หอยเชอรี่ หรือ หอยโข่งอเมริกาใต้ หรือ หอยเป๋าฮื้อน้ำจืด มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้ เป็นหอยฝาเดียว ที่จัดอยู่ในวงศ์ Ampullariida ซึ่งเป็นวงศ์เดียวกับหอยโข่ง (Apple snail.Pila spp.) แบ่งเป็นสองพวกคือ พวกที่มีเปลือกสีเหลืองปนน้ำตาล เนื้อและหนวดมีสีเหลือง และอีกพวกหนึ่งจะมีสีเขียวเข้มปนดำ และมีแถบสีดำจางๆ พาดตามความยาว เนื้อและหนวดสีน้ำตาลอ่อน ผิวเปลือกเรียบ มีรูปร่างค่อนข้างกลม การหมุนของเปลือกเป็นเกลียววนขวา งานวิจัยการระบาดของหอยเชอรี่ในนาข้าวในภาคกลาง จำแนกหอยเชอรี่ที่พบตามลักษณะทางภายภาพภายนอก เป็น 5 ชนิด คือ 1.เปลือกดำ ตัวดำ มีลาย 2.เปลือกดำ ตัวดำ ไม่มีลาย 3.เปลือกเหลือง ตัวดำ 4.เปลือกเหลือง ตัวเหลือง 5.เปลือกดำ ตัวเหลือง หลังจากผสมพันธุ์ได้ 1-2 วัน ตัวเมียจะวางไข่ในเวลากลางคืน โดยวางไข่ตามที่แห้งเหนือน้ำ ไข่มีสีชมพูเกาะติดกันเป็นกลุ่มยาว 2-3 นิ้ว แต่ละกลุ่มประกอบด้วยไข่เป็นฟองเล็กๆ ประมาณ 300 - 2,000 ฟอง ขึ้นอยู่กับความอุดมสมบูรณ์ของอาหารที่กิน ไ่ข่จะฟักออกเป็นตัวหอยภายใน 7 - 12 วัน หลังจากวางไข่ ไข่ที่ออกใหม่ๆ จะมีสีชมพูสดและจะซีดจางลงเกือบเป็นสีขาวภายใน 7 - 8 วัน แล้วแตกออก เนื้อหอยเชอรี่มีโปรตีนสูงถึง 34 - 53 เปอร์เซ็นต์ ไขมัน 1.66 เปอร์เซ็นต์ หอยเชอรี่กินพืชน้ำได้เกือบทุกชนิด เช่น ต้นข้าว สาหร่าย ผักบุ้ง ผักกระเฉด จอก แหน ฯลฯ รวมทั้งซากพืชซากสัตว์ที่เน่าเปื่อยในน้ำ หอยเชอรี่สามารถกินได้รวดเร็วเฉลี่ยวันละ 50% ของน้ำหนักตัว กินได้ตลอด 24 ชั่วโมง เลี้ยงง่ายโตไว หอยเชอรี่ให้ทั้งประโยชน์และโทษ หากหลุดไปอยู่ในนาข้าวจะกัดกินต้นข้าวที่มีอายุน้อยอ่อนนุ่มสร้างความเสียหายแก่นาข้าว เมื่อต้นข้าวแข็งแรง หอยเชอรี่จะกัดกินได้น้อยลง หอยเชอรี่สามารถอยู่ตามแหล่งน้ำได้ทุกประเภท แม้กระทั่งน้ำตื้นเพียงไม่กี่นิ้วก็ตาม ในน้ำที่ไม่เป็นกรดจัด และอุณหภูมิประมาณ 30 องศาเซลเซียส เป็นสภาพที่เหมาะสมในการเจริญเติบโต ส่วนในสภาพที่ไม่เหมาะสม หอยเชอรี่สามารถจำศีลได้ในดินนานถึง 7 เดือน ในประเทศไทยพบการระบาดคร้ังแรกในปี พ.ศ.2526 โดยเริ่มจากการนำหอยเชอรี่มาจากประเทศญี่ปุ่น ไต้หวัน และฟิลิปปินส์ เพื่อนำมาเลี้ยงส่งขายให้ประเทศญี่ปุ่น และขายเป็นหอยสวยงาม โดยพบการระบาดคร้ังแรกในนาข้าวที่อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ และอำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ในแปลงทดลองของสถานีทดลองข้าวบางเขน กรมวิชาการเกษตร ซึ่งเกิดจากนิสิตนำหอยเชอรี่ที่ได้ทดลองแล้วไปปล่อยลงคลองส่งน้ำของสถานีทดลอง และได้แพร่กระจายไปทั่วประเทศ ประโยชน์ของหอยเชอรี่สามารถนำมาปรุงอาหารได้รสชาติอร่อยหลากหลายเมนู อาทิ หอยเชอรี่ลวกจิ้ม หอยเชอรี่ผัดพริก ผัดกะเพราหอยเชอรี่ หอยเชอรี่ชุบแป้งทอด ลาบหอยเชอรี่ ก้อยหอยเชอรี่ ยำหอยเชอรี่ ต้มยำหอยเชอรี่ แกงคั่วหอยเชอรี่ ต้มโคล้งหอยเชอรี่ ออส่วนหอยเชอรี่ หอยเชอรี่สามรส พิซซ่าหอยเชอรี่ ฯลฯ นอกจากจะนำมาทำอาหารสำหรับคนแล้ว ยังนำไปเป็นอาหารสัตว์ได้ดีอีกด้วยทั้งหอยเชอรี่สดและหอยเชอรี่ตากแห้ง นำไปเป็นอาหาร เป็ด ไก่ ปลา ฯลฯ ปัจจุบันได้มีการนำหอยเชอรี่มาเพาะเลี้ยงเป็นจำนวนมาก เพราะเป็นที่ต้องการของตลาด โดยเฉพาะร้านขายส้มตำ จากนอกขายหอยเชอรี่ตัวเป็นๆ แล้วยังมีการนำมาแปรรูปเพื่อให้เก็บไว้ทานได้นาน อาทิ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีอุบลราชธานี นำหอยเชอรี่มาแปรรูปเป็นอาหารว่าง "หอยเชอรี่ปรุงรสเสริมสมุนไพร" ผู้ประกอบการทำ "หอยเชอรี่อบแห้ง" ลงขายออนไลน์ในชอปปี้ ลาซาด้า และร้านค้าออนไลน์อื่นๆ ข้อดีของหอยเชอรี่อบแห้ง คือ เก็บไว้ได้นาน อยากต้มยำทำอาหารเมนูหอย ก็สามารถนำมาทำได้โดยไม่ต้องออกไปซื้อหาหอยเชอรี่สดๆ ในตลาด ที่มา:งานวิจัยการศึกษารูปแบบการจัดการหอยเชอรี่ในนาข้าว บริเวณอำเภอป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง นางอานุช คีรีรัฐนิคม นางสุดสาคร สิงห์ทอง 2551 งานวิจัยการศึกษาความหลากหลายทางชีวภาพของหอยเชอรี่ที่แพร่ระบาดในเขตภาคกลางของประเทศไทยในระดับโมเลกุลโดยวิธีปฏิกิริยาลูกโซ่พอลิเมอเรส สมณรัตน์ จันทร์ขาว 2547