จริงตามหัวข้อเรื่องเลย ทริปเดียวไม่พอแน่ หลังจากกลับมายังคงศึกษาอินเดีย ดูหนังอินเดียเพิ่มเติมเพื่อเข้าใจชีวิตความเป็นอยู่ของคนอินเดีย ต่อด้วยประวัติศาสตร์อินเดียอีกยาวๆไปนี้เป็นแค่ฉบับย่อให้เห็นภาพว่าอินเดียนั้นสวยงามกว่าที่คิดตัดสินใจร่วมก๊วนทัวร์ส่วนตัวไปเที่ยวประเทศอินเดีย ในช่วงเดือนมกราคม เป็นช่วงเดือนที่อากาศกำลัง เย็นสบาย ประมาณ 10-15 องศา เหมาะกับการเที่ยวประเทศอินเดียมากๆเลย เคยคิดถึงอินเดียแต่ในสภาพอากาศร้อนๆ ทำให้ไม่ค่อยได้เปิดใจศึกษาการท่องเที่ยวของอินเดียเท่าไรนัก ประเทศอินเดีย เป็นประเทศที่...สำหรับคนที่เคยไปมาแล้วจะบอกว่า สวยมาก อาหารอร่อยมาก ห้องน้ำไม่แย่ ส่วนเราเพิ่งเปิดใจ และก็โชคดีที่ได้ไปทริปแรกก็ติดใจเลย อินเดียนั้นยิ่งใหญ่ สวยงาม มีประวัติศาสตร์ยาวนานหลังจากจองตั๋วเครื่องบิน ทำวีซ่า ตรวจโควิดก่อนบิน (ช่วงนั้นยังบังคับให้ตรวจก่อนบินอยู่) ก็เตรียมออกเดินทางได้ การเดินทางจากกรุงเทพฯ บินตรงไปลงที่สนามบินเดลี ใช้เวลาบินประมาณ 4 ชั่วโมงทริปนี้เป็นการเดินทาง 8 วัน 7 คืน โดยเริ่มจาก เดลี ไปยังจุดหมายปลายทางของเราคือ รัฐราชาสถาน (Rajasthan) เมืองแห่งราชา เป็นรัฐที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอินเดีย ติดกับประเทศปากีสถานกัด https://goo.gl/maps/BucbkA6fTMnioqLVA ราชาสถานนั้นเป็นเมืองที่มีความรุ่มรวย มีพระราชวังที่ยิ่งใหญ่และสถาปัตยกรรมที่งดงาม มีประวัติศาสตร์อันยาวนานขอย้อนกลับไปซัก 500 ปีก่อน อินเดียยังไม่รวบเป็นประเทศเหมือนในปัจจุบัน ตรงดินแดนที่เป็นรัฐราชสถาน ในอดีตนั้นมีการสู้รบแก่งแย่งดินแดนกันมาตลอด ทำให้รัฐราชาสถาน เมืองแห่งราชา ในสมัยที่ราชบุตร (บุตรของราชา พระราชาก็มีราชบุตรหลายพระองค์) ปกครองเมืองก็ปกครองเมืองด้วยความแข็งแกรง มีการสู้รบมาโดยตลอด จนกระทั่งพวกมองโกลบุกตีเมืองราชสถานและยึดเมืองได้สำเร็จ และเป็นจุดเริ่มของราชวงศ์โมกุล (ระหว่างปี ค.ศ. 1526-1858) ที่มีการสร้างพระราชวัง ป้อมปราการมากมาย มีป้อมปราการที่แข็งแกรง มีความซับซ้อน และราชวงศ์โมกุลได้ขยายเขตการปกครองบริเวณอินเดียตอนเหนือ และตอนใต้ จนกระทั่งอังกฤษเข้ายึดครองอินเดียเป็นเมืองขึ้น (ระหว่างปี ค.ศ. 1858-1947) ชมชลาคาร (บ่อน้ำขั้นบันได) ที่เก่าแก่ที่สุด ใหญ่ที่สุด ลึกที่สุด ในราชาสถานพิกัด https://goo.gl/maps/d7zhLhdmsEL1oRZu8เมือง Abhaneri เป็นเมืองที่เราต้องไปชม ชลาคาร (Stepwell) หรือ บ่อน้ำขั้นบันได เป็นการสร้างบ่อน้ำพร้อมกับอาคารที่ลึกลงไปในใต้ดิน ในอดีตนอกจากเป็นสถานที่กักเก็บน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้งแล้ว ยังเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชนทั่วไปอีกด้วย แต่หลังจากการยึดครองของอังกฤษก็หมดความนิยมไป เพราะคนอังกฤษเกรงว่าจะเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคจึงห้ามประชาชนเข้าใช้ชลาคารทุกแห่ง ชลาคารจึงถูกทิ้งร้างและน้ำก็เน่าเสียไป ชมพระราชวังในเมืองจัยปูร์ (Jaipur) เมืองหลวงของรัฐราชาสถานพิกัด https://goo.gl/maps/Yh9pfkBLvKSSZBF98จัยปูร์ หรือ ชัยปุระ (Jaipur) เป็นเมืองหลวงของรัฐราชาสถาน เป็นเมืองสีชมพู (Pink City) พระราชวังสร้างด้วยดินทรายสีสีแดงชมพู เพื่อต้อนรับเจ้าชายแห่งอังกฤษที่เสด็จมาเยือน ในปี 1863 พระราชวังสายลม (Hawa Mahal) ก็เป็นอีกจุดที่ทุกคนต้องมาแวะถ่ายรูปกัน เพราะความงานของช่องหน้าต่าง ที่ให้นางในที่อยู่ในวังได้มีโอกาศเห็นผู้คนนอกวังผ่านบานหน้าต่างกัน เพราะเมื่อเป็นนางในแล้วก็ออกมานอกวังไม่ได้ แล้วห้ามคนอื่นเห็นหน้าอีกด้วย หน้าต่างจึงมีบานเล็กๆ มีหลายชั้นตามศักดิ์ของเจ้านายผู้หญิงในวัง ป้อมอาเมร์ (Amber Fort) เป็นป้อมปราการที่สำคัญของราชาสถานเลย ตั้งอยู่บนเขา นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมป้อมโดยการนั่งช้างขึ้นไป เหมือนมหาราชากำลังเข้าพระราชวังเลยทีเดียว ภายในป้อมมีความยิ่งใหญ่ มีความซับซ้อนเพื่อป้องการบุกรุกจากข้าศึกชมบรรยากาศเมืองศักดิ์สิทธิ และเข้าพักในวัง ที่ พุชการ์ พิกัด https://goo.gl/maps/kXdQbK1JuNqrEmQZ8พุชการ์ (Pushkar) เมืองศักดิ์สิทธิ์ เมืองนี้จะมีวัดอยู่มากมาย เป็นเมืองที่ชาวฮินดูและชาวซิกข์เดินทางมาเพื่อแสวงบุญ เมืองนี้จึงเป็นเมืองต้องห้ามของเนื้อสัตว์ และไข่ น้ำในทะเลสาบพุชการ์นี้เป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ใช้ในการประกอบพิธีทางศาสนา การจะลงไปใกล้ทะเลสาบต้องถอดรองเท้าก่อน ส่วนที่พักเป็นวังเก่าที่มีวิวทะเลสาบพุชการ์ที่งดงามมาก ร้านอาหารทุกร้านในเมืองนี้จะไม่มีเนื้อสัตว์เลย การเที่ยวเมืองนี้เลยได้บุญไปในตัวเพราะไม่ได้ทานเนื้อสัตว์เลยล่องเรือในทะเลสาบ นั่งตุ๊กตุ๊กเที่ยวป้อมปราการ ที่ อูไดปูร์ (Udaipur)พิกัด https://goo.gl/maps/neQEvwPnW3tzA5QD6อุไดปูร์ (Udaipur) เป็นเมืองทะเลสาบ มีพระราชวังกลางน้ำอยู่ในทะเลสาบพิโคล่า (Pichola Lake) ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาล่องเรือชมพระอาทิตย์ตกดินกัน งดงามมาก และชมพระราชวังกลางน้ำที่ที่สวยงามChittorgarh Fort เป็นป้อมปราการที่ยิ่งใหญ่มาก ใหญ่ที่สุดในประเทศอินเดีย เนื่องจากทางขึ้นป้อมนี้ค่อนข้างคดเคี้ยว และเป็นทางขึ้นเขา รถใหญ่ขึ้นไม่สะดวก ฉะนั้นที่พาหนะที่คล่องตัวที่สุด ก็คือรถตุ๊กตุ๊ก หรือสามล้อแบบที่เมืองไทยนั่นเองข้างบนป้อมยิ่งใหญ่มาก มีทั้งวัดฮินดู ที่ผู้คนยังมากราบสักการะกันมากมาย บ่อน้ำมีที่ไว้ใช้ในป้อมแห่งนี้ มีพระราชวัง มีวังที่จัดเป็นร้านอาหารสำหรับนักท่องเที่ยว City Palace ที่อยู่ริมทะเลสาบ Pichola เป็นพระราชวังที่ใหญ่และงดงามมาก มีพระอาทิตย์เป็นสัญญาลักษณ์ และเป็นที่เคารพตามหลักศาสนาฮินดู อาหารอินเดียอาหารที่อินเดีย เราเลือกทานแต่ในร้านอาหาร หรือ โรงแรมเพื่อความหลากหลาย มีให้เลือกหลายชนิด เครื่องเทศไม่แรงอย่างที่คิด อาหารถูกปากเลยที่เดียว ที่ขึ้นชื่อและชอบมากคือ ปานิปุรี แกงไก่ทานคู่กับโรตี อร่อยมาก อาหารตามโรงแรมก็มีให้เลือกหลากหลาย อาหารยุโรป อาหารจีน สำหรับคนที่ทานยากก็ไม่ลำบากแน่ที่พักอินเดีย ที่พัก ห้องน้ำ ไม่มีปัญหาเลยในทริปนี้ เป็นโรงแรมประมาณ 4 ดาว อยู่ได้สบาย ห้องน้ำตามทางระหว่างเดินทาง ก็สะดวกเพราะส่วนใหญ่จะแวะเข้าตามร้านอาหารใหญ่ หรือ โรงแรม ซึ่งจะมีคนทำความสะอาดห้องน้ำเสมอซึ่งเขาก็คาดหวังทิปจากพวกเรา อย่าลืมพกแบงค์ย่อยกันไปด้วยนะก็สวยงาม สะดวกสบายขนาดนี้ไม่ให้หลงเสน่ห์อินเดียได้ยังไง ใครมีทริปดีๆที่อินเดียแนะนำกันมาหน่อยนะ เครดิตภาพ : TANTAWAN#ราชาสถาน #อินเดีย #เที่ยวอินเดีย #ชัยปุระ #จัยปูร์ #อูไดปูร์ #เดลี #ทัชมาฮาล #ปานิปุรี #อาหารอินเดีย #อาหารแขก #ฮินดู #ป้อมปราการ #พระราชวังอินเดีย #Rajasthan #Amber Fort #Jaipur #Udaipur #Pushkar #Pichola #Lake #Palace #Chittrogarh Fort #City Palaceอยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !