ขอบคุณภาพหน้าปกจาก Pixabay cr.https://pixabay.com/images/id-932780/ สวัสดีค่ะ ฉันชื่อ มิ้น ฉันเป็นคนเชียงใหม่ ฉันมาศึกษาที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ฯ พักอยู่หอพักคนเดียวค่ะ เลิกเรียนก็ทำงานพาร์ทไทม์ กว่าจะได้กลับห้องพักก็ 23.00 น. ฉันเป็นรองดาวมหาลัยแห่งนี้ มีคนสนิทสุงสิงอยู่มากมาย เลยไม่เหงาซักเท่าไหร่ เรื่องเรียนฉันก็ไม่เป็นรองใครด้วย แต่มีเหตุการณ์หนึ่ง ที่ทำให้ฉันไม่มีใครคบ ทั้ง ๆ ที่ฉันก็ไม่ได้ทำอะไรผิด และเหตุการณ์นั้นมันยังคงติดตาของฉัน และฉันก็ไม่เคยลืมมันลงได้เรื่องมีอยู่ว่า….. หนึ่งอาทิตย์ก่อนหน้านี้ ที่จะมีเรื่องเกิดขึ้นกับฉัน มีนักศึกษาเป็นรุ่นพี่ปี 4 หน้าตาสวย หุ่นดี เธอชื่อ น้ำหนึ่งและแน่นอนเธอเป็นดาวมหาลัยมาก่อน เธอถูกอาจารย์พละข่มขืน และถ่ายคลิปของเธอไว้แบล็คเมล์ อาจารย์พละ ติดต่อให้เธอเข้าไปหาเขา ที่ห้องสมุดเสมอ แต่ถ้าเธอไม่ไป อาจารย์พละก็จะขู่เธอตลอด ว่าจะปล่อยคลิปของเธอ เธอจึงต้องทำตามที่อาจารย์พละต้องการให้ทำเสมอ แต่ทว่า….ความลับนั้นไม่มีในโลก อาจารย์พละคิดว่าไม่มีใครอยู่ในห้องสมุดแล้ว จึงโทรเรียกเธอมาหา และนั่นแหละที่ทำให้ทุกอย่างถูกเปิดเผยขึ้น เมื่อนักศึกษากลุ่มหนึ่งที่ยังอยู่ในห้องนั้น เห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง และพวกเขาก็ถ่ายคลิป แล้วนำไปลงในเว็บหนังโป๊ต่าง ๆ และกรุ๊ปไลน์ต่าง ๆ เช้าวันถัดมา..เธอและอาจารย์พละถูกมอง ด้วยสายตาแปลก ๆ จากนักศึกษาหลายคนในมหาวิทยาลัย และกระซุบกระซิบกัน เธอได้ยินและเห็นคลิปนั้น จากเพื่อนคนสนิทของเธอ เมื่อทางมหาวิทยาลัยรู้เรื่องนี้ ก็เรียกเธอไปที่ห้องปกครอง เธอก็เล่าทุกอย่าง ที่อาจารย์พละกระทำกับเธอ ให้ทางมหาวิทยาลัยฟัง ทางมหาวิทยาลัยเลยให้อาจารย์พละคนนั้น ย้ายไปสอนที่อื่น แต่นั่น..ไม่ได้ทำให้เธอ รอดพ้นจากการถูกมองอย่างน่ารังเกียจเลย ทุกคน ๆ ที่รู้เรื่องนี้ยังคงซุบซิบ และนินทาเธออยู่เสมอ ขอบคุณภาพจาก Pixabay cr.https://pixabay.com/images/id-4577567/ จนในที่สุด เธอก็ทนแบกรับ กับความรู้สึกนี้ไม่ไหว เธอตัดสินใจผูกคอตาย ในห้องสมุดมหาวิทยาลัยแห่งนี้ โดยเธอน่าจะมาผูกคอตาย ตอนที่ไม่มีคนอยู่ในห้องนี้แล้ว และคงจะรอจนกว่า ภารโรงจะมาปิดห้องนี้ นั่นก็คือเวลา 20.00 น. และนั่นคงเป็นเวลาที่เธอผูกคอตาย และกว่าจะมีคนมาพบเธอ ก็ตอนเช้า โดยคนที่เห็นศพเธอคนแรก ก็คือภารโรงที่ขึ้นมาเปิดห้องสมุด และหลังจากนั้น ทุกคนก็ได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดในห้องสมุดนั้น ก็เห็นว่าเธอหยิบสายไฟ ตรงโต๊ะคอมพิวเตอร์ และลากบันไดจากข้างฝาผนัง แล้วปีนขึ้นไปผูกสายไฟ ตรงพัดลมกลางห้องสมุด ต่อมาเธอก็แขวนคอตัวเอง และถีบบันไดให้ล้ม จากนั้นไม่นานตัวของเธอ ก็ดิ้นทุรนทุรายและขาดใจ ตาของเธอถลนออกมาทั้งสองข้าง ลิ้นของเธอก็ห้อยออกมาจากปาก เป็นภาพที่สยดสยองที่สุด เรื่องราวของเธอดังมาก ๆ ในมหาวิทยาลัย ทุก ๆ คน ยังคงพูดคุยถึงเรื่องของเธออยู่เสมอ จนอาทิตย์ถัดมา ก็เกิดเรื่องที่มันเปลี่ยนชีวิตของฉันได้เริ่มขึ้น ส่วนตัวฉันไม่ได้มีเพื่อนที่สนิทที่สุด แต่ฉันสนิทกับเพื่อนทุก ๆ คนเท่ากันหมด ใครชวนกินข้าว ชวนคุย ฉันก็เฟรนลี่กับทุก ๆ คนเสมอ และในวันนั้นมีเพื่อนที่ชื่อ น้ำ วิทย์ และใยไหม มาชวนฉันไปนั่งเล่นที่ห้องสมุด และเราก็เม้าท์มอยกันไปตามประสา ขอบคุณภาพจาก Pixabay cr.https://pixabay.com/images/id-2557396/ แต่สิ่งหนึ่งที่ฉันรู้สึกก็คือ สายตาของวิทย์ ที่มองมาที่ฉันนั้น มันแฝงความรู้สึกบางอย่างมาด้วย ฉันมั่นใจในเซนส์ของฉันว่า วิทย์ชอบฉัน แต่ฉันมีแฟนแล้ว ซึ่งเราอยู่กันคนละมหาวิทยาลัย พึ่งจะตกลงปลงใจคบกันได้เพียง 1 เดือนเท่านั้นเอง ฉันจึงต้องพยายาม แสดงให้วิทย์เห็นว่า ฉันมีแฟนแล้ว เพื่อให้วิทย์ตัดใจจากฉัน ด้วยการโทรคุยกับแฟนต่อหน้าเขาบ้าง พูดถึงแฟนของฉันบ่อยๆบ้าง แต่ทว่า....สิ่งนั้น ไม่ได้ทำให้วิทย์เปลี่ยนใจได้เลย วิทย์ยังคงคอยมานั่งใกล้ๆ และซื้อนู้นซื้อนี่มาให้ฉันอยู่ตลอด และถึงแม่ที่ฉันจะลงท้ายบทสนทนาของเรา ด้วยคำว่าเพื่อนตลอด แต่วิทย์เองก็ยังคงทำเหมือนเดิมเสมอ เรานั่งเล่นและคุยกัน จนเวลา 19.20 น. น้ำก็ขอตัวกลับก่อน ไม่นานใยไหมก็ขอตัวกลับอีกคน ฉันเลยตัดสินใจว่าจะกลับ แต่ทว่า...วิทย์กลับขอให้ฉันอยู่ต่อ เขาบอกกับฉันว่า มีเรื่องสำคัญที่จะคุยกับฉัน และฉันเองก็รู้ว่าวิทย์ จะบอกชอบฉันแน่ๆ แต่ด้วยความที่ฉันอยากจะเคลียเรื่องนี้ให้จบๆ เลยอยู่คุยต่อกับวิทย์ และแน่นอน วิทย์พูดออกมาว่าวิทย์ : เราชอบเธอนะมิ้น ชอบมาตั้งแต่วันรับน้องแล้วล่ะ เธอคงยังไม่รู้มาก่อน เราชอบเธอมากๆเลยฉัน : ขอโทษนะวิทย์ เราไม่ได้คิดกับเธอแบบนั้น เราไม่เคยคิดกับเธอเกินคำว่าเพื่อน และเราก็มีแฟนแล้วนะวิทย์วิทย์ : เธอรังเกียจเราหรอมิ้นฉัน : เปล่านะวิทย์ แต่เราคิดกับเธอแค่เพื่อนจริงๆ เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้นะวิทย์ วิทย์ทำหน้าเศร้า และนั่งเงียบไป จนเวลา 20.00 น. มีภารโรงขึ้นมาและบอกกับเราว่า จะต้องปิดห้องสมุดแล้ว ให้พวกเรากลับบ้านกันได้แล้ว แต่ในขณะที่ภารโรงเดินไปปิดห้องข้างๆอยู่นั้น วิทย์ก็เอามือมาปิดปากฉัน และลากฉันไปหลบหลังชั้นวางหนังสือ ตรงมุมนั้นไม่มีกล้องวงจรปิด ฉันพยายามดิ้น แต่ก็สู้แรงของวิทย์ไม่ได้ ขอบคุณภาพจาก Pixabay cr.https://pixabay.com/images/id-2596809/ ซักพักภารโรงก็เดินมาดูในห้องสมุด แต่ก็ไม่เห็นฉันและวิทย์ เลยล็อคห้องสมุดและเดินจากไป วิทย์ปิดปากฉันอยู่นาน จนแน่ใจว่าภารโรงไปแล้วจึงปล่อยฉันฉัน : วิทย์ ! ทำอะไรน่ะ แล้วเราจะออกจากห้องนี้ยังไง ห้องถูกปิดแล้วนะวิทย์ : ฉันชอบเธอจริง ๆ นะมิ้น ฉันไม่ยอมให้เธอไปไหนหรอก เธอต้องเป็นแฟนฉัน วิทย์หยิบมือถือออกมา และเริ่มบันทึกวิดีโอ ฉันเริ่มใจไม่ดี และพยายามตะโกนให้คนช่วย แต่ตะโกนเท่าไหร่ ก็ไม่มีใครได้ยิน เพราะป่านนี้คงไม่มีใครอยู่แล้ว วิทย์เดินเข้ามาใกล้ฉัน ฉันก็พยายามเดินหนีตลอด ตัวของฉันสั่นไปหมด และไม่รู้จะทำยังไงต่อ เลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เพื่อจะโทรหาแฟนของฉันให้มาช่วย แต่วิทย์ก็มาแย่งโทรศัพท์ไปจากมือฉัน และเขวี้ยงโทรศัพท์ใส่ผนัง จนโทรศัพท์ของฉันดับไปฉัน : วิทย์อย่าทำอะไรบ้า ๆ นะ เราเป็นเพื่อนกันนะวิทย์ อย่าทำแบบนี้เลย เราขอร้องวิทย์ : ฉันชอบเธอนะมิ้น และเธอต้องเป็นของเราคนเดียว วิทย์พุ่งเข้ามากอดฉัน และพลักฉันล้มลงกับพื้น ฉันดิ้นสุดชีวิตและร้องตะโกนเสียงดัง ว่าช่วยด้วย ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยด้วยอยู่ตลอดเวลา วิทย์เริ่มไซร์คอฉัน และฉันก็เริ่มหมดแรง และได้แต่ร้องให้ออกมาฉัน : วิทย์อย่าทำแบบนี้เลยนะ ปล่อยเราไปเถอะ วิทย์ไม่ฟังฉันเลยซักนิด แต่จู่ๆเราทั้งคู่ก็ได้ยินเสียงบางอย่างดังขึ้น"..ครืดดด….ครืดดดด...ครืดดด.." เสียงเหมือนมีใคร ลากอะไรบางอย่างในห้อง วิทย์เริ่มมองหาที่มาของเสียง แต่ก็ไม่พบ ในหัวของฉันกลับคิดว่า ต้องเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นแน่ ๆฉัน : วิทย์ เราว่าเสียงนี้ไม่ใช่คนแล้วล่ะ วิทย์ หยุดเถอะนะ อย่าทำอะไรเราเลยวิทย์ : เพ้อเจ้อ… ผีมันไม่มีอยู่จริงหรอกนะมิ้น แต่แล้วข้างหลังวิทย์นั้น ก็มีบางอย่างปรากฎขึ้น ฉันอึ้งและกลัวกับสิ่งที่ฉันเห็นมากๆ สิ่งที่ฉันเห็นอยู่นั้นคือ ร่างผู้หญิงผมยาว และเนื้อตัวของเธอ เปียกชุ่มไปด้วยน้ำเหลือง ตัวพองจนเนื้อปริแตก ตาของเธอถลนออกมา ลิ้นของเธอห้อย และกลิ่นเหม็นเน่ามากๆ ในมือของเธอถือสายไฟอยู่เส้นหนึ่ง มืออีกข้างเธอลากบันไดอยู่ ฉันแทบไม่ต้องเดาเลยว่าเธอเป็นใคร เพราะฉันจำได้แม่นว่า นั่นคือพี่น้ำหนึ่ง ที่พึ่งผูกคอตายไป เมื่ออาทิตย์ที่แล้วนั่นเอง วิทย์สังเกตเห็นสีหน้าของฉันแปลกๆไป ก็เลยหันไปมองว่ามีอะไร ในขณะที่วิทย์ได้เห็นกับสิ่งตรงหน้าแล้วนั้น ก็ตกใจและเขยิบตัวหนีออกจากตรงนั้นทันที "...กรี๊ดดดดดดดดดดดด…" เสียงของพี่น้ำหนึ่ง กรีดร้องเสียงดังใส่วิทย์ เธอมองมาที่วิทย์ด้วยสายตาโกรธแค้น เธอทิ้งบันไดลงกับพื้น แล้วเธอก็ค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ๆวิทย์ วิทย์พยายามวิ่งหนีสุดชีวิต แต่ทว่า...เธอกลับหายตัวได้ เธอหายตัวแล้วไปโผล่อยู่ต่อหน้าวิทย์ และใช้มือบีบคอวิทย์ วิทย์พยายามดิ้นสุดแรง แต่ก็ไม่สามารถสู้แรงของพี่น้ำหนึ่งได้ พี่น้ำหนึ่งนั้นบีบคอวิทย์ และยกตัววิทย์ขึ้นจนขาของวิทย์ลอยขึ้นจากพื้น เธอจับวิทย์และเดินไปที่พัดลมกลางห้อง อีกมือหนึ่งของเธอผูกสายไฟกับพัดลม และผูกเป็นห่วง ต่อจากนั้นเธอก็จับหัวของวิทย์แขวนกับห่วงนั้น ขอบคุณภาพจาก Pixabay cr.https://pixabay.com/images/id-1333756/ ร่างของวิทย์ดิ้นทุรนทุรายไปมา และพี่น้ำหนึ่งก็จ้องมองไปที่วิทย์ และหัวเราะเสียงดังอย่างสะใจ ฉัน..ที่ได้เห็นเหตุการณ์นี้ ฉันก็ทำอะไรไม่ถูกและกลัวมากๆ ฉันตัวสั่น ขาสั่น มือสั่นไปหมด ใจเต้นแรง ได้แต่กรีดร้องออกมา และฉันก็หมดสติไป เช้ามา...ภารโรงขึ้นมาเปิดห้องสมุด ก็เห็นวิทย์ที่แขวนคออยู่กับพัดลม และฉันที่นอนหมดสติอยู่ ภารโรงโทรหาตำรวจ และแจ้งทางมหาวิทยาลัย อาจารย์ฝ้าย ซึ่งเป็นอาจารย์สอนคณะของฉันเป็นคนปลุกฉันอาจารย์ฝ้าย : วิชุดา วิชุดา วิชุดา ฉันได้สติ และลืมตาขึ้น และต้องกรีดร้องเสียงดังออกมาอีกครั้ง เมื่อมองขึ้นไปเห็นสภาพของวิทย์ สภาพของวิทย์นั้น เหมือนกับพี่น้ำหนึ่งตอนผูกคอตายเลย ตาของวิทย์ถลนออกมาทั้งสองข้าง และลิ้นก็ห้อยออกมาจากปาก อาจารย์ฝ้ายพยายามถามฉันว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ฉันก็ยังคงกลัวและตัวสั่น สติแตก และโวยวาย อาจารย์ฝ้ายพาไปที่โรงพยาบาล เนื่องจากเนื้อตัวของฉัน มีรอยช้ำเต็มไปหมด ไปถึงโรงพยาบาลฉันยังคงสติแตก ฉันยังคงกลัวและตัวสั่นอยู่ หมอเลยให้ฉันกินยานอนหลับ และฉันก็หลับไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็เจอน้ำกับใยไหมน้ำ : ฉันไม่นึกเลยว่าวิทย์จะกล้าทำแบบนี้ใยไหม : แต่จู่ๆ วิทย์ก็ฆ่าตัวตาย ฉันว่าห้องสมุดต้องมีอาถรรพ์แน่ ๆ เลยแกฉัน : ฆ่าตัวตายหรอ ?น้ำ : ในกล้องวงจรปิด เห็นวิทย์กำลังทำมิดีมิร้ายกับเธอ และก็ตบเธอสลบไป แต่จู่ๆ ก็หยุดทำอะไรเธอ แล้วเดินไปกระชากสายไฟโต๊ะคอม แล้วไปลากบันไดมา ผูกคอตายกับพัดลมสภาพเหมือนพี่น้ำหนึ่งเป๊ะ ๆ เลยใยไหม : ดูคลิปนี้สิ ฉันถ่ายจากกล้องวงจรปิดมาให้แกดู ใยไหมยื่นโทรศัพท์ให้ฉันดู ฉันเริ่มสับสนกับเหตุการณ์ที่ฉันเห็น ทำไม..ถึงไม่เหมือนกับที่ฉันเจอเลย แต่ฉันก็ไม่กล้าที่จะบอกเรื่องนี้กับใครเลย เพราะพูดไปก็คงไม่มีใครเชื่อ วันต่อมา..ทุกคนในมหาวิทยาลัย ก็มองมาที่ฉันแปลกๆ ซุบซิบกันเต็มไปหมด พูดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับฉัน เพราะเชื่อว่าวิทย์เป็นคนซื่อไม่น่าจะทำอะไรแบบนี้ หาว่าฉันไปยั่ววิทย์ ทั้งๆที่มีแฟนอยู่แล้ว หลังจากนั้นไม่นาน แฟนของฉันก็รู้เรื่อง ที่ฉันเกือบถูกข่มขืน ก็บอกเลิกกับฉัน ด้วยเหตุผลที่ว่า "..รับไม่ได้.." ฉันได้แต่ถามกลับไปว่า "..แล้วฉันผิดอะไร.."ขอบคุณภาพจาก Pixabay cr.https://pixabay.com/images/id-1958723/ ฉันจิตตกอยู่นาน ก็เริ่มทำใจได้ ทุก ๆ คนรอบข้างของฉัน ก็เริ่มตีห่างออกจากฉันกันไปหมด ฉันต้องทนอยู่คนเดียว และต้องทนกับสายตาน่ารังเกียจพวกนั้น แต่ฉันไม่คิดทำร้ายตัวเอง เหมือนพี่น้ำหนึ่งแน่นอน เพราะฉันไม่ได้ทำอะไรผิด ฉันยังต้องเรียนที่นี่ เพื่อปริญญาบัตรที่พ่อกับแม่ฉันหวังไว้ ฉันจึงไม่สนใจคนพวกนั้นอีก ฉันตัดสินใจ ไม่ยุ่งกับใครและทำสิ่งที่ฉันฝันต่อไป และแล้วฉันก็เรียนจบซักที ฉันภูมิใจมากๆ ในวันรับปริญญา ฉันกับครอบครัวเราก็มีความสุขกันมากๆ ฉันบอกกับครอบครัวของฉันว่า ฉันจะทำศัลยกรรม และเปลี่ยนชื่อได้ไหม ทุกคนก็ไม่ได้ขัดฉัน ฉันแค่ให้เหตุผลว่า จะเปลี่ยนแปลงมันไป เพื่อเป็นการเสริมดวงของฉันเฉยๆ แต่ไม่ได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับฉัน ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ และการที่ฉันเริ่มทำงานครั้งแรกของฉัน มันเหมือนการเริ่มต้นชีวิตใหม่ เพราะทุกคนที่ทำงานนั้นรัก และเอ็นดูฉันเสมอ ฉันได้รับรู้ถึงความรู้สึก เหมือนตอนที่เคยมีเพื่อนในเมื่อก่อนนั้น มันรู้สึกดีมากๆเลยล่ะ......เรื่องนี้มันทำให้ฉันรู้ว่า คำพูดของคนไม่สามารถทำร้ายเราได้ ถ้าจิตใจเราเชื่อมั่นการกระทำของเรา หากเราไม่ได้ทำอะไรผิด ก็จงทำชีวิตของเราให้มีความสุข…...อย่าปล่อยให้คำพูดของคุณ หรือมอบการบูลลี่ให้ใคร คนเรามีผิดพลาดกันได้เสมอ จงอย่าทำร้ายใครด้วยคำพูด ถ้าหากตัวคุณเองก็ยังทำผิดพลาดอยู่…...เราไม่สามารถบังคับให้ใครรักเราได้ ทุกคนมีความคิดและความรู้สึก จงใช้สติในความรัก หากเขาไม่รักก็จงยอมรับความจริงเสียบ้าง ไม่ใช่ไปทำร้ายเขา..