อดีตเด็กเชลซีที่ซื้อมาปั่นหวังแจ้งเกิด แต่ดันไปได้ดีกับทีมอื่น เมื่อต้นฤดุกาล 2019/2020 ที่ผ่านมา มีเพียงเชลซีทีมเดียวเท่านั้น ที่ทำการซื้อผู้เล่นใหม่เข้ามาเสริมทัพไม่ได้ เนื่องด้วยพวกเขานั้นดันไปทำผิดกฎร้ายแรงของฟีฟ่า เซ็นดาวรุ่งมาเข้าทีมหลายต่อหลายคน ทำให้ทีมเชลซีถูกแบนในการซื้อขายถึง 2 ช่วงที่ตลาดนักเตะทำการเปิดซื้อ-ขายตัวนักเตะกัน แต่โชคยังดีที่เชลซีได้ยื่นอุธรณ์ ขอให้ลดโทษแบนของทีมลงได้ ทำให้พวกเขาสามารถซื้อ-ขายนักเตะเข้ามาเสริมทัพเหมือนทีมอื่น ๆ ได้แล้ว ถ้าจะพูดถึงทีมที่ขึ้นชื่อเรื่องการเซ็นนักเตะดาวรุ่งเข้ามาสู่ทีมแล้ว ทีมเชลซีถือเป็นทีมอันดับต้น ๆ หรืออันดับหนึ่ง ในการซื้อขายผู้เล่นอายุน้อยเลยก็ว่าได้ แต่บรรดานักเตะอายุน้อยหลาย ๆ คนที่ถูกเซ็นเข้ามา มีไม่กี่คนหรอกครับที่แจ้งเกิดกับทีมได้ บางคนมีชื่อเสียงมาก่อนแล้ว ถูกคาดหวังว่าจะเป็นดาวดวงใหม่ของวงการลูกหนัง แต่มาดับที่สโมสรแห่งนี้แล้วหายไปดื้อ ๆ เลยก็มีครับ แต่ก็ไม่ใช่ว่าพวกเขาเหล่านั้นไม่เก่งนะครับ ในบรรดานักเตะดาวรุ่งที่เชลซีลงทุนทุ่มซื้อมา บางคนไม่แจ้งเกิดกับเชลชีแต่พวกเขาก็ไปแจ้งเกิดและเป็นดาวดังของทีมอื่น ๆ ก็มีนะครับ ไม่รอช้าเรามาดูกันดีกว่าครับว่ามีใครกันบ้างครับ ภาพจาก sport.trueid.net Romelu Lukaku ลูกากู เริ่มเล่นฟุตบอลจากการเป็นนักเตะเยาวชนของสโมสรดังจากลีกเบลเยียมอย่าง อันเดอร์เลชท์ ด้วยความที่เขาตัวใหญ่ แต่กลับมีทั้งความเร็วและความแข็งแกร่ง จึงถูกนำไปเทียบกับตำนานของเชลซีอย่างดรอกบา บ้างก็ว่าเขานี้แหละคือ นิวดรอกบาคนใหม่ ทางสโมสรเชลซีก็ไม่ทำแฟน ๆ ผิดหวัง พวกเขาดำเนินการนำลูกากูย้ายเข้ามาสู่ทีมเชลซีในฤดูกาล 2011/12 ด้วยค่าตัว 13.50 ล้านปอนด์ โดยถูกคาดหวังว่าจะมาเป็นตัวตายตัวแทนของดรอกบา แต่ก็ไม่รู้เพราะความกดดันหรือความคาดหวังสูงจากแฟน ๆ เขาก็ไม่สามารถแจ้งเกิดและยึดตัวจริงจากทีมเชลซีได้เสียที จนถูกปล่อยยืมตัวไปเล่นให้กับเวสต์บรอมวิชอัลเบียน และเอฟเวอร์ตันตามลำดับ จนกระทั่งเอฟเวอร์ตันได้ซื้อขาดตัวเขาจากเชลซีด้วยค่าตัว 31.82 ล้านปอนด์ ก่อนจะโชว์ฟอร์มโหดถูกแมนยูกระชากตัวไปร่วมทีมด้วยค่าตัวสูงถึง 76.23 ล้านปอนด์ แต่กลับโชว์ฟอร์มกับทีมผีแดงไม่ค่อยออก จนถูกแฟน ๆ ตั้งฉายาว่า ตู้เย็น เมื่อไม่เป็นที่ต้องการและไม่มีความสุขอีกต่อไปแล้ว เขาจึงถูกแมนยูปล่อยตัวให้กับอินเตอร์มิลานไปด้วยค่าตัว 58.50 ล้านปอนด์ ภายใต้การคุมทีมของคอนเต้ ดูแล้วลูกากูจะกลับมาเล่นเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง โชว์ฟอร์มโหดยิงประตูถล่มทลายให้กับทีมงูใหญ่อินเตอร์มิลาน มีลุ้นแชมป์อยู่ในขณะนี้ ภาพจาก sport.trueid.net Kevin De Bruyne เริ่มเล่นฟุตบอลและมีชื่อเสียงกับทีม KRC Genk ทีมดังในลีกบ้านเกิดของเขาอย่างเบลเยียม ก่อนจะถูกทีมเชลซีดึงตัวมาร่วมทีมด้วยค่าตัว 7.20 ล้านปอนด์ แต่ก็ไม่ได้รับโอกาสในการลงสนามมากนัก จึงถูกปล่อยให้ทีมอื่นยืมตัวซะส่วนใหญ่ จุดแตกหักที่ทำให้่เขาออกจากทีมเชลซี เกิดขึ้นใน ฤดูกาล 2014 โชเซ่ มูรินโญ่ ที่หวนกลับมาคุมเชลซีอีกในเวลานั้น บอกกับเขาว่าตัวเขานั้นเป็นเพียงตัวเลือกลำดับที่ 6 รองจากพวกบรรดากองหน้าและปีกอย่าง วิลเลี่ยม ออสการ์ ชูเล่ร์ มาต้า ทำให้เขาตัดสินใจได้ในทันทีและบอกกับโชเซ่ มูรินโญ่ ว่าเขานั้นต้องการลงเล่น ให้ขายเขาออกจากทีมไปเสียเถอะ ทำให้ตัวเขาย้ายไปเล่นในลีกเยอรมันกับทีมอย่างโวล์ฟสบวร์กด้วยค่าตัว 19.80 ล้านปอนด์ ด้วยความที่คนมันมีของอยู่แล้วเพียงแค่ฤดูกาลเดียวเท่านั้น เขาก็โชว์ฟอร์มโหดจนไปเข้าตาเศรษฐีหน้าใหม่อย่างทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ดำเนินการดึงตัวเขากลับมาลงเล่นในพรีเมียร์ลีกด้วยค่าตัวสูงถึง 68.40 ล้านปอนด์ หลังจากนั้นเขาก็ช่วยแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กวาดแชมป์สร้างประวัติศาสตร์ของสโมสรไว้อย่างมากมาย ส่วนสถิติส่วนตัวของเขาก็พึ่งเป็นนักเตะที่ทำ50 แอสซิสต์เร็วสุดของพรีเมียร์ลีกอีกด้วย ภาพจาก sport.trueid.net Mohammed Salah ซาลาห์ เริ่มต้นมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักตั้งแต่ตอนอยู่กับทีมอย่างบาเซิ่ล เขาพาทีมลงเล่นในรายการแชมเปี้ยนส์ลีกและทำผลงานได้ดี อีกทั้งฟอร์มส่วนตัวก็สวยหรูพอที่จะไปเข้าตาบรรดาทีมยักษ์ใหญ่ของยุโรป แต่สุดท้ายก็เป็นเชลซีที่ได้ตัวเขาไปร่วมทีมด้วยราคา ค่าตัวประมาณ 11 ล้านปอนด์ การเริ่มต้นของเขากับเชลซีเหมือนจะทำได้ดีในช่วงแรก เขาทำการปลดล็อคประตูแรกของตัวเองด้วยการยิงทีมใหญ่อย่างอาเซ่นอล แต่หลังจากนั้นฟอร์มของเขาก็ไม่ได้คงเส้นคงวาจนสามารถยึดตัวจริงได้ บวกด้วยกับการมาของ เอเด็น อาซาร์ ก็ทำให้เขาแทบไม่ได้รับโอกาสลงเล่นเลย สุดท้ายก็เลยทนต่อการเป็นสำรองไม่ไหวจึงต้องหาโอกาสลงสนามให้มากขึ้น เขาเลยย้ายไปเล่นกับฟิออเรนติน่าด้วยสัญญายืมตัว แม้จะโชว์ฟอร์มได้ดีกับทีม แต่หลังจบฤดูกาลเจ้าตัวกับเลือกย้ายไปเล่นกับทีมโรม่าคู่แข่งร่วมลีกซะอย่างงั้น โดยเชลซีปล่อยตัวเขาให้โรม่าด้วยค่าตัว 15 ล้านปอนด์ เพียงแค่ฤดูกาลแรกเขาก็โชว์ฟอร์มโหดซัด 15 ประตูกับอีก 6 แอสซิสต์ พร้อมกับคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของสโมสรไปครองแบบไร้ข้อกังขา ฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมมันทำให้เขาได้อยู่กับทีมเพียงแค่ปีเดียวเท่านั้น และเป็นทีมลิเวอร์พูลที่ยื่นข้อเสนอให้กับโรม่าสูงถึง 42 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นข้อเสนอที่ทีมอย่างโรม่าไม่อาจปฏิเสธมันได้ จนยอมปล่อยตัวเขาออกไป หลังจากย้ายกลับมาเกาะอังกฤษอีกครั้ง เขาก็โดนสบประมาทว่าจะล้มเหลวเหมือนตอนอยู่กับเชลซีหรือไม่ การที่เขาไม่ประสบความสำเร็จกับเชลซีเพราะรูปร่างที่เล็กของเขาไม่สามารถทนแรงปะทะหนัก ๆ ของฟุตบอลอังกฤษได้ แต่เวลาก็เป็นเครื่องพิสูจน์คน สองฤดูกาลแรกของเขากับลิเวอร์พูลลงเล่นให้กับทีมไป 74 นัด ยิงไป 54 ประตู พาทีมคว้าถ้วยแชมป์เปียนลีกสมัยที่ 6 มาครอบครองได้สำเร็จ และในฤดูกาลปัจจุบันเขาก็พาทีมลิเวอร์พูลยึดจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก โดยทิ้งห่างอันดับสองอย่างแมนซิตี้ขาดลอย และมีโอกาสสร้างประวัติศาสตร์ให้กับสโมสรด้วยคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษมาครอบครองเป็นสมัยแรกในรอบ 30 ปีเลยก็ว่าได้ แถมผลงานส่วนตัวของเขาในเวลานี้ก็ซัดไป 16 ประตูด้วยกันครับ ภาพจาก sport.trueid.net เป็นอย่างไรกันบ้างทั้งสามคนที่กล่าวมามีแต่นักเตะดัง ๆ ที่กำลังเป็นดาวเด่นของวงการฟุตบอลอยู่ในขณะนี้เลยใช่ไหมครับ สำหรับแฟน ๆ สิงห์บลูเชลซี ผมคิดว่าหลายคนก็คงอดเสียดายไม่แพ้กับตัวผมเองที่เป็นแฟนเชลชี ที่ต้องเสียนักเตะเหล่านี้ไป ถ้าพวกเขาอยู่กับทีมต่อ ขุมกำลังของทีมคงจะแข็งแกร่งและช่วยกันสร้างประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ไปแล้ว แต่จะทำไงได้เราก็คงต้องอยู่กับปัจจุบันกันต่อไปนะครับ เพราะตอนนี้แฟรงก์ แลมพาร์ดก็กำลังให้โอกาสบรรดาดาวรุ่งของเชลชี ซึ่งหลาย ๆ คนก็ดูมีแววรุ่งเลยทีเดียวและหวังว่าประสบการณ์ในอดีตจะทำให้บอร์ดบริหารชองเชลชีไม่ตัดสินใจผิดพลาดอีกครั้ง คงไม่ปล่อยเพชรเม็ดงามไปให้กับสโมสรอื่นใช้งาน จนทีมตัวเองต้องมานั่งเสียดายกันภายหลังอีกแล้วนะครับ ภาพปกจาก sport.trueid.net