ภาพปกโดย Lorenzo Cafaro จาก Pixabayการแก้ปัญหาตามกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม จำเป็นต้องระบุปัญหาให้ชัดเจนจากสถานการณ์ของปัญหา รวบรวมข้อมูลหรือแนวคิด ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาโดยพิจารณาจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ข้อมูล ที่จำเป็นและเงื่อนไขของปัญหา เพื่อนำไปสู่การเลือกและออกแบบแนวทาง การแก้ปัญหาต่อไปการวิเคราะห์แนวทางการแก้ปัญหาการแก้ปัญหาใดๆอาจมีวิธีการแก้ปัญหาได้หลายวิธี การวิเคราะห์แนวทางการแก้ปัญหาโดยพิจารณาจากเงื่อนไขและทรัพยากรทางเทคโนโลยีร่วมด้วย จะช่วยให้ได้แนวทางการแก้ปัญหาที่ไดแนวทางการแก้ปัญหาที่เป็นไปได้และเหมาะสมที่สุดกับสถานการณ์ของปัญหานั้นภาพโดย Rudy and Peter Skitterians จาก Pixabayทรัพยากรทางเทคโนโลยี ทรัพยากรทางเทคโนโลยี (technological resource) เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการแก้ปัญหา เพราะจะทำให้การทำงานนั้นสำเร็จและแก้ปัญหาได้ตามต้องการ ซึ่งประกอบด้วย 7 ด้าน ได้แก่1. คน คนเป็นทั้งผู้ใช้และผู้สร้างเทคโนโลยี ในกระบวนการแก้ปัญหานั้นคนยังเป็นผู้ที่ใช้ความรู้ ทักษะต่างๆ ในการคิดวิเคราะห์ ตัดสินใจ และดำเนินการจนเสร็จสินกระบวนการ2. ข้อมูลและสารสนเทศ ข้อมูลได้จากศาสตร์ต่างๆ ประสบการณ์ ภูมิปัญญา และแหล่งเรียนรู้ หากนำข้อมูล จากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ มาวิเคราะห์ ประมวลผล และแปลความหมายเพื่อให้ได้ สารสนเทศที่ถูกต้อง จะสามารถนำมาใช้ประกอบการพิจารณาและตัดสินใจในขั้นตอน ต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม3. วัสดุ การแก้ปัญหาที่ต้องลงมือสร้างชิ้นงานจำเป็นจะต้องใช้วัสดุเป็น ส่วนประกอบ การเลือกใช้วัสดุให้เหมาะสมกับเงื่อนไขและข้อกำหนดของงาน จึงมีความสำคัญเนื่องจากวัสดุแต่ละประเภทมีสมบัติที่แตกต่างกัน ภาพโดย athree23 จาก Pixabay4. เครื่องมือและอุปกรณ์ เป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงาน ทำให้การปฏิบัติงานมีความสะดวก รวดเร็ว แม่นยำ และถูกต้อง การพิจารณา แนวทางการแก้ปัญหาจึงควรคำนึงถึงข้อจำกัดหรือความสามารถในการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์5. พลังงาน การแก้ปัญหาด้วยการสร้างชิ้นงาน การเคลื่อนย้ายคนหรือสิ่งของ จะต้องใช้พลังงานในการขับเคลื่อนหรือทำให้ทรัพยากร อื่น ๆ ดำเนินการไปจนกระทั่งได้ชิ้นงานที่ต้องการ รวมทั้งเป็นพลังงานที่ทำให้ชิ้นงานนั้นทำงานได้ โดยทั่วไปในการสร้างชิ้นงาน มักต้องใช้พลังงานไฟฟ้า จึงอาจไม่นำมาร่วมพิจารณาด้วย แต่หากพลังงานไฟฟ้าเป็นข้อจำกัดของสถานการณ์นั้น จึงจะนำมา พิจารณาร่วมด้วย 6. ทุน ทุนในที่นี้หมายถึง เงินงบประมาณ ทรัพย์สิน อาคารสถานที่ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการแก้ปัญหา แนวทางการแก้ปัญหา บางกรณีอาจใช้ทุนเป็นจำนวนมากจึงต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าในการเลือกใช้ด้วย7. เวลา เป็นปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งในการพิจารณาแนวทางการแก้ปัญหา หากมีความจำเป็นต้องแก้ปัญหาในระยะเวลาอันสั้น อาจต้องเลือกแนวทางการแก้ปัญหาที่แตกต่างจากการแก้ปัญหาในระยะยาวจะเห็นได้ว่าทรัพยากรทางเทคโนโลยีมีส่วนสำคัญในการพิจารณาแนวทางการแก้ปัญหา เนื่องจากอาจเป็นเงื่อนไขหรือ ข้อจำกัดสำคัญของสถานการณ์ปัญหา ในการแก้ปัญหาใดปัญหาหนึ่งอาจใช้ทรัพยากรทางเทคโนโลยีไม่ครบทั้ง 7 ด้านภาพโดย mohamed Hassan จาก Pixabayการสร้างทางเลือกในการออกแบบ หลังจากตัดสินใจเลือกแนวทางการแก้ปัญหาแล้ว ขั้นตอนต่อไปเป็นการออกแบบชิ้นงานหรือวิธีการแก้ปัญหา โดยคำนึงถึง หลักการออกแบบผลิตภัณฑ์และความคิดสร้างสรรค์ และควรออกแบบให้มีมากกว่า 1 ทางเลือก แล้วเลือกแบบที่ตรงกับการ แก้ปัญหาและเงื่อนไขของสถานการณ์นั้นให้มากที่สุดหลักการออกแบบผลิตภัณฑ์ การออกแบบการแก้ปัญหาที่เป็นชิ้นงาน ควรคำนึงถึงหลักการออกแบบผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ได้ชิ้นงานที่ตรงกับ การแก้ปัญหาหรือความต้องการ ดังต่อไปนี้1. หน้าที่ใช้สอย (function) เป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องคำนึงถึงผลิตภัณฑ์ต้องมีหน้าที่ใช้สอยตามที่กำหนด เพื่อแก้ปัญหา หรือความต้องการที่กำหนดไว้2. ความปลอดภัย (safety) อันตรายที่เกิดขึ้นจากการใช้งานผลิตภัณฑ์ ระบบ หรือวิธีการ อาจส่งผลต่อผู้ใช้งาน เช่น การออกแบบของเล่นต้องคำนึงถึง ชิ้นส่วนขนาดเล็ก ความปลอดภัยของสีที่ใช้ชิ้นส่วนที่แหลมคมซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อเด็ก3. ความแข็งแรงของโครงสร้าง (structure) การออกแบบผลิตภัณฑ์ควร คำนึงถึงความแข็งแรงของโครงสร้างผลิตภัณฑ์ ควรเลือกรูปแบบโครงสร้างที่เหมาะสม กับการใช้งาน และสภาพแวดล้อม4. ความสะดวกสบายในการใช้งาน (ergonomics) การออกแบบสิ่งของ เครื่องใช้ ผลิตภัณฑ์ ระบบหรือวิธีการที่เกี่ยวข้องกับร่างกายมนุษย์ ต้องคำนึงถึงความ สะดวกสบายในการใช้งาน ลำดับขั้นตอนการใช้งาน การใช้งานที่สัมพันธ์กับข้อจำกัดทาง ด้านร่างกายของมนุษย์ที่อาจส่งผลต่อความเมื่อยล้า เช่น ความสูงของเก้าอี้ที่ไม่เหมาะสม กับการนั่งทำงานเป็นเวลานาน ตำแหน่งของชั้นวางของไม่เหมาะสมกับการหยิบจับ5. ความสวยงามน่าใช้ (aesthetics) การออกแบบควรคำนึงถึงความสวยงาม ของรูปลักษณ์ภายนอกของผลิตภัณฑ์ เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ใช้ และในบางกรณี ส่งผลต่อการรับรู้เชิงจิตวิทยาด้วย เช่น รูปร่าง รูปทรง สี พื้นผิว วัสดุที่ประกอบเป็น ผลิตภัณฑ์ภาพโดย StartupStockPhotos จาก Pixabay6. การบำรุงรักษา (maintenance) ในการออกแบบควรคำนึงถึงชิ้นส่วนที่ ต้องเปลี่ยนหรือซ่อมแซมให้สามารถดำเนินการได้ง่าย และสามารถหาชิ้นส่วนอื่นที่นำมาใช้งานทดแทนได้7. ราคาหรือต้นทุน (cost) การประมาณราคาก่อนการวางแผนการสร้างชิ้นงาน ช่วยให้การออกแบบมีความเป็นไปได้ ตามงบประมาณที่มีอยู่ซึ่งจะสัมพันธ์โดยตรงกับ การเลือกใช้วัสดุ กระบวนการผลิต รวมถึงหน้าที่ใช้สอย และระบบการทำงาน ของผลิตภัณฑ์นั้นด้วย เช่น การออกแบบให้มีจำนวนชิ้นส่วนน้อยชิ้น การออกแบบที่ลดความหลากหลายของประเภทวัสดุ กระบวนการผลิตที่ซับซ้อน หรือใช้เครื่องมือที่ต้องจัดหาจากแหล่งอื่น8. วัสดุและกระบวนการผลิต (material and process) ในการออกแบบความร้อนที่สุดที่มีสมบัติตรงกับหน้าที่ใช้สอย และรูปแบบการใช้งานของผลิตภัณฑ์ ไม่เลือกวัสดุที่มีสมบัติเกินความจำเป็นในการใช้งาน จะทำให้กระบวนการผลิตยุ่งยาก ซับซ้อน ควรเลือกวัสดุที่ผลิต หรือสามารถจัดหาได้ในท้องถิ่นหรือภายในประเทศนอกจากหลักการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่กล่าวมาแล้ว ผู้สร้างสรรค์เทคโนโลยีต้องคำนึงถึงความสะดวกในการบรรจุหีบห่อ การขนส่ง และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การออกแบบเพื่อช่วยประหยัดพลังงาน การเลือกใช้วัสดุธรรมชาติ วัสดุ เหลือใช้หรือนำกลับมาใช้ใหม่ และกระบวนการผลิตที่ทำให้เกิดของเสียน้อยที่สุดภาพโดย Photo Mix จาก Pixabay สรุปการวิเคราะห์แนวทางการแก้ปัญหาโดยพิจารณาเงื่อนไข หรือทรัพยากรทางเทคโนโลยีร่วมด้วย จะทำให้ได้แนวทางการ แก้ปัญหาที่เป็นไปได้และเหมาะสมที่สุดกับสถานการณ์ของ ปัญหานั้นการออกแบบก่อนการสร้างชิ้นงานหรือดำเนินการ แก้ปัญหา จะทำให้ทราบรายละเอียดและมีข้อมูลในการสร้างหรือ ดำเนินการแก้ปัญหา รวมทั้งเป็นการสื่อสารให้ผู้อื่นเข้าใจ และ สามารถนำไปใช้เป็นแบบในการสร้างชิ้นงานหรือดำเนินการ ในขั้นตอนต่อไป เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !