พรีเมียร์ลีก สัปดาห์ที่ 31 มีโปรแกรมพรีเมียร์ลีก หลายนัดน่าสนใจ ในบทความนี้ ขอหยิบยกเกมคู่เอกของสัปดาห์นี้ ในคืนวันอาทิตย์ เวลา 22:30 เป็นการเจอของ จ่าฝูง และ รองจ่าฝูง คือ แมนเชสเตอร์ซิตี้ เปิดบ้านเจอกับ ลิเวอร์พูล เกมนี้ถูกจับตามองเป็นอย่างมาก หากทีมไหนชนะ จะขึ้นเป็นจ่าฝูงทันที และ มีโอกาสเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก 11 ผู้เล่นตัวจริงแมนเชสเตอร์ซิตี้ แผน 4-3-3 : เอเดอร์สัน , จอห์น สโตน , อายมาริค ลาปอร์ต , ไคล์ วอล์กเกอร์ , เจา กานเซโล่ , โรดริโก้ , แบร์นาลโด้ ซิลวา , เควิน เดอบรอยน์ , ฟิล โฟเด้น , ราฮีม สเตอร์ลิ่ง , กาเบรียล เจซุสลิเวอร์พูล แผน 4-3-3 : อลิซอน เบ็คเกอร์ , เทรนต์ อาร์โนลด์ , แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน , เวอร์จิล ฟานไดจ์ , โจเอล มาติป , ฟาบินโญ่ , จอร์แดน เฮนเดอร์สัน , ติอาโก้ อัลคันทาร่า , โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ , ซาดิโอ มาเน่ , ดิโอโก้ โชต้ารูปเกมลิเวอร์พูล เขี่ยบอลเริ่มเกมก่อน แต่ลิเวอร์พูลยังตั้งเกมไม่ได้ และเสียบอลให้แมนซิตี้ เป็นแมนซิตี้ที่ครองบอล และ ไม่นานมีโอกาสทำประตูของแมนซิตี้ นาทีที่ 5 เควิน เดอบรอยน์ จ่ายออกข้างให้ เจซุส จ่ายเข้าในให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ยิงจ่อๆ แต่เป็น อลิซอน เบ็คเกอร์ เซฟไว้ได้ แต่หลังจากนั้นไม่นาน บอลยังคลุกคลิก อยู่แดนลิเวอร์พูล แมนซิตี้ ได้ฟรีคิกระยะไกล ฉวยโอกาสเล่นเร็ว แบร์นาลโด้ ซิลวา จ่ายเร็วให้ เควิน เดอบรอยน์ พาบอลลากมายิง แฉลบ มาติป เข้าประตูไป แมนซิตี้ ขึ้นนำเร็ว 1-0 หลังจากโดนนำ ลิเวอร์พูลเหมือนเมาหมัด โดน แมนซิตี้ กดเกมรุกใส่ แต่หลังจากนั้นลิเวอร์พูลเริ่มตั้งเกมได้ และเริ่มคลึ่งเกมรุกใส่ แมนซิตี้ สุดท้ายก็ทำสำเร็จ ในนาทีที่ 13 แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เปิดบอลให้ เทรนต์ ตั้งบอล ให้ โชต้า ยิงเข้าไป ลิเวอร์พูล ตีเสมอ 1-1 หลังจากนั้นแมนซิตี้ได้มีโอกาสบุกใส่ แต่เกมรับลิเวอร์พูลยังช่วยกันดี และ ลิเวอร์พูลมีโอกาสได้โต้กลับบ้าง สุดท้าย นาทีที่ 37 เจา กานเซโล่ เปิดบอลตัดหลังให้ กาเบรียล เจซุส เข้าไปยิง แมนซิตี้ ขึ้นนำ 2-1 จบครึ่งแรก ครึ่งหลังเปิดฉากครึ่งหลักไม่นาน นาทีที่ 47 ซาลาห์ จ่ายตามช่องให้ มาเน่ ยิงเข้าไป ลิเวอร์พูล ตีเสมอ 2-2 เป็นการดึงโมเมนต์ตั้มกลับมา และ ลิเวอร์พูลได้ทำเกมบุกใส่เรื่อยๆ เกมเริ่มสูสีและมันมากขึ้น ลิเวอร์พูลมีโอกาส นาทีที่ 52 ซาล่าห์ จ่าย ให้ โช้ต้า ยิงแต่ เอเดอร์สัน รับไว้ได้ แมนซิตี้ ก็มีโอกาส นาทีที่ 61 เจซุส โหม่งรับบอลได้ ล็อคนี้แนวรับลิเวอร์พูล ยิงผ่าน อลิซอน เบ็คเกอร์ แต่ยังติด ฟานไดจ์ นาทีที่ 63 ราฮีม สเตอร์ลิ่ง พาบอลซุกก้นตาข่าย แต่โดน VAR ริบประตูเพราะล้ำหน้า ลิเวอร์พูลก็มีโอกาส นาทีที่ 71 ซาล่าห์ ปั้นซ้ายแฉลบออกไป ช่วงท้ายเกม แมนซิตี้ มีโอกาสทำประตูจาก ริยาด มาเรซ ฟริคิก นาทีที่ 90 และ มาเรซ ตัดใน ชิบบอลแต่ บอลโด่งข้ามคานออกไป จบเกมสุดมัน แมนเชสเตอร์ซิตี้ 2-2 ลิเวอร์พูลประเด็นน่าสนใจหลังเกม1. สองทีมคุณภาพ สร้างเกมคุณภาพเกมนี้คือเกมระหว่างสองทีมที่ดีที่สุดในขณะนี้ และ ทั้งสองทีมคือทีมที่ ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก และแน่นอนว่าหากใครชนะขึ้นจ่าฝูงทันที โอกาสโมเมนต์ตั้มคว้าแชมป์มีสูง ด้วยการเดิมพันถึงแชมป์ ทำให้เกมนี้มีความมันระดับ 5 ดาว เกมระหว่าง แมนซิตี้ และ ลิเวอร์พูล ถ้าเปรียบดังเทนนิสก็เหมือนได้เห็น โนวัค โยโควิช และ ราฟาเอล นาดาล ได้หวดลูกเทนนิสกัน2. สองกุนซือแห่งยุคนัดนี้ถูกจับต่ออย่างมากเพราะเป็นการดวลกันอีกครั้งของ เป๊ป กวาดิโอล่า กุนซือแมนซิตี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือลิเวอร์พูล สถิติไม่เคยโกหกใคร กุนซือที่คุมทีมชนะเป๊ป ได้มากสุดคือ คล็อปป์ และ กุนซือที่คุมทีมชนะคล็อปป์ ได้มากที่สุดคือ เป๊ป และในเกมที่ผ่านมา ทั้งสองสู้ได้อย่างสูสี ได้เห็นการแท็คติกของเป๊ป และ การแก้เกมของ คล็อปป์ แม้ว่าในเกมจะสู้กันอย่างสุดมัน แต่หลังจากจบเกมทั้งสองก็เหมือนเพื่อนกัน3. KDB แมนออฟเดอะแมตช์ในเกมนี้ แมนซิตี้ เล่นได้อย่างดุดัน และ คีย์แมนของ แมนซิตี้ ที่เล่นได้อย่างโดดเด่นมากสุด เป็นใครไม่ได้นอกจาก เควิน เดอบรอยน์ การออกบอลของเข้า สร้างโอกาสได้หลายครั้ง และยิงไป 1 ประตู จากพาบอลลุยด้วยตัวเอง 4. การลุ้นแชมป์ที่ต้อง ขับเคี่ยวต่อไปการจบด้วยการเสมอกัน 2-2 ทำให้การระยะห่างของสองทีมในตาราง ยังห่างเพียงแค่ 1 แต้มเหมือนเดิม การลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก ยังคงต้องลุ้นต่อไปกับโกรแกรมอีก 7 นัดที่เหลือนี้ ของทั้งสองทีม และอาจต้องลุ้นถึงนัดสุดท้ายก็เป็นไปได้ถือว่าเป็นเกมมัน และ ครบทุกอารมณ์ สุดท้ายก็กินกันไม่ลง จบลงด้วยการเสมอกัน ทั้งสองนีดที่เจอกัน แต่ๅอย่างไรทั้งสองทีมต้องโคจรมาพบกันอีกครั้ง ในวันเสาร์ที่ 16 นี้ รายการเอฟเอคัฟ รอบรองชนะเลิศ เชื่อว่าเกมนี้จะมันแน่นอน และในครั้งนี้ต้องหาผู้ชนะเพียงหนึ่งเดียวเพื่อเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ เขียนโดย : ฮาฟีย์เครดิตภาพหน้าปก : Kevin De Bruyne / Facebook / Liverpool FC / Facebook เครดิตภาพที่ 1 : Kevin De Bruyne / Facebook เครดิตภาพที่ 2 : Liverpool FC / Facebook เครดิตภาพที่ 3 : Liverpool FC / Facebook , Liverpool FC / Facebook เครดิตภาพที่ 4 : Liverpool FC / Facebook , Manchester City / Facebook เครดิตภาพที่ 5 : Kevin De Bruyne / Facebookเครดิตภาพที่ 6 : Phil Foden / Facebook , Trent Alexander-Arnold / Facebook ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !