทริปนี้พวกเรากะว่าจะติดต่อโรงแรมที่เดียว แล้วให้โรงแรมช่วยประสานงานบ.ทัวร์เพื่อจองรถตู้รับส่งสนามบินสงขลา จองเรือรับส่งท่าเรือปากบาราและเกาะหลีเป๊ะ และทริปดำน้ำให้เลย จะได้สะดวก ได้แพ็คเกจ 4 วัน 3 คืน จากโรงแรม กทลี บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา ราคารวม 6650 บาทต่อคน เราบินจาก กทม.ไปลงสนามบินสงขลา แผนที่ ทางทัวร์บอกว่าให้บินลงก่อน 8.30 ไอ้เราก็เลือกไฟล์ทลงตอน 7.50 ปรากฏว่าบ.ทัวร์นี้ประสานงานได้ห่วยมาก รถตู้ไปรอรับลูกค้าคนอื่นที่โรงแรมนานมาก และคนขับรถตู้ก็ไม่มีเบอโทรลูกค้าคนนั้น กว่าเขาจะลงมากว่าจะเช็คเอ๊าก็เกือบ ชม. กว่าจะมารับเราที่สนามบินคือ 9.30 คือเรารอที่สนามบิน 1.5 ชม.!!! โดยเราต้องโทรตามบ.ทัวร์เอง โดยเขาไม่มีการโทรบอกเลยว่ารถตู้ถึงไหนแล้ว ทั้งที่น่าจะให้เบอลูกค้ากับคนขับรถตู้ไว้โทรตาม ไอ้เราก็นั่งชะเง้อคอรอเง็กไป ถ้าเขาแจ้งว่าจะมารับเวลา 9.30 แต่แรก เราก็จะเลือกไฟล์ทที่ไปถึงประมาณ 9.00 และจะได้ไม่ต้องแหกขี้หาตื่นมา 04.30 เพื่อเตรียมไปสนามบินเพราะเครื่องออก 6.20น. !!! พวกเราโมโหมาก ได้ต่อว่าจนท.บ.ทัวร์ไปแล้ว เค้าก็ขอโทษ แต่เราคงไม่ใช้บริการทัวร์นี้อีก ค่ารถรับส่งสนามบินหาดใหญ่-ท่าเรือปากบารา 250 ต่อคน ใช้เวลาบนรถตู้ประมาณ 1.5 ชม. ถึงท่าเรือปากบารา แผนที่ พอไปถึงท่าเรือปากบารา จนท.จากบ.ทัวร์ก็มารับและพาไปนั่งรอตรงโซนของบ. และให้บัตรคิวสำหรับขึ้นสปีดโบ๊ทมา ใช้เวลารอขึ้นเรือประมาณ 30 นาที ค่าเรือสปีดโบ๊ท 600 บาทต่อคน และต้องจ่ายเพิ่ม 40 บาทค่าเข้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา (ต้องเก็บบัตรไว้เพราะต้องใช้อีกตอนไปที่เกาะอื่นๆด้วย ตอนแรกเราก็เข้าใจผิดนึกว่าใช้แค่วันแรกที่เกาะตะรุเตา) ถ้าใครเดินทางมาท่าเรือเอง ก็มาซื้อทัวร์เอาที่นี่เลยก็ได้ มีบ.ทัวร์ให้เลือกเยอะมากๆ สปีดโบ๊ทที่บ.ทัวร์ติดต่อไว้ ชื่อ พลอยสยาม เรือออก 11.30 ถ้าวิ่งตรงไปเกาะหลีเป๊ะเลยจะใช้เวลา ประมาณ 1.5 ชม. แต่ตอนขาไปจะมีแวะให้ขึ้นบกถ่ายรูป 2 จุด คือ ที่เกาะตะรุเตา และเกาะไข่ ที่ละประมาณ 15-20 นาทีจุดแรก ที่เกาะตะรุเตา แผนที่ เราว่าบรรยากาศน่าพักค้างคืนนะ ดูเงียบสงบ (เฉพาะช่วงไม่มีเรือนักท่องเที่ยวมาลง 555)เกะไข่ แผนที่ กับมุมยอดฮิต ซุ้มประตูหินธรรมชาติ ถ้าอยากถ่ายแบบไม่ติดคนอื่นต้องรอจังหวะที่คนเรือเรียกกลับขึ้นเรือ แล้วถ่ายโชะๆๆแบบสายฟ้าแล่บ เป็นกลุ่มสุดท้าย แต่อย่าให้ห่างจากคนรองสุดท้ายที่ขึ้นเรือมาก เพราะคนบนเรือจะต้องนั่งรอดมควันเครื่องยนต์กลางอากาศร้อนระอุ เราเริ่มปวดหัวตรงจุดนี้เพราะลงเรือไปเจอแดดร้อนจัดกะทันหัน ร่างปรับไม่ทัน ดีที่พกฟ้าทะลายโจรไป ในที่สุดก็มาถึงเกาะหลีเป๊ะ แผนที่ จากท่าเรือ มีรถของโรงแรมมารับ (ชูป้าย) เป็นรถกะบะเล็ก (สีเขียวในรูป) ทางไปโรงแรมจะผ่านถนนคนเดินซึ่งเป็นถนนเลนเดียว และมีนักท่องเที่ยวเดินตลอด รถต่างๆ ที่มีเยอะก็มอเตอไซค์พ่วงข้าง ก็ต้องคอยหลบหลีกกันเอง เลยใช้เวลาหน่อย และก่อนถึงโรงแรมต้องขึ้นเขาก่อนแล้วค่อยลงเขามาเจอหาดทราย โรงแรมก็อยู่หน้าหาดนี่เอง ถึงโรงแรมประมาณ 3 โมง เห็นหาดทรายขาวสวย เลยรีบเก็บของที่ห้องพักแล้วก็มาลองพายเรือแคนูเล่นกันเลย เป็นเรือที่วางไว้ริมของโรงแรม วางไว้ริมหาด ใครอยากเล่นก็เล่นได้ฟรี มีเสื้อชูชีพ หน้ากากดำน้ำ ตีนกบและผ้าขาวม้ารองนอนไว้บริการฟรีด้วย ปรากฏว่าเราก็พายตุปัดตุเป๋ คว่ำจนได้ แต่ก็สนุกดี พอลองอีกรอบก็ไม่ยาก คืออยากไปขวาก็พายฝั่งซ้าย คือพายฝั่งตรงข้ามที่เราอยากจะไป ก็พายได้คล่องขึ้นเลยตอนตั้งสติใหม่ ค่าห้องพักโรงแรมกทลี บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา คือคืนละ 2500 บาทต่อห้อง พักได้ 2 คน รวมอาหารเช้า เครือโรงแรมนี้มี 4 โรงแรม แบบถูกกว่านี้คืออยู่ที่ถนนคนเดิน ไม่ติดชายหาด แต่รอบนี้พวกเราเลือก กทลี เพราะอยากชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่ชายหาดหน้าโรงแรม ห้องพักเห็นวิวทะเลแค่ตามช่องที่ต้นไม้ไม่บัง!! เพราะเค้าทำหลังคาแบบเพิงหมาแหงนทำให้บังวิวหมด ข้อเสียคือโรงแรมนี้มีแต่ห้องเตียงเดี่ยวที่เราไม่ปลื้ม เพราะต้องดึงแย่งผ้าห่มกันตอนนอน โชคดีคุยกับพนง.โรงแรมก่อนมาพักว่า ขอผ้าห่มเพิ่มอีกผืนละกัน เค้าก็ใจดีอนุมัติให้ฟรี ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม ห้องมีตู้เซฟและมีเก้าอี้นอนให้นอนตรงระเบียงได้เผื่ออยากอาบแดด มีราวตากผ้าด้วย แต่ตากไม่พอเลยตากตรงราวระเบียงด้วยโดนแดดแห้งดี สิ่งที่ไม่ประทับใจ คือแม่บ้านไม่ให้ทิชชูไว้ 2 วันติดกัน!! ไปแจ้งที่ล็อบบี้ 2 ครั้งก็เพิ่งจะได้วันที่ 3 ก่อนจะกลับตอนเย็นพวกเราใช้บริการฟรีของรถโรงแรม ไปส่งที่ถนนคนเดิน (มีรับส่งช่วงเย็น 18.00-20.00) เพื่อกินอาหารเย็นที่ร้าน papaya mom อาหารอร่อยใช้ได้กิน 4 คน 1150 บาท ราคาแบบแหล่งท่องเที่ยวจากนั้นเดินเล่นถนนคนเดินเพื่อรอเวลาที่รถโรงแรมจะมารับกลับวันที่ 2กินอาหารเช้าที่โรงแรม มีให้เลือกเป็นชุดแบบฝรั่ง (ไข่ดาวหรือออมเล็ต กับ ไส้กรอก เบคอน) คนละ 1 จาน ที่ไปตักแบบบุฟเฟ่ คือขนมปังปิ้ง ซีเรียลคอนเฟลก กาแฟ ผลไม้มี กล้วย แตงโม แนะนำให้หยิบกล้วยไปเผื่อหิวตอนดำน้ำด้วยวันนี้ดำน้ำเกาะรอบใน 4 จุด และ แวะถ่ายรูปที่เกาะหินงาม 1 จุด ค่าทริปดำน้ำเกาะรอบใน 550 บาทต่อคน คนเรือและคนนำทัวร์เป็นคนเดียวกัน ชื่อคุณจัสติน มารับตอน 9.00 วันนี้เขาจอดเรือหางยาวไว้ไกล เขามาขี่มอเตอไซค์พ่วงข้างมารับที่โรงแรมแล้วไปส่งที่ใกล้ๆเรือจอด ในเรือมีเสื้อชูชีพและหน้ากากดำน้ำไว้บริการด้วย ข้อควระวังกรณีต้องการกระโดดจากเรือลงทะเลเลย คือต้องใช้มือกำหน้ากากดำน้ไว้แน่นๆ ไม่ควรสวมหัวเพราะอาจหลุดตอนจังหวะที่กระแทกน้ำ ทริปนี้มีพวกเราคนไทย 4 กับฝรั่งอีก 4 คุณจัสตินเป็นคนตัวเล็กแต่แข็งแรงมาก ให้พวกเรา 3 คน เกาะห่วงยาง แล้วเขาก็ลากพาไปชมปะการังตามจุดสวยๆน่าชมต่างๆทั้งทริปเลยและใช้กล้อง gopro ถ่ายรูปใต้น้ำให้พวกเราและฝรั่ง และส่งไลน์ให้โรงแรมภายหลังด้วย (โรงแรมส่งไลน์ต่อให้พวกเราทีหลัง) ส่วนฝรั่งนั้นดำน้ำคล่องไม่ใช้ชูชีพเลย อาหารกลางวันจะเป็นข้าวผัดไก่ใส่กล่อง และ ผลไม้คือแตงโมซึ่งคุณจัสดินหั่นเป็นทรงโค้งอยากสวยงามแปลกตาเสร็จจากดำน้ำ คุณจัสตินมาส่งที่หน้าหาดโรงแรมประมาณบ่าย 3 พวกเราก็นั่งชมวิวริมหาดหน้าโรงแรมแป๊ปนึง แต่เพื่อนคนนึงเหยียบไปโดนเศษแก้ว ที่คนชุ่ยๆหรือเมาทิ้งเอาไว้เป็นแผลเลือดออก เลยขออุปกรณ์ทำแผลจากโรงแรมแล้วอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ตอนแรกว่าจะเดินกันไปที่หาด zodiac เพราะไม่ไกลมากจากหาดโรงแรม แต่เพื่อนเจ็บ เลยเรียกวินมารับ คนละ 50 บาท นั่งตรงรถพ่วงได้คันละ 2 คนเพราะต้องใช้กำลังเยอะในการขึ้นลงเขามาถึงหาด zodiac ให้วางของจองที่นั่งไว้ตรงที่เขาจะโชว์ควงกระบองไฟ ที่นั่งจะเป็นเบาะผ้าวางบนทราย จากนั้นก็ไปกินอาหารเย็นร้าน zodiac seesun and restaurant ราคาก็สไตล์แหล่งท่องเที่ยว อาหารจานเดียวจานละ 100 อัพโชว์ควงกระบองไฟเริ่มประมาณ 19.00 มั้งจำไม่ได้ เหมือนคนโชว์จะเน้นไปเอ็นเตอร์เทนใกล้ๆ กับฝรั่ง พวกเราดูได้ประมาณ 30 นาทีก็กลับก่อน เพราะเพื่อนเค้าเหม็นกลิ่นน้ำมันก๊าด่โชคดีโทรเรียกรถโรงแรมมารับที่หาด zodiac ได้ ไม่ต้องเสียตังวันที่ 3กินอาหารเช้าเสร็จ ก็รอเรือมารับตอน 9.30 วันนี้คุณจัสตินมาจอดเรือใกล้หาดโรงแรมได้ เลยขึ้นเรือตรงหาดเลยวันนี้ดำน้ำเกาะรอบนอก 7 จุด และ แวะถ่ายรูปที่เกาะหินงาม 1 จุด ค่าทริปดำน้ำเกาะรอบใน 650 บาทต่อคน มีจุดซ้ำกับเมื่อวานคือ ดำน้ำร่องน้ำจาบังกับเกาะหินงาม วันนี้มีพวกเราคนไทย 4 คนกับฝรั่ง 3 คน แวะกินอาหารกลางวันที่เกาะดง (อ่าวลิง) แต่ไม่เห็นลิงซักตัว อาหารก็เป็นข้าวผัดไก่ใส่กล่อง และ ผลไม้คือแตงโมเหมือนเดิมเสร็จจากดำน้ำประมาณ 14.30 พวกเราก็อาบน้ำ พักผ่อน และมารอรถโรงแรมเวลา 18.00 เพื่อไปถนนคนเดินกินข้าวเย็นที่ร้านไทยเดิม ที่พนง.โรงแรมแนะนำ คือ เป็นอาหารไทยที่อร่อยเว่อร์ เครื่องแกงถึงเครื่องถึงพริกถึงขิง อร่อยทุกเมนูที่สั่ง วันที่ 4 ตื่นแต่เช้า 05.30 เพื่อมาถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้นหน้าหาดครั้งสุดท้าย และกินข้าวเช้า 7.00 รอรถโรงแรมไปส่งท่าเรือ เพื่อขึ้นสปีดโบ๊ท ตอน 9.30 ไปท่าเรือปากบารา ที่ท่าเรือปากบาราก็ไปนั่งรอตรงบ.ทัวร์ รอประมาณ 30 นาทีถตู้ก็มารับ ใช้เวลาอีกประมาณ 1.5 ชม.ก็ถึงสนามบินสงขลา แต่เพื่อนจองไฟล์ทเลทกว่าเรา เลยเหมารถไปช็อปปิ้งที่ตลาดกิมหยงกันต่อ ก่อนมาส่งสนามบินอีกครั้ง ทางบ.ทัวร์คิดค่าบริการเพิ่ม 300 บาท จบทริปโดยสวัสดิภาพสรุปค่ารถรับส่งสนามบิน + เรือสปีดโบ๊ท + ค่าเข้าอุทยานแห่งชาติตะรุเตา + ค่าโรงแรม + ค่าทัวร์ดำน้ำ 6690 บาทต่อคน (ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบินและค่าอาหารเย็น)ภาพทั้งหมดโดย MM กำลังหาที่เที่ยวหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !