ความเชื่อและความศรัทธามักจะมาควบคู่กัน ถ้าเมื่อไหร่ที่คนเรานั้นเชื่อ ไม่ว่าต่อให้กี่ล้านคนมาพูดโน้มน้าว ใจก็จะยิ่งแข็งยิ่งกว่าก้อนหิน ความเชื่อและความศรัทธาบางครั้งก็ทำให้คนเรามีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างมีความสุข ความหวังที่จะอยู่ดูโลกนี้ต่อไปนานๆย่อมมีในใจของคนเรา แม้ว่าร่างนั้นจะโรยร่วงเหมือนกลีบดอกไม้ก็จะยิ่งหาทางที่ทำให้ตนเองนั้นดูดี สิ่งไหนที่ว่าดี ว่าเหมาะสมและพอที่จะหามาได้ ก็จะตามล่าจนพบมัน เหมือนในครั้งนี้จะพาทุกคนเดินทางไปยังสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งมีความเชื่อในเรื่องของน้ำมันทิพย์ช่วยรักษาโรคปวดข้อ ปวดแข้งปวดขา เหนื่อยชาตามตัว ที่หญิงชราท่านหนึ่งได้เล่าให้ฟังว่าช่วยบรรเทาอาการปวดตามตัวจนหายขาดไป ตั้งแต่ได้ซับน้ำมันที่ไหลออกมาตามตัวของพระพุทธรูป ซึ่งมีชื่อว่าพระองค์ดำ การเดินทางเพื่อ ไปสักการะในสถานที่แห่งนี้ ไม่ยากนัก แต่การเดินทางเข้าไปนั้นต้องนั่งเกวียน เข้าไปประมาณหนึ่งกิโลเมตร ผ่านหมู่บ้านเพื่อสักการะ ซึ่งคนที่เข้าไปกราบนั้นก็จะลูบและซับตามตัวของพระพุทธรูปที่เชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์นั้น นำมาประคบตามตัวที่มีอาการเจ็บปวด ซึ่งคนที่จะซับได้และเข้าใกล้จะต้องเป็นชาย หลวงพ่อองค์ดำแห่งศรัทธาชาวพุทธ หลวงพ่อองค์ดำศักดิ์สิทธิ์องค์นี้ อยู่ที่นาลันทา แคว้นมคธ ประเทศอินเดีย เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อในเรื่องของพระพุทธรูปองค์ดำที่ศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก ซึ่งพระพุทธรูปนี้จะเป็นพระพุทธรูปปรางค์ มารวิชัย ซึ่งท่านั่งขัดสมาธิ พระพุทธรูปองค์ดำนี้ เป็นพระพุทธรูปองค์เดียวที่เหลือรอดอยู่และมีความสมบูรณ์ ไม่ถูกข้าศึกทำร้ายให้ได้รับความเสียหาย และที่โชคดีกว่านั้นคือไม่ถูกประเทศอังกฤษยึดไป พระพุทธรูปองค์นี้ใหญ่และเก่าแก่ที่สุด และศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ที่ถ้าหากว่าใครที่เดินทางไปแสวงบุญที่ประเทศอินเดีย คงพลาดไม่ได้ที่จะเข้าแวะสักการะก่อนที่จะเดินทางต่อ การสักการะ การสักการะเป็นการแสดงความเคารพศรัทธา และมีจิตใจที่ใสสะอาด โน้มกายและใจให้กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าด้วยความเลื่อมใส และเชื่อว่าสิ่งดีๆจะตามมา ในสถานที่พระองค์ดำนาลันทาประดิษฐานอยู่นั้น ผู้หญิงสามารถนั่งกราบทางด้านนอก ซึ่งไม่สามารถเข้าไปด้านในได้ ซึ่งส่วนมากจะเป็นพระสงฆ์เพราะสถานที่จำกัด การไหว้อาจจะไหว้ด้วยดอกไม้ ธูปเทียน กราบด้วยใจได้ทั้งหมด การเดินทางเข้าสักการะ เนื่องจากสถานที่แห่งนี้ต้องเดินทางเข้าหมู่บ้าน โดยระยะทางเกือบสองกิโล การจะเดินเท้าเข้าไปนั้นต้องใช้เวลา และกำลัง และในตอนนั้นที่เดินทางไป มีผู้สูงอายุจำนวนมาก และมีเวลาจำกัดจึงต้องใช้พาหนะในการช่วยเร่งเวลา ซึ่งในประเทศอินเดีย ก็จะมีเกวียนลาก ลักษณะเหมือนที่ในหนังอินเดียเห็นนั่งกันบ่อยๆ ซึ่งครั้งนี้เราก็ได้นั่งกัน ซึ่งถ้าหากเรานั้นเดินไปกลับ จะใช้เวลานานอาจจะค่ำได้ และถนนหนทางในตอนนั้นยังเป็นถนนดินแดง ที่ไม่สะดวกสบาย จึงไม่เหมาะที่จะเดิน ระหว่างทางเข้าไปจะมีเด็กๆขอทานจำนวนมากด้วย เพราะสถานที่นี้เป็นสถานที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้าน ชาวบ้านหนาตา ถ้าเดินคงจะไม่เดียวดายเพราะจากสองอาจจะกลายเป็นสิบ ขณะที่เรานั่งรถม้าลากยังมีขอทานสองสามคนปีนขึ้นมานั่งด้วย จนต้องไล่แล้วไล่อีก เด็กน้อยตาดำๆที่ไม่ได้กลัวคนแปลกหน้า เพียงเพราะเขาต้องการเงินเพื่อประทังชีวิตเท่านั้น จำรถจำคนขับเพื่อความสะดวก ในการขึ้นรถม้านั้นเราจะขึ้นได้จำนวนคันละสองคน ถ้ายัดกันได้ก็สามคน เพราะเนื่องจากว่าม้ามีตัวเดียว ถ้าต้องรับน้ำหนักเยอะก็สงสารมันด้วย และสำคัญกว่านั้นจะต้องจำคนขับให้ได้ เพราะหลังจากกลับออกมาถ้าหากขึ้นรถม้าไม่ทัน อาจจะต้องเดินกลับ เรื่องเวลาในประเทศอินเดียเป็นสิ่งสำคัญเพราะถ้าหากเราช้าไปไม่กี่นาที จะทำให้เสียเวลาและสถานที่ท่องเที่ยวที่เราจะเดินไปนั้น ก็อาจจะปิดหรือไม่มีเวลาเข้าไปเที่ยวชม เพราะต้องเผื่อเวลาในการเดินทาง ถนนหนทางที่นั่นไม่เหมือนในหลายๆ ประเทศ ถ้าเมื่อไหร่ที่มีเจ้าวัว ซึ่งชาวอินเดียเชื่อว่าคือเทพเจ้ามานอนเล่นขวางถนนแล้วละก็วันนั้นทั้งวันอาจจะได้อยู่บนถนนไม่ได้ไปไหน อย่าสบตาอย่าพาที การเดินทางเข้าสถานที่แห่งนี้ ขณะที่รถม้าแล่นไป จะมีเด็กๆคอยวิ่งตาม และถ้าตามได้ทันก็จะขึ้นมาบนรถเพื่อขอเงิน แบมือและส่ายหัวไปมา เราห้ามใจอ่อนไม่ต้องไปสนใจ สถานที่แห่งนี้เราจะเห็นชาวพุทธที่เดินทางจาริกบุญจำนวนมาก ยิ่งถ้าเข้าไปด้านในวัดจะยิ่งเห็นชัดทั่วพื้นที่ เพราะพุทธรูปองค์ดำนี้จะมีน้ำซึมออกมาตามตัว ให้ชาวบ้านได้ซับน้ำมันแล้วนำมาประคบตามตัวหรือจะใช้นวดเพื่อให้หายจากอาการเจ็บปวด เวลาในการเข้าชม เนื่องจากว่าสถานที่แห่งนี้เราต้องเดินทางไกลเข้าไปในหมู่บ้าน และระยะทางที่จะถึงค่อนข้างจะโล่งแจ้ง การท่องเที่ยวที่เหมาะที่สุดคงจะเป็นช่วงเย็น ช่วงเวลาของดวงอาทิตย์เริ่มส่องแสงร้อนน้อยลง ประมาณสี่โมงห้าโมงเย็น เพราะจะได้ไม่ร้อน ซึ่งตอนที่กลับออกมาเราก็นั่งรถจะจึงไม่อันตราย ซ้ำยังทำให้ใจเราเย็นตามไปด้วย ไม่ต้องรีบเพราะสักการะแล้วก็เดินทางต่อ ความเชื่อของคนเรานั้นไม่มีเขตแดนหรือเหตุผลได้ ขอเพียงไม่เดือดร้อนใครก็เป็นพอ การเดินทางจาริกบุญนั้น ใครที่ได้เดินทางผ่านมาทางนาลันทาจะต้องแวะเข้ามากราบสักการะ จะขอโชคให้เดินทางปลอดภัยบ้าง ได้พบสัจธรรมบ้าง สิ่งที่ทำให้ตนเองพบความสุขแท้ของชีวิตมีเพียงตัวเราเองเท่านั้นที่เป็นคนสร้างเอง สักครั้งถ้าได้เดินทางจาริกบุญที่ประเทศอินเดีย อย่าลืมแวะเข้าสักการะ ภาพถ่ายทั้งหมดโดยผู้เขียนเอง (อุ้งเท้าแมว)เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !