พรีเมียร์ลีกกลางสัปดาห์เมื่อคืนวันอังคาร ตี 02:00 บิ๊กแมตช์ศึกวันแดงเดือด ลิเวอร์พูล เปิดบ้านต้อนการมาเยือนของ แมนยูฯไนเต็ด ในนัดนี้มีความสำคัญของทั้งสองทีม ลิเวอร์พูล ที่กำลังขับเคี่ยวแชมป์พรีเมียร์ลีกกับแมนเชสเตอร์ซิตี้ ต้องการ 3 แต้มในทุกๆนัดที่เหลือ และจะได้ขึ้นไปนั่งจ่าฝูงก่อน และ โยนความกดดันไปยังแมนซิตี้ ที่จะแข่งที่หลัง ส่วนผู้มาเยือนอย่าง แมนยูฯไนเต็ด ที่ฟอร์มกระท่อน กระแท่น ต้องลุ้นพื้นที่ท็อปโฟร์ ด้วยเหตุที่ผู้ท้าชิงท็อปโฟร์อย่าง อาเซน่อล และ สเปอร์ส ต่างสะดุดกันมาเป็นโอกาสดี ที่จะเก็บแต้มเพื่อไล่กดดัน 11 ผู้เล่นตัวจริงลิเวอร์พูล แผน : 4-3-3 อลิซอน เบ็คเกอร์ , เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ , แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน , เวอร์จิล ฟานไดจ์ , โจเอล มาติป , ฟาบินโญ่ , จอร์แดน เฮนเดอร์สัน , ติอาโก้ อาคันทาร่า , โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ , หลุยส์ ดิอาส , ซาดิโอ มาเน่แมนยูฯไนเต็ด แผน : 3-4-2-1 ดาบิด เดเกอา , วิคตอร์ ลินเดอร์เลิฟ , ฟิล โจน , แฮร์รี่ แม็กไกวร์ , อารอน วานบิสซาก้า , ดิอาโก ดาโลต์ , ปอล ป็อกบา , เนมันย่า มาติช , บรูโน่ เฟอร์นานเดส , แอนโทนี่ อีแลงก้า , มาคัส แรชฟอร์ดจังหวะสำคัญของเกมลิเวอร์พูลได้ประตูตั้งแต่ นาที่ 5 ซาลาห์ให้ ดิอาสยิงเข้าไป 1-0นาทีที่ 22 มาเน่จ่ายหักข้อให้ ซาล่าห์เข้าไปยิง 2-0นาทีที่ 44 ดิอาสรับบอลจาก เฮนเดอร์สัน แล้วยิงไกล แต่ตรงตัว เดเกอานาทีที่ 55 ซานโช่เข้าใน ยิงลอดขา เทรนต์ อาร์โนล์ด แต่บอลเบาไปนาทีที่ 68 ดิอาสจากทางซ้ายจ่ายเข้าในให้ มาเน่ยิงตวัดเข้าไป 3-0นาทีที่ 85 โชต้าไปแย่งบอลมาได้แล้วจ่ายให้ ซาล่าห์กระดกบอลเข้าไป 4-0 ประเด็นน่าสนใจหลังเกม1. แฟนบอลหงส์ให้กำลังใจ CR7คริสเตียนโน่ โรนัลโด้ ตีองประสบกับเรื่องร้าย โดยการต้องมาสูญเสียลูกชาย ที่พึ่งคลอดออกมา โดยโรนัลโด้ได้ออกมาบอกเรื่องนี้ผ่านโซเชียล ด้วยเหตุนี้ทีมแมนยูฯไนเต็ด ประกาศก่อนเกมนี้ว่า โรนัลโด้ จะไม่มีส่วนรวมกับเกมนี้ เพื่อให้ตัวโรนัลโด้ ได้อยู่กับครอบครัวในช่วงเวลายากลำบาก ทำให้แฟนบอลลิเวอร์พูล เตรียมนัดหมายปรบมือเป็นกำลังใจให้โรนัลโด้ ในนาทีที่ 7 อันเป็นเบอร์หมายเลขของ โรนัลโด้ แสดงถึงสปิริต แม้ว่าจะเป็นคู่แข่งก็ตาม 2. ติอาโก้ แมนออฟเดอะแมตช์นักเตะที่โดดเด่นสุดๆในเกมนี้คือ ติอาโก้ อัลคันทาร่า แม้จะไม่มีประตูหรือแอสซิสต์ แต่ด้วยการวาดลวดลายในแดนกลาง การออกบอลของเขานั้นยอดเยี่ยมเสมอ เทคนิคที่แพรวพราว สร้างสรรค์โอกาสมากที่สุดในเกม ด้วยเหตุนี้ทำให้ ติอาโก้ เป็นแมนออฟเดอะแมตช์ในเกมนี้3. ซาล่าห์ปลดล็อคโม ซาล่าห์ เจ้าตัวฟอร์มตกลง ไม่ยิงมา 7 นัดติดในทุกรายการ และการเล่นที่ดูไม่มั่นใจ ผิดปกติจากเดิมที่ผ่านมา มาในนัดแดงเดือด ซาล่าห์ปลดล็อคตัวเองได้สำเร็จ เขายิงไป 2 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์ เป็นดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกแบบเดี่ยวๆ ยิงไป 22 ประตู โดยฤดูกาลนี้ ซาล่าห์ยิงแมนยูฯไนเต็ด ไป 5 ประตู เป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก ที่ยิงแมนยูฯไนเต็ด 5 ประตู ในฤดูกาลเดียว 4. ความห่างของทั้งสองทีมด้วยฟอร์มของ แมนยูฯไนเต็ด ที่ไม่ดีเอาซะเลย และ ด้วยปัญหานักเตะบาดเจ็บไม่น้อย ชอว์ , วาราน , แม็คโทมิเน่ , เฟร็ด , คาวานี่ รวมถึงต้องขาด โรนัลโด้ ที่มีพึ่งสูญเสียลูกชายทำให้ไม่พร้อม การมาเจอลิเวอร์พูล ที่ฟอร์มนั้นกำลังดี และมีสภาพทีมที่สมบูรณ์ ทำให้เกมนี้แมนยูมีเกมการเล่นที่เป็นรอง ร่วมถึงทีมเวิร์คด้วย จากสถิติที่เห็นความห่างของทั้งสองทีมโอกาสยิง ลิเวอร์พูล 14 แมนยู 2 ครั้งยิงเข้ากรอบ ลิเวอร์พูล 5 แมนยู 1 ครั้งการครองบอล ลิเวอร์พูล 72% แมนยู 28%การส่งบอล ลิเวอร์พูล 897 แมนยู 354 ครั้งความแม่นยำในการส่งบอล ลิเวอร์พูล 91% แมนยู 73%นี้คือทั้งหมดของหลังเกมศึกแดงเดือด ลิเวอร์พูล คว้า 3 แต้มในการลุ้นแชมป์ต่อไป ส่วนแมนยูฯไนเต็ดนั้น การพลาดคว้าแต้มเลย นั้นทำให้โอกาสติดท็อปโฟร์นั้นหริบหรี่ลง เขียนโดย : ฮาฟีย์เครดิตภาพหน้าปก : Thiago Alcantara / Facebook , Liverpool FC / Facebook , Liverpool FC / Facebook , Paul Labiele Pogba / Facebook เครดิตภาพที่ 1 : Thiago Alcantara / Facebook เครดิตภาพที่ 2 : Luis Diaz / Facebook เครดิตภาพที่ 3 : Cristiano Ronaldo / Facebook เครดิตภาพที่ 4: Liverpool FC / Facebook เครดิตภาพที่ 5 : Liverpool FC / Facebook เครดิตภาพที่ 6 : Liverpool FC / Facebook ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !